“ฆาตกรจะต้องโกรธแค้นคนตายมาก ขนาดหมดลมหายใจแล้ว ยังไปจ่อยิงซ้ำถึง 6 นัด”
1.
ที่เฟซบุ๊กของซีออน เพอร์รี่ (Zion Perry) มีคลิปวีดีโอ ที่เพื่อนๆ ต่างเข้าไปกดไลก์ กดหัวใจ พิมพ์คอมเมนต์แสดงความยินดีให้กับหญิงสาวเป็นจำนวนมาก หลังเควิน เจียง (Kevin Jiang) แฟนหนุ่ม วัย 26 ปี ได้คุกเข่าขอเธอแต่งงาน
“โอ้ ตกลงค่ะ ตกลง”
หญิงสาวพูดด้วยความตื้นตันใจก่อนกอดคนรักอย่างยินดี
หารู้ไม่ว่า นั่นจะกลายเป็นจุดเริ่มต้นแห่งหายนะ ทั้งสองไม่มีโอกาสได้ใช้ชีวิตคู่ร่วมกัน ไม่มีโอกาสได้เห็นงานแต่งอีกต่อไป
เพียงเพราะเพื่อนคนหนึ่งในเฟซบุ๊กของซีออนเห็นโพสต์นี้ ก่อนหน้านี้เขาจ้องมองสเตตัสของซีออนกับเควินที่คลั่งรักกันมาอย่างยาวนาน หลังจากคิดอย่างถี่ถ้วน ก็ตัดสินใจครั้งสำคัญ ด้วยแผนการสุดแยบยล หวังให้เป็นฆาตกรรมที่สมบูรณ์แบบ
เขาร่างทุกอย่างคร่าวๆ ด้วยความมั่นใจในมันสมองและความเฉลียวฉลาดของตัวเอง ทางหนีทีไล่ถูกสร้างขึ้นอย่างละเอียดรอบคอบ เมื่อทบทวนทุกอย่าง ก็มั่นใจว่าไร้ข้อผิดพลาด
พอได้เห็นคลิปขอแต่งงาน เขาก็ตัดสินใจ ได้เวลาแล้ว
6 กุมภาพันธ์ ปี 2021
ถูกล็อกไว้เป็นวันที่ เขาจะลงมือฆ่า เควิน เจียง
2.
ช่วงธันวาคมปี 2020 ถึงเดือนมกราคมปี 2021 เจ้าหน้าที่ตำรวจเมืองนิวฮาเวน รัฐคอนเนตทิคัต สหรัฐอเมริกา รับแจ้งเหตุยิงปืนถล่มบ้านคนถึง 4 หลังด้วยกัน เมื่อตรวจสอบไม่พบผู้บาดเจ็บ แต่ลักษณะการลงมือ เหมือนคนทำสุ่มยิงอย่างไร้จุดหมาย
เพราะบ้านที่เกิดเหตุแต่ละหลัง ไม่มีความเชื่อมโยง ไม่มีความคล้าย ไม่มีอะไรเหมือนกันเลย
ทางการพบปลอกกระสุน .45 ตกเกลื่อน รอบจุดเกิดเหตุ เมื่อคุยกับพยาน สิ่งเดียวที่พวกเขาพบจากการยิงถล่มบ้านทั้ง 4 หลัง ก็คือ มีผู้เห็นรถเอสยูวีสีเข้มขับออกไป
นักสืบรวบรวมพยานหลักฐาน พวกเขาเริ่มหวั่นใจ หากนี่คือการก่อเหตุแบบไร้เป้าหมาย มันอาจเป็นความพยายามป่วนเมือง แต่หากมันเป็นการฝึกซ้อมของใครบางคนที่ต้องการความมั่นใจที่จะทำอะไรสักอย่างล่ะ
4 ครั้งที่เกิดขึ้น มันอาจเพียงพอให้เขายกระดับความรุนแรงขึ้นก็เป็นได้
นับว่าตำรวจคาดการณ์ได้ถูกต้องแล้ว
ช่วง 2 ทุ่มครึ่งของวันที่ 6 กุมภาพันธ์ 2021 เควินขับรถออกจากอพาร์ตเมนต์คู่หมั้นสาว เพื่อกลับไปหาแม่ที่บ้าน
