วันนี้หลายคนกำลังบึ่งจากออฟฟิศ กำตั๋วไปดู Avengers: Endgame ไปมองหาความหวังหลังจากที่สุดยอดวายร้ายได้สุดยอดอาวุธ ชะตากรรมของเหล่าฮีโร่ที่ไม่เคยพังขนาดนี้ โลกเราจะไปทางไหนต่อ ลุ้นๆ
ว่าไป ถ้าจะสร้างตัวร้ายสุดท้ายที่เหล่าซูเปอร์ฮีโร่ทั้งจักรวาลมารวมตัวกันเพื่อเอาชนะ มันต้องฮีโร่สเกลระดับธานอสนี่แหละ ธานอส เป็นตัวแทนของการทำลายล้างที่ดูจะมีปรัชญา มีแรงจูงใจที่จะลุกขึ้นเพื่อ ‘สร้างสมดุล’ ให้กับโลกนี้ ดูเหมือนว่าจากชื่อ ‘ธานอส’ โดยคำชวนให้นึกถึงเทพเจ้ากรีกแห่งความตายนาม Thanatos เทพเจ้าที่ดูจะเป็นที่รักน้อยที่สุด แต่ก็ดูจะเป็นเทพเจ้าที่สำคัญองค์หนึ่ง
ดูเหมือนว่าในตำนานไหนๆ ก็ต้องมีเทพเจ้าแห่งความตายหรือการทำลายล้างเป็นปลายทางสุดท้าย ถ้ามีการสร้าง มีการดำรงอยู่ ก็ต้องมีความตายเป็นปลายทางสุดท้าย ลองนึกภาพว่าถ้าโลกหรือชีวิตๆ หนึ่งดำเนินต่อไปเรื่อยๆ โดยไม่มีวันจบ เราอาจมองไม่เห็นความหมายของการมีชีวิตหากปราศจากความตาย และการทำลายอันหมายถึงการสิ้นสุดก็ดูจะเป็นการจบวงจรที่นำไปสู่การสร้างใหม่ ในหลายวัฒนธรรม การทำลายจึงเป็นส่วนสำคัญของการสร้างสมดุล แบบเดียวที่ธานอสต้องการสร้างขึ้น แต่ดูเหมือนว่าวิธีการสร้างสมดุลของธานอสจะขัดแย้งกับความเชื่อแบบเดิมของมนุษย์อันเป็นพันธกิจศักดิ์สิทธิ์ของทวยเทพ
Thanos— Thanatos เทพเจ้าแห่งความตาย
ในทุกศาสนาจะต้องมีการเล่าถึงวันสิ้นโลก ภาพของวันสิ้นโลกดูจะไม่ค่อยต่างกับสิ่งที่ธานอสต้องการจะทำเท่าไหร่ ในศาสนาคริสต์มีการเล่าถึงน้ำท่วมโลก ในความเชื่อแบบพุทธก็มีการพูดถึงการสร้างโลกและมนุษย์ที่ไปจบที่มีไฟมาทำลายภพภูมิที่ยิ่งใหญ่ ในความเชื่อแบบพราหมณ์พูดถึงเทพเจ้าทั้งสาม โดยมีพระศิวะเป็นผู้ทำลายเป็นมหาเทพองค์สุดท้าย
ถ้าโลกใบนี้คือเรื่องเล่าที่แสนยาวนาน มนุษย์เราเกิดขึ้นตรงกลางระหว่างจุดเริ่มต้นและจุดจบ พอเราจินตนาการว่าเราเกิดขึ้นมายังไงแล้ว เราก็ต้องจินตนาการถึงปลายทางของพวกเราไว้ด้วย ไม่งั้นเรื่องเล่าของเราก็จะไม่สมบูรณ์ ในทำนองเดียวกันมนุษย์ดูจะชอบภาพของการถูกทำลาย เราวาดภาพของโลกที่ถูกทำลายไว้อย่างละเอียด อะไรจะค่อยๆ หายไปก่อน เป็นการล้างโลกอย่างถี่ถ้วน เป็นขั้นเป็นตอน และตระการตา
ตรงนี้เราอาจจะนึกถึงอีกความหมายของคำว่า Thanatos คือคำอธิบายของฟรอยด์ที่อธิบายจิตใจของมนุษย์ว่าครึ่งหนึ่งของเรามีความตาย ความก้าวร้าว และความรุนแรงประกอบอยู่ บางทีชีวิตประจำวันของเราอาจจะน่าเบื่อและจำเจ การได้จินตนาการว่าโลกที่แอบไม่ตื่นเต้นใบนี้ ถ้าตกอยู่ในภาวะสุดท้าย ชีวิตที่จืดชืดจะชวนวิ่งหน้าตั้งได้ขนาดไหนกันนะ
ปัญหาของบทบาทพระเจ้า
ถ้าเรามองว่าการทำลายล้างเป็นเรื่องของความยุติธรรม ตรงนี้เองที่ทำให้การล้างโลกและสร้างสมดุลของธานอสดูจะเป็นปัญหา ลองนึกว่าเวลาเรานึกถึงจุดจบของโลก—รวมไปถึงความตาย ลึกๆ แล้วเรากำลังนึกถึงปรากฏการที่มีความ ‘เสมอภาค’ และ มี ‘ความยุติธรรม’ เพราะทุกคนจะพบเจอกับความตายเช่นเดียวกัน
ความตายเป็นภาวะที่ไม่เลือกหน้า ไม่เลือกฐานะ และความตายไปจนถึงเรื่องวันสิ้นโลกมักเป็นจินตนาการที่เรานึกไปถึงวันที่ความยุติธรรมจะคืนกลับมา คือแม้ว่าโลกนี้มันจะห่วยแตก ไม่เสมอภาคแค่ไหน แต่เมื่อวันสิ้นโลกมาถึง ความทุกข์ยากตรงนี้ก็จะสิ้นสุดลง ผู้คนจะถูกเรียกขึ้นไปรับผลตามที่กระทำไว้อย่างเหมาะสม
สำหรับธานอส ดูเหมือนว่าธานอสจะกำลังเอาแนวคิดเชิงเศรษฐศาสตร์มาทำให้การล้างโลกและการสร้าง ‘สมดุล’ กลายเป็นเรื่องสัดส่วนที่เพียงพอ(เดิมการล้างโลกเป็นเรื่องทางธรรม สมดุลต้องเป็นสมดุลระหว่างความดีหรือคุณธรรมสิ) แต่เอาจริงแล้วถ้ามองอีกแง่ ‘การสุ่ม’ ของธานอส ก็ดูจะเป็น ‘ความเสมอภาค’ แบบสมัยใหม่ที่ก็ยุติธรรมในแบบของตัวเองอยู่เหมือนกัน
แต่ก็นั่นแหละ หัวใจสำคัญของการล้างโลกดูจะเป็นภารกิจของทวยเทพ สิ่งที่ธานอสกำลังทำ คือการเล่นบทของพระเจ้า โดยที่มีวิธีคิดแบบสมัยใหม่เช่น เศรษฐศาสตร์ การสุ่มอย่างเสมอภาคมาเป็นแกนกลางในการตัดสินชี้เป็นชี้ตายของผู้คน
อ้างอิงข้อมูลจาก