สัปดาห์แรกของปีใหม่ พุทธศักราช 2562 ทั้งที ผมอยากเชิญชวนคุณผู้อ่านทั้งหลายมาสนใจเรื่องการ ‘ดูดวง’ กันครับ พอว่าถึงเรื่องนี้ เราๆ ท่านๆ คงคุ้นชินสายตาในทุกเมื่อเชื่อวัน ทางสื่อต่างๆ สามารถแลเห็นโฉมหน้า ‘หมอดู’ ออกมาพยากรณ์กันเยอะแยะ แต่สิ่งที่ผมจัดวางไว้อีกหลายบรรทัดต่อจากนี้ คือการพาคุณย้อนอดีตไปยังกรุงเทพมหานครช่วงก่อนและหลังสงครามโลกครั้งที่ 2 เพื่อแนะนำให้ทำความรู้จักกับบรรดา ‘นักพยากรณ์’ แห่งวันวาน
ปฏิเสธมิได้เลยว่า สิ่งหนึ่งซึ่งมักเป็นที่โหยหาใคร่รู้สำหรับคนไทยจำนวนไม่น้อยนับแต่อดีตจวบจนปัจจุบันย่อมมิพ้นการได้ตรวจสอบโชคชะตาราศีกับบรรดานักพยากรณ์เลื่องชื่อทั้งหลาย ยิ่งช่วงเทศกาลสำคัญๆ แล้ว ดูเหมือนใครต่อใครจะอดใจไม่ค่อยไหวหรอก อย่างน้อยก็อยากให้มีผู้มาช่วยทำนายชีวิตล่วงหน้าบ้างแหละนา
การทำนายดวงชะตานั้นปรากฏขึ้นมายาวนานหลายร้อยปีแล้ว ในดินแดนที่เป็นประเทศไทยปัจจุบันก็คงมีอยู่แน่ๆ ถ้าเราเคยชมละครจำพวกจักรๆ วงศ์ๆ หรือละครย้อนยุค น่าจะเคยสังเกตเห็นพระโหราธิบดี หรือท่านโหรหลวงประจำพระราชสำนัก
อันที่จริง ความสามารถพยากรณ์คาดเดาชีวิตคนและเหตุการณ์ล่วงหน้าของโหรหลวงชาวสยามจัดว่าแม่นยำระดับโลกเลยทีเดียว ในโฉมหน้าประวัติศาสตร์ไทยมีโหรอยู่สองท่านที่สามารถทำนายชีวิตคนและเหตุการณ์ซึ่งเกิดขึ้นจริงๆ ในโฉมหน้าประวัติศาสตร์โลกเวลาต่อมาอย่างน่าทึ่ง นั่นคือกรณีที่สองโหรหลวงประจำราชสำนักของรัชกาลที่ 5 อย่างหลวงโลกทีป และหลวงไตรเพท ได้ผูกดวงตรวจสอบพระชาตาของพระราชโอรสพระเจ้าซาร์นิโคลัสที่ 2 แห่งรัสเซีย คือมกุฎราชกุมารอเล็กซิส (Alexei Nikolaevich) ในตอนที่ประสูติเมื่อปีคริสต์ศักราช 1904 แล้วทำนายทายทักว่าเจ้าของดวงชะตานี้จะนำความวุ่นวายหายนะมาสู่ราชวงศ์โรมานอฟ เดิมที คำพยากรณ์นี้จะถูกส่งจากประเทศสยามไปถวายซาร์นิโคลัสที่ 2 แต่เมื่อผลทำนายออกมาจึงมีการระงับไว้เสีย
หลักฐานคำทำนายชิ้นสำคัญนี้ยังคงถูกเก็บไว้ในรูปแบบไมโครฟิล์ม ณ หอจดหมายเหตุแห่งชาติ แต่ถ้าการเดินทางไปสู่สถานที่ดังกล่าวดูจะเป็นของยาก ทุกท่านก็สามารถลองหาอ่านรายละเอียดเรื่องนี้ได้จากบทความ ‘โหรไทยกับประวัติศาสตร์โลก: เมื่อโหรไทยทำนายดวงพระชาตามกุฎราชกุมารรัสเซีย’ เขียนโดย ฉลอง สุนทราวาณิชย์
ที่กล่าวมาคือกรณีของโหรหลวงในวัง ส่วนพวกชาวบ้านทั่วไปละ ‘ดูดวง’ กันอย่างไรบ้างนะ?