ชายหนุ่มเรียนจบจากมหาวิทยาลัยเยล อันเป็นหนึ่งในเครือข่ายสุดยอดมหาวิทยาลัยที่มีชื่อเสียงของอเมริกา รู้จักกันในชื่อกลุ่มไอวี่ลีก (Ivy League) ซึ่งมี 8 มหาวิทยาลัยชั้นนำรวมตัวกัน เพื่อควบคุมมาตรฐานการศึกษา และเป็นสถาบันที่เข้าเรียนยากสุดของโลก
ไม่เพียงเท่านั้นเควิน ยังเป็นอดีตทหารบก ยศร้อยตรี มีคนรักมากมาย เพราะนิสัยดีน่ารักสุภาพ เขาเจอกับซีออน เมื่อเธอมาเรียนปริญญาเอกที่เยล ทั้งคู่พูดคุยและตัดสินใจคบหากัน จนถึงเตรียมแต่งงาน
หญิงสาวเผยว่า เมื่อคู่หมั้นหนุ่มกลับไปได้ไม่ถึง 10 นาที เธอก็ได้ยินเสียงบางอย่างดังขึ้น
“ทีแรกฉันคิดว่ามีคนจุดพลุ ไม่คิดว่ามันเป็นเสียงปืน”
กล้องวงจรปิด จับภาพรถของเควินขับไปจอดตรงสี่แยก ระหว่างนั้นก็มีรถเอสยูวีคันใหญ่สีเข้ม ขับตามมาพุ่งชนท้าย จากนั้นรถใหญ่ก็ถอยมา เควินลงจากรถเพื่อไปดูความเสียหาย แล้วเดินตรงไปหาคู่กรณี
พยานเผยว่าพวกเขาได้ยินเสียงโต้เถียง แต่กินเวลาไม่นาน เสียงปืนก็ดังขึ้น 2 นัด เควินกรีดร้องด้วยความเจ็บปวด ก่อนร่วงไปกองกับพื้น
จากนั้นเสียงปืนดังขึ้นอีก 6 นัดต่อเนื่อง ก่อนที่รถเอสยูวีจะขับออกไป
นักสืบที่ตรวจจุดเกิดเหตุพบกระสุน .45 จำนวน 8 ปลอกตกอยู่ข้างศพ สิ่งที่ตำรวจช็อกคือ มีพยานเปิดหน้าต่างไปดู หลังได้ยินเสียงปืนดังขึ้น 2 นัดแรก แล้วก็เห็นผู้ก่อเหตุยืนคร่อมอยู่เหนือร่างที่นอนกองกับพื้น ก่อนจะเหนี่ยวไกอีก 6 นัด แล้วรีบวิ่งขึ้นรถไป
เจ้าหน้าที่ฉงน เพราะเมื่อตรวจสอบบาดแผล พบว่าเควินตายตั้งแต่โดนยิง 2 นัดแรกแล้ว การถูกกระหน่ำซ้ำแบบโหดเหี้ยม แสดงว่าฆาตกรจะต้องโกรธแค้นผู้เสียชีวิตเป็นการส่วนตัวแน่
เมื่อสำรวจทุกอย่าง พวกเขาพบว่าปลอกกระสุน ตรงกับเหตุคนร้ายใช้กระหน่ำยิงบ้าน 4 หลังก่อนหน้านี้ นี่อาจจะเป็นการยกระดับความรุนแรงของฆาตกร
หรืออาจจะเป็นการโกรธแค้นที่มาจากการโต้เถียงของอุบัติเหตุ
เจ้าหน้าที่งมทุกอย่างแบบไร้จุดหมาย ไม่รู้ว่าแค่ขับรถชนท้าย ทำไมถึงต้องยิงกันขนาดนี้ หรือเควินแค่ไปเจอคนป่วนเมืองที่ไล่ยิงบ้านคนแบบไร้จุดหมาย นำไปสู่การฆาตกรรมโหด
ทุกอย่างเต็มไปด้วยคำถาม
แต่สิ่งแรกที่นักสืบจะต้องทำก่อนก็คือ ไปบ้านของเควิน เพื่อแจ้งข่าวร้ายให้กับแม่ของเขา
นี่คือหน้าที่สุดยากลำบาก
“เราไปเคาะประตูบ้าน แล้วบอกว่าลูกของเธอถูกยิงเสียชีวิต”
พลันที่ทราบข่าวนี้
“เธอก็แหลกสลาย ร้องไห้แล้วกรีดร้อง ก่อนทรุดไปกองกับพื้น”
3.
