ปี 2016 กำลังจะผ่านพ้นไป หลายเสียงแว่วๆ ว่าเป็นปีที่โลกไม่ค่อยรักเราเสียเท่าไหร่ เป็นปีที่เราอาจจะมองย้อนไปอย่างเศร้าๆ ผ่านเมฆหมอกของความขัดแย้ง ความแตกแยก การสูญเสีย
ปีนี้พวกเราคนไทยเเผชิญหน้ากับความสูญเสียครั้งใหญ่ อันเป็นความสูญเสียที่เรียกได้ว่าเป็นครั้งสำคัญของปีนี้
นอกจากความสูญเสียและความเศร้าโศกแล้ว พวกเรายังคงต้องเจอกับปัญหาอีกสารพัด เราเจอกับปัญหาน้ำท่วม ปัญหาราคาข้าวและราคายางตกต่ำ รวมไปถึงเรายังคงเจอกับความขัดแย้ง การแบ่งฝักแบ่งฝ่าย ไปจนถึงการทะเลาะเบาะแว้งต่างๆ ที่เราเห็นเป็นคลิป เป็นข่าว เป็นเรื่องราวรุนแรงเรื่อยมา
ดูเหมือนว่าจะเป็นปีที่มองกลับไปพร้อมคราบน้ำตา แต่ที่สุดท้ายเราก็ยังมีรอยยิ้มจางๆ ได้
ถึงมันจะเป็นปีไม่ค่อยดีนัก แต่เราก็ผ่านมันมาได้ เท่านี้ ก็ถือว่ามันก็ไม่ได้แย่ไปซะทุกอย่างหรอก จริงไหม
Johnnie Walker กับแคมเปญ We will keep walking ชวนพวกเราทุกคนที่มีหวัง ยังมีพลัง มีสองมือ และสองเท้าที่พร้อมที่จะก้าวเดินและช่วยเหลือเพื่อผ่านพ้นมันไปด้วยกัน เพื่อบอกว่าไม่ว่าอะไรจะเข้ามา แต่พวกเราก็ยังคงพร้อมที่จะเดินไปด้วยกัน…ต่อไป
ท่ามกลางเมฆหมอกของความยุ่งเหยิง (In medias res)
มีนักคิดกล่าวว่ามนุษย์หรือประวัติศาสตร์ของมนุษย์เราถือกำเนิดขึ้นตรงกลาง (in medias res – into the middle things) พูดให้เข้าใจง่ายๆ คือเรื่องราวของพวกเรานั้นเกิดขึ้น ‘ในระหว่าง’ หรือเกิดท่ามกลางสิ่งต่างๆ อยู่เสมอ เราไม่ได้เกิดขึ้นในตอนต้นและสิ้นสุดลงในตอนจบ
ฟังดูงง อธิบายง่ายๆ ได้ว่าตอนเราเกิดขึ้นมาสิ่งต่างๆ ก็ดำเนินไปอยู่แล้ว และเมื่อเรื่องราวของเราสิ้นสุดลง สรรพสิ่งก็ยังคงดำเนินต่อไป
การเกิดขึ้นท่ามกลางสิ่งต่างๆ ของมนุษย์เรา ถ้าเป็นนิทานมันก็เหมือนกับเป็นตอนกลางเรื่อง ซึ่งแน่ล่ะ ตอนกลางเรื่องมักไม่ใช่ความสงบสุข แต่คือการอยู่ท่ามกลางเรื่องราวเหตุการณ์ต่างๆ เหตุการณ์หรือเรื่องราวต่างๆ ก็มักเป็นความยุ่งเหยิง เป็นปัญหา เป็นความขัดแย้ง เป็นวิกฤติ
แล้วเราจะก้าวฝ่าไปด้วยกัน
ถ้ามนุษยชาติต่างเกิดขึ้นท่ามกลางความยุ่งเหยิง อย่างน้อยๆ เราในฐานะลูกหลานและมนุษย์ที่ยังยืนอยู่ต่อไป ก็ยังคงยืนหยัดและยืนอยู่ได้
ถ้านับตั้งแต่บรรพบุรุษ มาจนถึงในช่วงชีวิตของพวกเรา เราเองก็ต่างผ่านเรื่องราวมามากมาย และจะว่าไปเรื่องราวทั้งหลายก็ถาโถมเข้ามาอย่างไม่เคยหยุดหย่อน
เราอาจรู้สึกว่าปีนี้ช่างย่ำแย่ เราสูญเสียร่มโพธิ์ร่มไทรซึ่งเป็นความสูญเสียที่แทบจะจินตนาการภาพหลังจากนั้นไม่ได้
แต่ก่อนหน้านี้พวกเราเองก็ผ่านวิกฤติมาแล้วนับครั้งไม่ถ้วน เราผ่านน้ำท่วมเมืองหลวงครั้งใหญ่ เราผ่านเศรษฐกิจตกต่ำปี 40 และเราเคยมีนักเรียนที่เป็นศัตรูกันที่วันนี้หันหน้ามาร่วมมือกัน
ตอนนี้เรากำลังยืนอยู่ในปลายปี 2016 ปีที่พวกเราต่างก็ร่วมกันคนละไม้คนละมือค่อยๆ พากันเดินผ่านปัญหาร้ายแรงต่างๆ มาและพร้อมที่จะก้าวไปสู่ปีต่อไปด้วยกัน
เรายังรอดอยู่ หลังจากความสูญเสีย พวกเราก็ใช่ว่าจะยอมแพ้ แต่ด้วยมือไม้เล็กๆ ที่ร่วมกันคนละไม้ละมือ ร่วมกันประคับประคองกันจนเราเข้มแข็งขึ้น ไม่ว่าจะน้ำท่วมหรือปัญหาราคาข้าว
ปัญหาและวิกฤติทั้งหลายนี่แหละที่เป็นสิ่งที่ทำให้เราออกมารวมพลังกันมากขึ้น ก้าวผ่าน และแข็งแรง แน่นแฟ้นกันยิ่งกว่าเดิม
ประวัติศาสตร์เรา คือประวัติศาสตร์ของเรื่องวุ่นวาย แต่ที่สำคัญกว่านั้น ประวัติศาสตร์ของพวกเราคือประวัติศาสตร์ของคนตัวเล็กๆ ที่ยังคงก้าวเดินและฝ่าพ้นมันมาได้…ด้วยกัน
ร่วมกันแบ่งปันประสบการณ์และแรงบันดาลใจ เพื่อก้าวเดินข้ามความสับสนที่รอเราอยู่ ได้ที่ www.wewillkeepwalking.com