ดาราตลกที่รับบทเป็นผู้นำประเทศในซีรีส์ทางทีวี กำลังจะได้เป็นประธานาธิบดีจริงๆ หลัง exit poll ออกมาว่า เขาได้คะแนนในการเลือกตั้งจากประชาชนชาวยูเครนมากกว่า 70% เหนือคู่แข่งอย่างถล่มทลาย
Volodymyr Zelenskiy ดารานักแสดง วัย 41 ปี คงคาดไม่ถึงว่า จากการสวมบทครูที่จู่ๆ ชีวิตก็ผกผันได้เป็นผู้นำประเทศในซีรีส์ตลกซึ่งเริ่มฉายในปี ค.ศ. 2015 จะกลายมาเป็นชีวิตของเขาจริงๆ
ชื่อของพรรคที่เซเลนสกี้ใช้ในการแข่งขันเป็นชื่อเดียวกับรายการทีวีที่ทำให้เขามีชื่อเสียงจนถึงทุกวันนี้ – ‘ข้ารับใช้ของประชาชน’ (Servant of the People)
คำถามที่น่าสนใจก็คือ เกิดอะไรขึ้นกับการเมืองของยูเครน? และจะเกิดอะไรขึ้นกับชีวิตของเซเลนสกี้ในอีก 5 ปีถัดไป?
การเลือกตั้งประธานาธิบดียูเครน ถือเป็นการเลือกตั้งทางตรง กฎหมายกำหนดไว้ว่าให้มีขึ้นในวันอาทิตย์สุดท้ายของเดือน มี.ค.ในปีเลือกตั้ง โดยผู้ชนะเลือกตั้งจะต้องได้เสียงเกิน 50% ถึงจะได้เป็นประธานาธิบดี ไม่เช่นนั้นก็ต้องนำ 2 ผู้สมัครซึ่งได้รับคะแนนสูงสุดในรอบแรก มาเลือกตั้งอีกครั้งเพื่อหาผู้ชนะในรอบที่สอง
ในการเลือกตั้งรอบแรก 31 มี.ค.ที่ผ่านมา จากผู้สมัคร 39 คน เซเลนสกี้ได้รับคะแนนเสียง 30% มากเป็นอันดับหนึ่ง จากจำนวนผู้ออกมาใช้สิทธิราว 62% ของผู้มีสิทธิลงคะแนนกว่า 34.5 ล้าน เหนือกว่า นักการเมืองมากประสบการณ์-ประธานาธิบดียูเครนคนปัจจุบัน Petro Poroshenko ที่ได้คะแนนเสียง 16% ตามมาเป็นอันดับสอง
ในการเลือกตั้งรอบสองที่มีขึ้นในวันที่ 21 เม.ย.ที่ผ่านมา จึงเป็นการพบกันอีกครั้งระหว่างเซเลนสกี้และโปโรเชงโก้ ซึ่งผลออกมากลายเป็นผู้ไร้ประสบการณ์การเมือง คว้าชัยไปด้วยคะแนนนิยมที่ต่างกันเกือบ 2 เท่าตัว (73% ต่อ 24%)
สื่อตะวันตกหลายๆ แห่งเขียนบรรยายชัยชนะของนักการเมืองหน้าใหม่รายนี้ว่า เกิดจากความไม่พอใจต่อตัว ‘(ว่าที่)อดีตผู้นำ’ ซึ่งขึ้นมารับตำแหน่งประธานาธิบดียูเครน หลังประชาชนลุกฮือไม่พอใจออกมาขับไล่ผู้นำคนเดิม เมื่อปี ค.ศ.2014 แต่คำสัญญาว่าจะเดินหน้าพัฒนาชีวิตของประชาชนกลับเป็นไปอย่างเชื่องช้าตลอด 5 ปีที่ผ่านมา
โค้งสุดท้ายของการเลือกตั้ง ในงานดีเบตใหญ่ซี่งจุดขึ้นที่สนามกีฬาโอลิมปิกในกรุงเคียฟ แม้โปโรเชงโกจะโจมตีเซเลนสกี้ เรื่องความไร้ประสบการณ์ – แต่ก็ช้าเกินไปที่จะเปลี่ยนผลการลงคะแนน แม้ที่ผ่านมา เซเลนสกี้จะแทบไม่ได้ให้ข้อมูลอะไรเกี่ยวกับนโยบายหรือแผนงานที่จะทำหากได้เป็นประธานาธิบดี เน้นการโชว์มุกตลกเรียกเสียงหัวเราะตลอดเส้นทางการหาเสียง
