“พี่ไปญี่ปุ่น พี่จะเลี้ยงตัวนากมั้ย?”
มิตรสหายรุ่นน้องรายหนึ่งถามผม หลังจากคุยกันเรื่องที่ผมจะย้ายไปอยู่ญี่ปุ่น ซึ่งถ้าใครรู้จักผมดี จะเห็นว่าในฟีดเฟซบุ๊กของผมมักจะมีคลิปตัวนากน้ำจืดงุ้งงิ้งน่ารักอยู่เสมอ ยังไม่นับเรื่องการแชร์ข่าวเกี่ยวกับนาก(เช่นที่กลับมาอยู่ในแม่น้ำในสิงคโปร์) หรือเกร็ดความรู้ต่างๆ ของพวกมัน แถมยังมีของสะสมเกี่ยวกับนากน้ำจืดอีกไม่น้อย ไม่ว่าจะเป็นของเล่นกาชาปอง หรือตุ๊กตานากสมจริง ขนาดสติ๊กเกอร์ไลน์ของผมยังเน้นใช้ตัวนากเลยครับ
แม้จะเป็นแฟนตัวนากมานานแล้ว แต่ช่วงหลังๆ ดูเหมือนมิตรสหายเองก็เจอการป้ายยาด้วยคลิปน่ารักๆ ของเจ้านากน้อยไปด้วย เลยเล่นเอาเคลิ้มตามกันหมด และดูเหมือนว่าเทรนด์การเลี้ยงตัวนากก็กำลังเป็นที่นิยมในญี่ปุ่นเช่นกันครับ เราจะเห็นว่าหลายต่อหลายคลิปของเจ้านากแสนน่ารักนั้นส่วนใหญ่เป็นคลิปจากชาวญี่ปุ่น ซึ่งก็เข้ากับความคาวาอี้ตามสไตล์ชนชาตินี้ ถึงขนาดที่โตเกียวมีการจัดงานแสดงภาพของตัวนากเซเล็บชื่อดังทั้งหลาย (ซึ่ง ‘ต่อ คันฉัตร’ ไปดูแล้วอุตส่าห์ซื้อสูจิบัตรงานมาฝากด้วย) ส่วนทางเราเองก็สามารถติดตามพวกมันได้ตามอินสตาแกรมของเจ้าของนากเหล่านั้น
แต่คำตอบจากคำถามตอนต้นของผมก็คือ “คงไม่เลี้ยงหรอก”
ซึ่งก็เล่นเอามิตรสหายท่านนั้นงง ผมเลยต้องอธิบายไปว่า นากน้ำจืดที่เขาเลี้ยงกันน่ารักๆ ในญี่ปุ่นน่ะ มันคือ ‘นากเล็บสั้น’ หรือ Asian Small Clawed Otter มีถิ่นที่อยู่อาศัยในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ หรือพูดง่ายๆ ก็คือนากพวกนี้อยู่แถวบ้านเรานั่นเอง พอถึงตรงนี้แล้วก็คงจะเริ่ม เอ๊ะ กันแล้วสินะครับ ทีแรกผมก็มักจะพูดเล่นๆ ว่าอยากย้ายไปอยู่ญี่ปุ่นเพื่อเลี้ยงตัวนากนี่แหละ แต่พอเช็คสายพันธุ์แล้ว ก็มาเอ๊ะเหมือนกันว่าทำไมนากจากแถวนี้ไปเป็นสัตว์เลี้ยงในญี่ปุ่นได้?
