สิ่งศักดิ์สิทธิ์มีจริงหรือไม่?
คำถามชวนสงสัยที่ไม่ว่าวิทยาการของโลกนี้จะก้าวล้ำไปมากสักเท่าใด มวลมนุษยชาติก็ยังหาข้อสรุปจากคำถามนี้ไม่ได้สักที
หลายคนรู้สึกว่าพลังงานแห่งความศักดิ์สิทธิ์ต้องมีจริงสิ ไม่อย่างนั้นทำไมบางสิ่งบางอย่างที่ดูไม่น่าเชื่อหรือไม่น่าเป็นไปได้จึงเกิดขึ้นกับคนคนหนึ่ง แทนที่จะเกิดขึ้นกับคนอีกคน และการเกิดขึ้นของความโชคดีนั้นมักจะ ขอย้ำตัวโตๆ ว่า “มักจะ” บังเอิญเกิดขึ้นกับคนที่มีสิ่งเคารพบูชาอะไรบางอย่างที่เป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์ เป็นเทวดา เป็นเทพเจ้า ที่คนทั่วไปไม่เคยได้เห็นกายทิพย์ของท่านเหล่านั้น
เสียงจากคนที่ยืนอยู่อีกฟากหนึ่งของความไม่เชื่อก็อาจจะโต้แย้งว่า ความโชคดีเหล่านั้นล้วนสามารถอธิบายได้ด้วยหลักการทางวิทยาศาสตร์และความเป็นเหตุเป็นผล ‘ความโชคดี’ นั้นสร้างขึ้นได้ด้วย ความขยัน ความพยายาม ความอดทน ความตั้งใจ และความสม่ำเสมอ คนที่มักโชคดีในเรื่องการงาน การเรียน จริงๆ แล้วสิ่งนั้นไม่ใช่ความโชคดี แต่สิ่งนั้นล้วนเป็นผลลัพธ์ที่หนุนนำมาจากการกระทำของตัวคนคนนั้นเองทั้งสิ้น หาใช่อำนาจของสิ่งศักดิ์สิทธิ์หรือพลังงานอื่นใดที่ไหนกัน
“แล้วเรื่องความโชคดีแคล้วคลาดปลอดภัยอย่างเหลือเชื่อที่ไม่น่าจะเกิด แต่ก็ดันเกิดขึ้นกับคนที่บูชาสิ่งศักดิ์สิทธิ์ล่ะ พวกท่าน เหล่าคนที่ไม่เชื่อจะอธิบายว่ายังไง” เหล่าคนรักนักเชื่อในสิ่งศักดิ์สิทธิ์เริ่มเปิดประเด็นถาม
และหากเราจะร่างคำตอบ ก็คงจะเป็นบทสนทนายาวเหยียดเกิดเนื้อที่บนคอลัมน์นี้ที่สามารถถกเถียงกันไปมาได้อย่างไม่รู้จบ
แต่เอาเป็นว่า Pain Killer วันนี้เราจะไม่สู้กันด้วยความเชื่อหรือความไม่เชื่อ แต่เราจะมาพูดกันเรื่องความต้องการที่จะเชื่อของคนกลุ่มหนึ่งที่มีความเชื่ออย่างแรงกล้าว่ามีพลังงานบางอย่างบนโลกใบนี้ที่สามารถช่วยเหลือและดลบันดาลให้เราสมความปรารถนาได้ ดำเนินชีวิตด้วยความสุขได้ และท่านเหล่านั้นช่วยอำนวยอวยพรให้เราได้เสมอ
ไม่ว่าสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่คุณเชื่อและเคารพนับถือจะเป็นสิ่งใดก็ตาม เชื่อเหลือเกินว่าคุณมักจะมีรูปเสมือน รูปปั้น รูปหล่อ หรือรูปภาพไว้บูชา บางคนบูชาไว้ที่บ้าน ที่ทำงาน หรือมากไปกว่านั้นบางคนบูชาท่านติดตัว เพราะอยากให้ท่านเมตตาเอ็นดูเรา อยู่กับเราในทุกๆ ที่ที่เราไป
ทั้งหมดที่ว่ามาจึงเกิดเป็นธุรกิจเครื่องประดับสายมูขึ้นมากมาย ทั้งกำไลข้อมือมงคล สร้อยคอห้อยจี้รูปเคารพสิ่งศักดิ์สิทธิ์ต่างๆ ต่างหูที่เป็นรูปเทพเจ้าหรือเทวดาที่คุณเคารพ
สมัยก่อนเราอาจเห็นคนรุ่นพ่อรุ่นแม่เราซื้อสร้อยทองห้อยจี้สิ่งศักดิ์สิทธิ์ ซึ่งอาจจะมองว่าเป็นเรื่องปกติเสียด้วยซ้ำ แต่สมัยนี้ที่โลกของการดีไซน์ล้ำหน้าไปอย่างมากมาย ศิลปะการออกแบบของยุคนี้จึงทำให้ความสวยงามแบบมินิมอลมาเจอกับความเชื่อในสิ่งศักดิ์สิทธิ์ได้อย่างลงตัว หลายแบรนด์เลือกดีไซน์เครื่องประดับสายมูออกมาแบบมินิมอล เพื่อเอาใจคนชอบสไตล์การแต่งตัวที่น้อยแต่มาก บางแบรนด์ดีไซน์เครื่องประดับที่ออกมามีลายสลักละเอียดลออ เพื่อเอาใจคนชอบงานศิลปะแบบประณีต
ธุรกิจเครื่องประดับสายมูเหล่านี้ล้วนกำเนิดขึ้นเพื่อตอบสนองความต้องการทางจิตใจของคนที่มีความเชื่อและศรัทธาอย่างแรงกล้าว่า ความโชคดีมีสุขเหล่านี้สามารถนำพามาจากความศักดิ์สิทธิ์ฤทธาของท่านทั้งหลายที่ตนเคารพนับถือ และดูเหมือนว่าจะเป็นธุรกิจที่เบ่งบานอย่างมากมายในยุคนี้ที่โลกการดีไซน์อนุญาตให้มีการออกแบบที่หลากหลายที่ทำให้ทั้งเด็กรุ่นใหม่ที่มีรสนิยมการแต่งตัวที่แตกต่างจากคนรุ่นก่อนก็สามารถบูชาสิ่งศักดิ์สิทธิ์เหล่านี้ติดตัวเป็นเครื่องประดับไปกับเขาในทุกที่ที่เขาไปได้
อ่านมาถึงตรงนี้เราก็อยากถามคุณเช่นกันว่า คุณคิดว่าสิ่งศักดิ์สิทธิ์มีจริงไหม?