เจ้าหน้าที่สอบปากคำแฟนสาว เธอช็อกสุดขีด แตกร้าวร้องไห้จนน้ำตาแทบจะเป็นสายเลือด มันใกล้วันวาเลนไทน์ ใกล้วันเกิดเธอ แต่ของขวัญที่เธอได้รับ กับเป็นร่างไร้วิญญาณของเควิน
ทุกคนพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า ไม่มีมูลเหตุอะไรที่เขาจะต้องถูกฆ่าเลย
ตำรวจถึงทางตัน ทุกอย่างสับสนมึนงงไปหมด แต่แล้ว 1 วันหลังเกิดเหตุ พวกเขาก็ได้รับข้อมูลที่น่าสนใจจากสายตรวจนายหนึ่ง
“ผมว่าเรื่องนี้น่าจะเกี่ยวกับคดีของคุณนะ”
ทุกอย่างเริ่มต้นจากในวันเกิดเหตุ สายตรวจพบรถเอสยูวีสีเข้มคันหนึ่ง ไปติดหล่มอยู่ที่รางรถไฟ ในสภาพหิมะตกหนัก ตำรวจจึงขอใบขับขี่ จึงรู้ชื่อคนขับ คือชินชวน แพน (Qinxuan Pan) อายุ 33 ปี
“ท่าทางเขาดูเหมือนรนๆ”
กระนั้นสายตรวจไม่ได้สงสัยอะไร เพราะเอาข้อมูลไปตรวจ ไม่พบประวัติอาชญากรรม ส่วนท่าทางร้อนใจ อาจเกิดจาก ต้องมาประสบอุบัติเหตุ แล้วรอใครมาช่วยอย่างเดียวดาย จนเกิดความหวาดกลัว
เจ้าหน้าที่แนะนำว่าจะเรียกรถยกมาให้ โดยอาสาขับพาเขาไปส่งยังโรงแรม เพราะกว่าจะเอารถเขาขึ้นจากซากหิมะได้ ต้องใช้เวลานาน ไปพักผ่อนดีกว่า พรุ่งนี้ทุกอย่างคงแล้วเสร็จ
แพนขอบคุณตำรวจแล้วยินยอมขึ้นรถสายตรวจไป
กระนั้นเจ้าหน้าที่ก็ได้สำรวจข้าวของในรถอย่างละเอียด พวกเขาเห็นกระเป๋าเดินทาง และถุงสีน้ำเงิน มันไม่มีอะไรผิดสังเกต แต่ก็ฝังแน่นอยู่ในความทรงจำ
เช้าวันต่อมาที่ร้านอาหารใกล้กับโรงแรมที่เขาพัก พนักงานเห็นกระเป๋าเดินทางและถุงสีน้ำเงิน ถูกซ่อนทิ้งไว้ในพงหญ้า จึงเอาเข้ามาในร้าน เมื่อเปิดออกดู ก็รีบโทร.หาตำรวจทันที
“ผมพบปืนกับเครื่องกระสุนปืนเป็นจำนวนมาก”
สายตรวจคนที่ช่วยชีวิตแพนได้ยินเหตุดังกล่าว แม้เลิกงาน แต่ก็ยังขับมาดู พลันที่เห็นถุงสีน้ำเงิน เขาก็จำได้ว่ามันอยู่ในรถของชายที่เขาขับรถมาส่งโรงแรม และเมื่อเห็นว่าที่พักกับร้านนี้อยู่ไม่ไกล เขาจึงตรงไปเคาะห้องที่แพนนอน
แต่อีกฝ่ายออกเดินทางไปตั้งแต่เช้าแล้ว
ทุกอย่างนำไปสู่ข้อสงสัย เมื่อได้ยินเหตุฆาตกรรมเควิน เขาจึงโทรศัพท์หานักสืบที่ทำคดีนี้ทันที
เจ้าหน้าที่ผู้รับผิดชอบคดีฆาตกรรมเควินรุดมาตรวจกระเป๋า เจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานเอาปลอกกระสุนไปตรวจสอบ พบเป็นขนาด .45 แม้ปืนจะไม่ใช่กระบอกเดียวกับที่ลั่นไกยิงเควิน และถล่มบ้านหลังอื่นๆ แต่ทุกอย่างก็เข้าเค้า
นักสืบลองค้นประวัติแพน ดูเฟซบุ๊ก ไม่มีการโพสต์อะไรมากมาย เมื่อสำรวจเพื่อน ชายคนนี้ไม่ได้เป็นเฟรนด์กับเควิน แต่พวกเขาเอะใจ เพราะผู้ต้องสงสัยรายนี้เป็นเพื่อนกับซีออน
ทางการเลยรุดไปสอบปากคำคู่หมั้นคนตายทันที
4.