จริงๆ แล้วญี่ปุ่นก็มี ‘นากญี่ปุ่น’เหมือนกันนะครับ เป็นสายพันธุ์ในประเทศเขาเอง เรียกว่า ‘Japanese River Otter’ แต่ก็ไม่มีใครพบเห็นกว่า 30 ปี จนถูกประกาศว่าสูญพันธุ์ไปในปี 2012 ทั้งที่ก่อนหน้านี้เคยมีเยอะ แต่พอหลังสงครามโลกครั้งที่สอง ญี่ปุ่นพัฒนาประเทศไปพร้อมๆ กับการทำลายธรรมชาติ แหล่งที่อยู่อาศัยของนากก็เลยดลง (นากครอบครัวหนึ่งต้องการพื้นที่หากินริมแม่น้ำประมาณ 10 ตารางกิโลเมตร)
หรือบางครั้งพวกมันก็ไปติดอวนชาวประมงจนโดนฆ่าทิ้ง (เพราะแย่งกินปลา) ส่วนตอนเหนือก็ฆ่าเพื่อเอาหนังของมันเพราะให้ความอบอุ่น รวมไปถึงการตายจากการโดนรถทับด้วยเช่นกัน แต่ว่าก็ยังดูมีความหวังอีกครั้งในปี 2017 เมื่อมีกล้องจับภาพนากญี่ปุ่นได้ในจังหวัดนางาซากิ นอกจากนี้ยังมีการพบมูลของมันด้วย ทำให้มีลุ้นว่านากเหล่านี้อาจจะยังหลงเหลืออยู่ในธรรมชาติ
ซึ่งเมื่อเทียบกันแล้ว นากแม่น้ำญี่ปุ่นดูจะตัวใหญ่กว่า และหน้าเรียวยาวกว่า ในขณะที่นากเล็บสั้นจากแถวบ้านเราจะมีหน้ากลม และตัวเล็กกว่า แถมมีตากลมแป๋ว จมูกโตๆ ใครเห็นก็คงใจอ่อนอยากเลี้ยงล่ะครับ และในหมู่นากด้วยกัน สายพันธ์ุนี้ก็ดูจะเป็นนากที่ตัวเล็กน่ารักมุ้งมิ้งที่สุดแล้ว (อย่าได้ลองเสิร์ช ‘Giant Otter’ หลอนมาก สมกับอยู่อเมซอน)
เป็นเพราะไอ้ความน่ารักบวกกับนิสัยซุกซนของมันนี่แหละครับ ที่พอเริ่มมีคนแชร์คลิปมากขึ้นเรื่อยๆ ก็ทำให้หลายคนตกเป็นทาสของเจ้านากน้อยกันไปหมด เพราะนอกจากจะตัวเหมือแมว นิสัยเหมือนลูกหมาซนๆ เสียงร้องงี้ดๆ น่ารักๆ ชอบซุกซนไต่ไปไต่มาแล้ว ยังพาลงแช่น้ำด้วยกันได้อีก จากที่แต่ก่อนไม่ค่อยเป็นที่รู้จักกัน
อย่างเมื่อซักสิบปีก่อนเคยมีรายการทีวีให้ดาราทดลองเลี้ยงตัวนากและอยู่อาศัยด้วยกัน ตอนนั้นเวลาให้อาหารยังต้องให้กินปลาเป็นๆ อยู่เลย พอมาดูตอนนี้กลับมีเว็บให้ข้อมูลเพียบว่าให้อาหารอะไร แบบไหน ซื้อได้ที่ไหน เรียกได้ว่ากลายเป็นยุคตัวนากบูมในญี่ปุ่นเลยก็ว่าได้
แต่ปัญหามันก็อย่างที่เกริ่นไปล่ะครับว่า มันไม่ใช่สัตว์ท้องถิ่นของญี่ปุ่น ดังนั้นถ้าจะเลี้ยง ก็จะมีแหล่งซื้อหรือนำเข้าอยู่สองทางคือ ซื้อจากแหล่งที่เพาะพันธุ์ในญี่ปุ่น หรือไม่ก็นำเข้าเถื่อน ซึ่งแบบแรกนั้นแทบจะปิดตายได้เลย เพราะว่าส่วนใหญ่ที่เขานำมาเลี้ยงก็จะเป็นในสวนสัตว์หรือสถาบันต่างๆ ซึ่งเขาก็นำเข้ามาเพื่อการศึกษา ไม่ได้คิดจะขายเป็นธุรกิจ เดินไปติดต่อขอซื้อก็คงโดนไล่ตะเพิดกลับบ้านไป