แต่ผู้มีสิทธิเลือกตั้งคนหนึ่งบอกว่า “มันก็เหมือนกับเราเข้าไปซูเปอร์มาร์เก็ตถูกๆ หาซื้อผลไม้สักลูก แล้วพบว่าผลไม้เกือบทั้งหมดใกล้จะเน่าเสียแล้ว คุณก็ต้องลงมือคุ้นหาลูกที่เสียน้อยที่สุดนั่นแหล่ะ”
เซเลนสกี้ มาจากครอบครัวชาวยิว เกิดเมื่อปี ค.ศ.1978 ในขณะที่ประเทศยูเครนยังอยู่ภายใต้สหภาพโซเวียต เขาจบการศึกษาด้านนิติศาสตร์ แต่หันมาเอาดีในแวดวงบันเทิงตั้งแต่อายุ 17 ปี เขาเข้าร่วมรายการโชว์ตลกและชนะการแข่งขันระดับประเทศ (ของรัสเซีย)
จากนั้น ก็ตั้งบริษัท Kvartal 95 และผลิตรายการตลกฉายทางทีวีช่องต่างๆ ที่ส่วนใหญ่อยู่ในรัสเซีย และด้วยเหตุที่หน้าที่การงานของเขาส่วนใหญ่จะอยู่ในฝั่งรัสเซีย ทำให้คู่แข่งทางการเมืองหยิบเรื่องนี้มาโจมตีว่าเขามีแนวโน้มจะโอนอ่อนกับรัสเซีย – เพื่อนบ้านที่เป็นปฏิปักษ์ของยูเครน โดยเฉพาะนับแต่เกิดเหตุยึดแหลมไครเมีย
ต้นปี ค.ศ. 2018 เซเลนสกี้ก็ก่อตั้งพรรคการเมือง Servant of the People ด้วยเป้าหมายที่ว่า “เพื่อนำคนดีเป็นมืออาชีพเข้าสู่แวดวงการเมือง” และ “อยากเปลี่ยนแปลงการเมืองของประเทศนี้ให้ดีขึ้น” และหนึ่งปีถัดมาเขาก็ทำสำเร็จ เมื่อชนะเลือกตั้งได้เป็นประธานาธิบดียูเครน คนที่ 6 นับแต่ประกาศเอกราช แยกจากสหภาพโซเวียตในปี ค.ศ.1991
ตลอดเส้นทางอาชีพนักการเมือง เซเลนสกี้ได้ประกาศจุดยืนทางการเมืองสำคัญๆ ไว้หลายครั้ง เช่น เขาอยากให้ยูเครนเข้าร่วมสหภาพยุโรป (EU) และองค์การสนธิสัญญาแอตแลนติกเหนือ (NATO) เขาสนับสนุนให้ใช้กัญชาทางการแพทย์ สนับสนุนการทำแท้งเสรี และสนับสนุนให้การค้าประเวณีเป็นเรื่องถูกกฎหมายเช่นเดียวกับการพนัน
นอกจากนี้ เขายังสนับสนุนให้กวาดล้างมรดกจากยุคคอมมิวนิสต์ (decommunization) ทั้งรื้อถนนอนุสาวรีย์หรือเปลี่ยนชื่อสถานที่สำคัญๆ ที่ถูกตั้งมาสมัยโซเวียต
อย่างไรก็ตาม ในฐานะว่าที่ประธานาธิบดียูเครน โจทย์สำคัญของประเทศที่รอเขาเข้าไปแก้ไขปัญหา นอกจากปัญหาเศรษฐกิจตกต่ำ ยังรวมถึงการเผชิญหน้ากับกองกำลังแบ่งแยกดินแดน-ที่รัสเซียหนุนหลัง ทางภาคตะวันออกของประเทศ
แต่นั่นอาจเป็นสิ่งที่ไว้ค่อยคิดในโอกาสถัดไป? เพราะหลังรู้ผลเลือกตั้งคร่าวๆ แม้จะเป็นแค่ exit poll แต่เซเลนสกี้ก็ประกาศชัยโดยใช้คำว่า “ในฐานะประชาชนชาวยูเครน ผมอยากจะบอกไปยังประเทศอดีตสมาชิกสหภาพโซเวียตทั้งหลายว่า – ลองมองมาตรงนี้ ทุกอย่างมันเป็นไปได้!”