เมื่อตำรวจถามว่ารู้จักแพนไหม ซีออนถึงกับฉงน โดยเธอกับชายคนนี้เคยเรียนหนังสือร่วมกันที่สถาบันเทคโนโลยีแมสซาชูเซตส์
“คุณ 2 คนเคยคบหากันไหม”
“ไม่ค่ะ เราเป็นเพื่อนรู้จักกันเฉยๆ ไม่ได้เป็นอะไรกันเลย”
ซีออนตอบอย่างตรงไปตรงมา ก่อนจะพูดว่า “เขาเคยทักแชตมาหาฉันในเฟซบุ๊ก แสดงความยินดีที่เรียนจบ แล้วก็ขอเฟซไทม์ ฉันปฏิเสธไปอย่างสุภาพ นั่นแหละครั้งสุดท้ายที่เราคุยกัน”
ข้อมูลตรงนี้ ตำรวจเชื่อว่าแพนชอบซีออน และพยายามจะจีบ แต่ไม่สำเร็จ กระนั้นก็ยังแอบส่องเฟซ จนเห็นหญิงสาวคบหากับเควิน จึงโกรธหึง พอรู้ว่าจะแต่งงาน ก็วางแผนตัดสินใจฆ่าผู้ชายมารหัวใจซะ
สันนิษฐานว่า แพนได้วางแผนล่วงหน้ามาหลายเดือนแล้ว เพื่ออำพรางคดี โดยเอาปืน .45 ไปใช้ยิงถล่มบ้านคนอื่น เพื่อเบี่ยงประเด็น ก่อนจะเอาปืนกระบอกนี้ไปยิงเควิน โดยทำทีเป็นขับรถชนท้าย ล่อให้ผู้ตายลงจากรถ ก่อนสังหารโหด
ทฤษฎีนี้มีความเป็นไปได้ เจ้าหน้าที่จึงประสานข้อมูล แล้วไปบ้านของแพน แต่พวกเขาไม่พบตัวชายคนนี้ มีเพียงพ่อแม่เท่านั้นที่อยู่
ทางบุพการีไม่ขอให้ข้อมูลว่าลูกชายหายไปไหน และจะให้ปากคำก็ต่อเมื่อมีทนายอยู่ด้วยเท่านั้น กระนั้นทั้งคู่ก็พูดเรื่องแพนว่า
“เราไม่ได้พบลูกมาสักพักแล้ว หลังวันที่ 6 กุมภาพันธ์ เขาเดินขึ้นรถ แล้วขับหายไป”
นักสืบรู้เลยว่า อีกฝ่ายโกหก
เมื่อเช็กอย่างละเอียด พบว่าแพนถอนเงินสดเป็นจำนวนหลายแสน และเพราะครอบครัวนี้มีญาติอยู่ที่จีน เจ้าหน้าที่จึงหวาดหวั่นว่าผู้ต้องสงสัยมีโอกาสจะหนีออกนอกประเทศ
นี่จึงนำไปสู่การรวบรวมหลักฐานขออำนาจศาลออกหมายจับทันที รูปของแพนขึ้นหราทั้งในสื่อท้องถิ่นและสื่อโทรทัศน์ ทางตำรวจศาลซึ่งมีหน้าที่ตามตัวผู้ต้องหาที่หลบหนีหมายจับ เริ่มทำงานทันที
14 กุมภาพันธ์ 12 วันหลังเหตุฆาตกรรม มีการจัดงานศพเควินขึ้น และเพราะเขาเป็นอดีตทหาร จึงมีพิธีการเต็มรูปแบบ ผองเพื่อนใส่ชุดกองทัพบกแบกโลงเขาฝังในสุสาน
“แม่คิดถึงลูกมากๆ เลย”
“เขาเป็นเด็กน่ารัก ทุกคนชอบเขา” พ่อของผู้ตายพูดด้วยน้ำตา
ด้านซีออนกล่าวในงานศพ หญิงสาวยกเอาบทกวีที่เควินเขียนให้เธอว่า
“ต่อให้โลกดับสูญ เราจะไม่มีวันเป็นอะไร ตราบที่มีกันและกันอยู่”
ทุกคนเศร้าโศก หัวใจแตกสลาย สิ่งเดียวที่จะบรรเทาความร้าวรานได้ ก็คือการล่าตัวแพน เอามารับโทษ
แต่ทุกอย่างไม่ได้ง่ายขนาดนั้น
5.