ดังนั้น ที่เห็นเลี้ยงๆ กันส่วนใหญ่เนี่ย ก็แบบหลังนี่ล่ะครับ ซื้อจากแหล่งที่นำเข้าโดยผิดกฎหมาย หรือไม่ก็อาจจะเป็นพวกที่ทีแรกนำเข้ามาแบบลับๆ ก่อนแล้วค่อยมาเพาะขายอีกที ซึ่งในปัจจุบัน เท่าที่ผมไล่หาข้อมูลดู ก็พบว่า ถ้าอยากเลี้ยงนากน้อยน่ารักซักตัวต้องมีเงินอย่างน้อย 1 ล้านเยนขึ้นไปครับ แพงกว่าซื้อรถอีโค่คาร์ในญี่ปุ่นอีก
ดังนั้นตัวนากที่เห็นขายๆ กันในญี่ปุ่นส่วนใหญ่ก็เป็นเรื่องเทาๆ กึ่งไปทางดำนั่นแหละครับ ยิ่งถ้าบอกว่านำเข้าจากไทยนี่ก็ดำชัวร์
เพราะในไทย นากเล็บสั้นเป็นสัตว์คุ้มครอง
ห้ามทำการซื้อขายหรือเลี้ยงเด็ดขาด
การส่งข้ามประเทศเพื่อไปขายก็เป็นการผิดอนุสัญญากรุงวอชิงตัน หรือ CITES นั่นเอง เอาจริงๆ แล้วผมก็งงกับญี่ปุ่นไม่น้อย คือเป็นประเทศชั้นนำของโลก แต่ก็ยังมีเรื่องแบบนี้เกิดขึ้นเรื่อยๆ ซึ่งดูเหมือนเขาจะมีความสนใจคลั่งไคล้การเลี้ยงสัตว์แปลกๆ กันมากจริงๆ ตัวอย่างเช่นคลิปเลี้ยงนางอาย (Slow Loris) หากใครลองไปเสิร์ชใน YouTube ก็จะเจอคลิปแรกเป็นคลิปคนป้อนข้าวปั้นให้นางอายกิน ซึ่งก็เป็นคลิปของชาวญี่ปุ่นเช่นกัน (คิดว่าบัญชีเดิมปิดไปแล้วแต่มีคนเอามาอัพใหม่) ทั้งๆ ที่เป็นสัตว์ใกล้สูญพันธุ์แล้วแท้ๆ (บ้านเราก็ได้ Rihanna มาทวีตโวยเรื่องนี้ในไทย จนเกิดการจับกุมกันนั่นล่ะครับ)
นอกจากนี้ยังรวมไปถึงในบ่อหรือสระน้ำสาธารณะที่มีคนเอาปลาหรือสัตว์น้ำสายพันธุ์จากต่างประเทศไปปล่อยจนเกิดปัญหา Alien Species เคยมีรายการทีวีไปทำการสูบน้ำออกทั้งหมดแล้วมาไล่คัดสายพันธุ์กันอย่างละเอียด ซึ่งก็เจอปลาหรือเต่าแปลกๆ อยู่เรื่อยๆ ครับ
พอเห็นความน่ารักของเจ้าตัวนากแล้ว ก็พอเข้าใจว่าทำไมเขาอยากเลี้ยงนะครับ เพราะว่าญี่ปุ่นเป็นชาติที่แทบจะเป็นหนึ่งเดียวกับวัฒนธรรม Kawaii ขนาดที่มีทูตเผยแพร่วัฒนธรรมด้านนี้โดยเฉพาะ และเจ้านากน้อยก็มีปัจจัยของความ Kawaii ครบครัน ตัวก็เล็ก ไม่กินที่ เลี้ยงในอพาร์ตเมนต์ก็ไม่ยาก แถมตาแป๋ว จมูกโต ดูคล้ายๆ Hello Kitty ซึ่งก็ไม่แปลกที่พอฮิตแล้วชาวญี่ปุ่นก็ยิ่งอยากจะเลี้ยงกันไปใหญ่
