กลิ่นหน้าหนาวโชยมา แสดงว่าวันหยุดสิ้นปีใกล้มาถึง เราเองก็อาจจะเป็นคนที่รอคอยสัปดาห์แห่งความชิลมาเนิ่นนาน เพราะจะลาแต่ละครั้ง ก็ต้องคิดหน้าคิดหลังหลายตลบ ลาหลายวันก็เกรงใจ เราหยุดไปจะมีใครทำแทนเราได้ไหมนะ แล้วเพื่อนๆ จะต้องทำงานหนักขึ้นหรือเปล่า โควตาวันหยุดเราแท้ๆ แต่ทำไมต้องเกรงใจคนอื่นนะ มาดูกันว่าเราจะใช้วันหยุดอย่างไรให้สบายใจและคุ้มค่า
U.S. Travel Association บอกตัวเลขที่น่าตกใจว่ากว่า 40% ของคนทำงาน มักจะใช้วันหยุดของตัวเองไม่หมด รวมแล้วกว่า 430 ล้านวันหยุดที่ถูกแปรเปลี่ยนเป็นเงินแทนในแต่ละปี และข่าวร้ายก็คือ ไม่ใช่ว่าทุกที่จะสามารถเปลี่ยนวันหยุดไปเป็นเงินได้ ไม่คุ้มเลยใช่ไหมล่ะ
แม้เราจะนั่งคอยรอคอยวันหยุด ในตอนที่เราเหนื่อยล้ากายใจแค่ไหน แต่พอถึงเวลาที่เราได้หยุดจริงๆ (หรือเลือกใช้วันหยุดได้ตามใจ) เรากลับไม่กล้าที่จะใช้วันหยุดของเราอย่างเต็มที่ จำนวนคนที่ตัดสินใจทิ้งวันหยุดจึงมีมากมายขนาดนี้
เหตุผลที่ทำให้เราไม่กล้าใช้วันหยุดเต็มที่มีหลายอย่างเหลือเกิน ตั้งแต่เกรงใจเพื่อนร่วมงาน ถ้าเราลาคนอื่นต้องทำหนักขึ้น ถ้าเราไม่อยู่ใครจะทำ อยากจะลาหลายวันก็กลัวถูกมองว่าขี้เกียจ ผลสำรวจจาก The USTA บอกว่า คนทำงานกว่า 35% ไม่กล้าลางาน เพราะกลัวว่าหากหยุดไปจะไม่มีคนทำหน้าที่แทนได้ และกว่า 40% ยอมทิ้งวันหยุดที่ลาไว้แล้ว เพราะกังวลเรื่องงานเมื่อกลับเข้าออฟฟิศ เห็นไหมว่าจะหยุดแต่ละทีมีหลายความลำบากใจมาขวางกั้น แก้ปัญหาด้วยการไม่หยุดมันซะเลยจะได้ไหม?
หยุดก่อนชาวออฟฟิศ American Psychological Association บอกว่าวันหยุดสามารถลดความเครียดให้เราได้จริงๆ เพราะมันจะพาให้เราย้ายตัวเองจากสภาพแวดล้อมเดิมๆ ที่มีบรรยากาศความเครียดตกค้างอยู่ อย่างออฟฟิศ และที่พักของเราที่เราอาจจะเคยใช้มันนั่งทำงาน และยังช่วยเพิ่มความโปรดักทีฟอีกอย่างน้อย 8% ต่อการใช้วันหยุด 10 ชั่วโมง
สารพัดประโยชน์ของวันหยุดที่เชื้อเชิญให้เราหยิบปฏิทินมาจิ้มวัน มากำจัดความไม่สบายใจที่คอยกอดขาเราเอาไว้ให้จดจ่อแค่ที่งาน ด้วยการเตรียมตัวลาหยุดอย่างสบายใจและใช้วันหยุดอย่างคุ้มค่ากันเถอะ
หาวันที่เหมาะสม
แม้ตามสามัญสำนึกของเราจะบอกว่า “ฉันจะหยุดวันไหนก็ได้ เป็นสิทธิ์ของฉัน” แต่ว่าเราไม่อาจทำแบบนั้นได้ เมื่อออฟฟิศแต่ละที่มีเงื่อนไขสำหรับวันลาที่แตกต่างกันไป เช่น ห้ามลาซ้ำกับคนอื่น ห้ามลาหลายวันติดต่อกัน ต้องลาล่วงหน้าอย่างน้อยกี่วัน เป็นต้น เราจึงต้องมองหาวันที่ลงตัวจริงๆ ไม่มีนัดหมาย ไม่มีประชุม เพื่อไม่ให้มีปัญหาอื่นๆ ตามมาทีหลัง จนวันหยุดของเรา กลายเป็นวันที่อึมครึมไปด้วยความกังวลแทน
เคลียร์งานก่อนไป
เมื่อได้วันลา (ที่รอคอย) ล่วงหน้าแล้ว ลองวางแผนการทำงานดูว่า เราเหลืองานอยู่ในมือเท่าไหร่ และมีเวลาเท่าไหร่ก่อนที่จะถึงวันลา ค่อยๆ แบ่งตารางงานอย่างลงตัว เพื่อให้งานเสร็จทันเวลา และควรเตรียมงานสำหรับวันหยุดไว้ด้วย ถ้าหากจำเป็น แต่ก็หมายความว่าต้องทำเผื่อไว้เท่าที่จำเป็นเท่านั้นนะ เพื่อไม่ให้การลาหยุดของเราต้องกลายเป็นโรงงานนรกสำหรับเพื่อนร่วมงาน และพยายามไม่รับโปรเจ็กต์ที่ยืดยาวก่อนวันลา เราจะได้มั่นใจว่าจะไม่ถูกตามงานในเวลาพักผ่อนให้เสียอารมณ์
ติดต่อได้ทางไหนบ้าง
เพื่อความสบายใจของเราว่าเราจะได้หยุดจริงๆ และความสบายใจของที่ทำงาน หากเกิดเรื่องฉุกเฉิน จะสามารถติดต่อเราได้ช่องทางไหนบ้าง เช่น อีเมลได้ ข้อความได้ แต่โทรศัพท์ไม่ได้ ไลน์ไม่ได้ เป็นต้น เพื่อไม่ให้เราถูกรบกวนในวันหยุด
ไม่ว่าวันลาหยุดนี้เราจะหยุดด้วยการนอนอยู่บ้าน หรือออกไปตะลุยเที่ยวหลากที่ วันหยุดของเราก็คือวันหยุด ไม่ใช่วันทำงานต่างสถานที่อย่างที่ออฟฟิศหลอกลวง ขอเพียงเราเตรียมตัวให้พร้อมก่อนจะลี้ไปนอนตีพุง เพื่อให้วันหยุดได้เป็นวันหยุดจริงๆ อย่างใจนึก
จะว่าไป ขอดูปฏิทินเดือนธันวาคมของเราก่อนนะ
อ้างอิงข้อมูลจาก