แพนเป็นคนฉลาด เขาเรียนมหาวิทยาลัยระดับหัวกะทิ มีการวางแผนอย่างละเอียดรอบคอบ ตำรวจแกะรอยไม่ได้ ไม่รู้ว่าเขาอยู่ไหน ตำรวจศาลพุ่งเป้าที่พ่อแม่ของฆาตกร ก่อนจะพบพฤติกรรมน่าสงสัยบางอย่าง
นั่นก็คือบุพการีของแพนจะขับรถลงใต้ แวะพักโรงแรม สัก 2-3 วัน แล้วขับกลับมาบ้าน พวกเขาอ้างว่าไปเที่ยวพบหาเพื่อน เดือนหนึ่งจะไปครั้ง คาดว่าน่าจะเอาเงินไปให้ลูกสุดที่รัก
“ขาไปเราแกะรอยเขาไม่ได้ เพราะปิดจีพีเอส แต่ขากลับพวกเขาดันเปิด ให้ตำรวจรู้ว่า กำลังเดินทางกลับ”
กระนั้นเจ้าหน้าที่ก็ไม่ลดละ พวกเขาใช้เวลาหลายเดือนหลังเกิดเหตุฆาตกรรม สืบสวน โดยเชื่อว่าแพนยังอยู่ในอเมริกา แต่เขาอยู่ไหน นั่นเป็นภาระของตำรวจ
พ่อแม่ของฆาตกรจะต้องรู้ที่อยู่ลูก ดังนั้นขอเพียงให้อีกฝ่ายพลาด แม้เพียงแค่ครั้งเดียว แผนฆาตกรรมที่สมบูรณ์แบบ ก็จะพังทลายลงแน่นอน
ไม่ต้องรอนาน วันนั้นก็มาถึงจนได้
ตำรวจศาลแกะรอยบิดามารดาแพน ไปเข้าพักที่โรงแรมแห่งหนึ่ง โดยมีวงจรปิดจับภาพหญิงชราขอมือถือพนักงาน เพื่อโทร.หาใครบางคน เมื่อแกะรอยสายดังกล่าวพบว่าอยู่ในรัฐแอละแบมา
เจ้าหน้าที่ระดมกำลัง 40 นาย บุกไปยังที่พักแห่งนี้ เมื่อเคาะประตูห้อง มีชายเอเชียมาเปิด พลันที่สบตากับตำรวจ เขาก็รู้ดีว่าทุกอย่างจบสิ้นแล้ว
“ผมคือคนที่พวกคุณกำลังตามหาอยู่นั่นเองครับ”
6.