จากแต่เดิมเคยดูได้ในสวนสัตว์หรือพิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำ ซึ่งบางที่ก็มีบริการน่ารักให้จับมือกับเจ้านากน้อยได้ (ผ่านช่องเล็กๆ เท่านั้นนะ) แต่ไปๆ มาๆ กลายเป็นว่าปัจจุบันก็ฮิตขนาดที่มีคาเฟ่นากให้ไปเล่นกับเจ้านากน้อยได้ (ซึ่งคาเฟ่สัตว์แปลกๆ ในญี่ปุ่นก็มีเพียบอีกนั่นล่ะครับ)
แต่ทีนี้ พอฮิตแล้ว ความต้องการก็เพิ่ม ผลคืออะไรเหรอครับ ก็ปริมาณการจับนากเล็บสั้นแบบเถื่อนเพื่อส่งขายไปเลี้ยงก็ยิ่งเพิ่มมากขึ้น ที่น่าสลดเข้าไปอีกคือ ก่อนหน้านั้น ประเทศไทยไม่ใช่ประเทศที่พบการจับนากเพื่อส่งไปขายมากนัก แต่จากรายงานของทาง TRAFFIC Report หัวข้อ ‘Illegal Otter Trade in Southeast Asia’ ในปี 2017 กล่าวว่า ไทยกลายเป็นแหล่งจับนากเล็บสั้นขาย ซึ่งนับได้มากกว่า 80% ของการจับนากทั้งหมดในภูมิภาคนี้เลย
และตอนที่ผมเขียนอยู่นี่ก็เพิ่งมีชาวญี่ปุ่น 2 คนถูกจับข้อหาพยายามลักลอบนำนากเล็บสั้นจากไทยเข้าญี่ปุ่น ด้วยวิธีการฉีดยานอนหลับแล้วเอาซุกไว้ในกระเป๋าที่ถือขึ้นเครื่องจำนวน 5 ตัว ซึ่ง 4 ตัวก็ตายลง แถมหนึ่งในสองคนนี้ยังเคยโดนคดีนี้มาก่อน ที่เขาทำก็เพราะว่ารู้ว่าราคาขายที่ญี่ปุ่นมันดีนี่ล่ะครับ เขาบอกเลยว่าราคาขายต่อได้ตัวละเกือบล้านเยน ตายไป 4 ยังได้เงินล้านเยน ส่วนร้านก็เอาไปขายต่อเท่าไหร่ก็แล้วแต่ (เจอในบางเว็บก็ขายล้านห้า)
เคยไปอ่านในเว็บของคนญี่ปุ่นที่ให้ข้อมูลเลี้ยงนากยังมีการล้อกันเล่นเลยว่า คุยกับคนไทยที่ขายนากที่ตลาดสัตว์เลี้ยงแปลกๆ ‘แห่งหนึ่ง’ เขาก็บอกว่า โอ๊ย ตัวนากนี่ขายแค่ตัวละพันบาทเท่านั้น ถูกกว่าที่ญี่ปุ่นเยอะ เขาก็เลยเขียนอีกว่า ไปซื้อที่ไทยดีกว่ามั้ย อ่านแล้วก็หัวร้อนครับ สนใจแต่ความน่ารักโดยไม่ได้คิดถึงสถานการณ์ของนากในปัจจุบันด้วย แถมยังใช้คำว่า ‘ลักลอบนำเข้า’ อย่างไม่สนอะไรเลย
เรื่องของสัตว์น่ารักแบบนากเล็บสั้นเลยเป็นเรื่องที่มาเกี่ยวกับบ้านเราโดยตรงนี่ล่ะครับ เห็นน่ารักๆ ในคลิป แต่เอาจริงๆ เราก็ไม่รู้ว่าเบื้องหลังเป็นอย่างไร แถมยังมีรายงานว่าบางคนก็เลือกที่จะ ‘ฆ่า’ นากที่ตัวเองเลี้ยง เมื่อรู้ว่าเสี่ยงจะโดนจับหรือเลี้ยงต่อไม่ไหว เพราะเวลาตัวโตเต็มวัยแล้วมันกินจุมาก และสุดท้ายมันก็เป็นสัตว์ป่านั่นแหละครับ เห็นแบบนี้ก็ได้แต่หวังว่า ทั้งสองชาติจะร่วมมือกันมากขึ้นเพื่อชีวิตของสัตว์ป่า ส่วนผมเองก็คงได้แค่ซื้อตุ๊กตาสะสม ไม่ก็ไปยืนดูตามสวนสัตว์ล่ะครับ
อ้างอิงข้อมูลจาก