ในกรุงเทพพระมหานครก่อนสงครามโลกครั้งที่ 2 เปิดฉากในเมืองไทย หากคุณปรารถนาจะตรวจสอบดวงชะตาราศีของตน คุณควรจะต้องนึกถึงหมอดูผู้ปรากฏนามดังต่อไปนี้
เริ่มกันที่หม่องสุริยะ เขาย่อมมีเชื้อสายพม่าอย่างมิพักต้องสงสัย วิธีการพิจารณาโชคชะตาราศีดีร้ายจึงอาศัยตามแบบตำรับพม่าเป็นหลัก ร่ำลือกันถึงความแม่นยำจนกระทั่งพ่อหมอได้เผยโฉมผ่านโฆษณาบนหน้ากระดาษสื่อสิ่งพิมพ์หลายฉบับ ใครผ่านไปมาแถวโรงเลี้ยงเด็ก ถนนบำรุงเมือง อาจมองเห็นห้องหมายเลขที่ 44 ญ. ท่านหม่องจะนั่งอยู่ตรงนั้นแหละครับ หากใครปรารถนาทราบ ‘ดวง’ ของตน พอไปถึงก็แค่บอกรายละเอียดวันเดือนปีเกิด ข้างขึ้นข้างแรม เวลาตกฟาก สามารถตั้งคำถามได้ 3 ข้อต่อค่าดูครั้งละ 1 บาท มากไปกว่าการตรวจดวง หมอดูยังจัดจำหน่ายหนังสือ ‘ปูมปีใหม่’ ด้วย ในราคาเล่มละ 1 บาท
ลองไปต่อกันที่หมอดูชาวเขมร ผู้เลื่องลือโหราศาสตร์ตำรับนี้จนเป็นที่นิยมของมหาชนทั่วไปไม่แคล้วไปจากหมอทองสุข ศุขสำราญ แหล่งพำนักของหมอทองสุขอยู่ใกล้ๆ หม่องสุริยะ นั่นคือแถวโรงเลี้ยงเด็ก ถนนบำรุงเมือง ห้องหมายเลขที่ 44 ต. ใครใคร่ดูดวง โปรดแจ้งวันเดือนปี อายุ ข้างขึ้นข้างแรม เวลาตกฟาก ราคาการมีญาณทิพย์ของเขาต้องจ่ายครั้งละ 1 บาทเช่นกัน ซึ่งสมัยนั้นถือว่าเป็นเงินไม่ใช่น้อยนะครับ
ผมยังอยากจะเล่าถึงนักเขียนหญิงอีกคนที่มีความสามารถทางโหราศาสตร์ เธอคือ ร. จันทพิมพะ หรือนามจริงว่า รวงทอง จันทพิมพะ (นามเดิมว่า เริ่ม) ซึ่งมีบทบาทในแวดวงสื่อสิ่งพิมพ์ช่วงหลังสงครามโลกครั้งที่ 2 นอกเหนือจากฝีมือการประพันธ์ ความสามารถอีกอย่างของเธอได้แก่ การทำนายดวงชะตาด้วยไพ่ป๊อกและตรวจดูเส้นลายมือ เป็นที่ยอมรับกันว่าเธอพยากรณ์แม่นยำยิ่งนักจนเธอยึดถือเป็นงานอดิเรก อย่างไรก็ดี ตอนนั้น มีคนเข้าใจผิดกันพอสมควรว่า ร. จันทพิมพะ เป็นคนเดียวกันกับ ‘จันทรพิมพ์‘ ที่เขียนทำนายทายทักดวงชะตาในนิตยสารหลายฉบับ แต่เจ้าของนามแฝง ‘จันทรพิมพ์’ ตัวจริงคือฉันทิชย์ กระแสสินธุ์
ภายหลังสงคราม ทางคณะศิษย์เก่าโรงเรียนวัฒนาวิทยาลัยได้เคยมาตาม ร. จันทพิมพะ ถึงบ้านให้ไปช่วยออกร้านหมอดูที่สวนลุมพินี เล่ากันอีกว่า คราวหนึ่ง มีนายทหารมาขอให้เธอช่วยตรวจดูดวงชะตาราศีให้ เธอทำนายว่า ปีนั้น นายทหารคนดังกล่าวจะได้เลื่อนขึ้นเป็นนายพล แล้วผลก็ออกมาตามนั้นจริงๆ ท่านนายพลคนใหม่จึงส่งผ้าอย่างดีมากำนัลเธอ
โหราศาสตร์และการพยากรณ์โชคชะตาได้กลายมาเป็นส่วนหนึ่งในชีวิตประจำวันของคนไทยก็ว่าได้ ขนาดเพื่อนหนุ่มของผมคนหนึ่ง แต่ก่อนแต่ไร ไม่เคยเชื่อถือเรื่องดวงเรื่องเสี่ยงทายสักนิด เพิ่งจะมาสักหนึ่งปีกว่าๆ ที่ผ่านมานี้เองแหละครับ ที่พอผมเจอเขาครั้งใด เห็นทั้งร้องทั้งเต้นเพลงคุกกี้เสี่ยงทายไม่หยุดหย่อน
เอ๊ะ! มันไปเกี่ยวข้องกันได้อย่างไรกันเนี่ย
เอาเป็นว่า สุขสันต์ปีใหม่ครับ คุณผู้อ่านทุกท่าน
อ้างอิงข้อมูลจาก
- ฉลอง สุนทราวาณิชย์. โหรไทยกับประวัติศาสตร์โลก: เมื่อโหรไทยทำนายดวงพระชาตามกุฎราชกุมารรัสเซีย’ ใน ศิลปวัฒนธรรม 27 ฉ. 3 (มกราคม 2549), หน้า 78-91
- สยามราษฎร์ (อังคารที่ 6 กันยายน 2481)
- กรุงเทพฯวารศัพท์ (16 กุมภาพันธ์ 2484)
- “คำแถลง” ใน ประชามิตร 22:19 (กันยายน 2489)