อย่างไรก็ดีการเอาผิดแพนนั้นไม่ง่าย ตำรวจไม่พบปืนที่ใช้ก่อเหตุ แม้จะใช้หลักฐานเรื่องเฟซบุ๊ก เรื่องแรงจูงใจ แต่ไม่ชัดเจนว่าจะโน้มน้าวให้ลูกขุนเชื่อว่าฆาตกรก่อเหตุจริงได้
แต่แล้วทนายของแพนก็ติดต่อมา ตกลงว่าจะรับสารภาพว่าคือคนยิงเควิน แต่ไม่ขอเปิดเผยว่ากระทำไปเพื่ออะไร แม้อัยการจะแปลกใจ แต่พวกเขาก็รับข้อตกลงนี้ไว้
เป็นอันว่าฆาตกรไม่อยากโดนโทษจำคุกตลอดชีวิต เลยขอชิงรับสารภาพ เพื่อให้รับโทษติดคุก 35 ปี โดยไม่มีสิทธิ์ลดโทษแทน
ระหว่างการพิจารณาคดี แม่ของเควินขึ้นให้การ แล้วพูดว่า “โทษจำคุก 35 ปี มันเบาไปมาก”
แพนนั่งก้มหน้านิ่งใส่แมสก์ไม่พูดอะไร
สื่อมวลชนเรียกขานคดีนี้ว่า ฆาตกรรมไอวี่ลีก คนตายฉลาด ฆาตกรก็หลักแหลม นับเป็นคดีสุดโหดที่ผู้ก่อเหตุพยายามเบี่ยงประเด็นปิดเป้าหมาย หลอกให้ตำรวจหลงทาง เขาเกือบจะทำสำเร็จหนีรอดไปได้ แต่ทุกอย่างก็พังเพราะแม่ของตัวเอง
แผนฆาตกรรมแทบจะไร้ข้อบกพร่อง กระนั้นก็มีช่องโหว่ เริ่มจากการขับรถหนี แต่ดันไปคาอยู่บนรางรถไฟ จนมีสายตรวจมาพบ บางทีความฉลาดของปีศาจร้าย ก็ไม่อาจสู้ลิขิตแห่งชะตาชีวิตได้ และความผิดพลาดนี่แหละ ที่ทำให้เขาสิ้นอิสรภาพ
แม้จะรู้ว่าบิดามารดาของแพนรู้เห็นเป็นใจ ปกปิดการหลบหนี แม้อาจเป็นไปได้ที่พวกเขารู้ว่าลูกกำลังวางแผนฆ่าเควิน แต่ทางการไม่มีหลักฐานเพียงพอเอาผิดได้ จึงต้องปล่อยทั้งคู่ไป
สังคมวิจารณ์ว่าแพนได้รับโทษน้อยไปมาก แถมครอบครัวก็ยังลอยนวล แต่อย่างน้อยเขาก็โดนจับ และต้องติดคุก
ซีออนไปพบหน้าฆาตกรในศาล เธอบอกเขาว่า “ฉันพูดตรงๆ นะ โทษที่แกได้รับ มันเทียบไม่ได้กับสิ่งที่ทำลงไป กระนั้นก็ขอให้พระเจ้าเมตตาแก และเมตตาพวกเราทั้งหมดด้วย”
ความโหดเหี้ยมของแพนก็คือ เขายิงเควินตาย ทั้งที่ไม่เคยรู้จักพบหน้าหรือพูดคุย เขาอำพรางทุกอย่างเพื่อการนี้ เพราะลุ่มหลงในตัวหญิงสาว ไม่พอใจที่อีกฝ่ายหมั้น จึงลงมือก่อเหตุ นี่คือเรื่องอำมหิตเลือดเย็นที่ถูกประณามจากสังคมไปทั่วทุกสารทิศ
แม้โทษจะเบาหวิว ไม่ตรงใจครอบครัวและคนรักของเควิน แต่มันก็ยังดีกว่า ปล่อยให้เขาลอยนวล ความยุติธรรมยังพอเป็นที่พึ่งได้อยู่บ้าง และเหมือนแพนก็รู้ดีว่าจุดจบของเขาจะกลายเป็นแบบนี้ เจ้าตัวได้พูดในศาล ต่อหน้าพ่อแม่และคู่หมั้นสาวของเควินก่อนถูกพาตัวออกไปว่า
“ผมน้อมรับต่อผลกรรมที่จะเกิดขึ้นตามมาทุกอย่าง สุดท้ายนี้ ผมอยากขอโทษทุกคนในการกระทำของผมครับ”
แพนถูกเจ้าหน้าที่คุมตัวขึ้นรถ มุ่งหน้าไปคุก เขาจะอยู่ในโลกหลังกำแพงสูงถึงปี 2056 หรือจนกว่าจะอายุ 65 ปี
ถึงจะมีสิทธิ์กลับคืนสู่สังคมอีกครั้ง..
อ้างอิงจาก