สัปดาห์ที่ผ่านมา ในประเทศญี่ปุ่น นอกจากข่าวสองเกาหลีจับมือกันที่ผมเขียนถึงเมื่อสัปดาห์ก่อน (มีความคืบหน้าที่ดีว่า เกาหลีเหนือพร้อมจะคุยกับญี่ปุ่นเช่นกัน) อีกหนึ่งข่าวฮือฮาคือเหตุการณ์ที่สื่อรายงานว่า Yamaguchi Tatsuya สมาชิกวง TOKIO วงไอดอลชายชื่อดังของญี่ปุ่น ได้ชวนเด็กสาวมัธยมไปที่อพาร์ตเมนต์ของตัวเอง แล้วพยายามล่วงละเมิดทางเพศฝ่ายหญิง กลายเป็นคดีใหญ่สะเทือนวงการบันเทิงญี่ปุ่น เพราะวง TOKIO ถือว่ามีภาพลักษณ์ที่ดีมาโดยตลอด และการรายงานข่าวครั้งนี้ก็ถือว่าเป็นการช่วยเรียกร้องความยุติธรรมให้กับเหยื่อได้ไม่น้อย
ที่ผมบอกอย่างนั้น เพราะสื่อที่รายงานข่าวนี้เป็นเจ้าแรกคือ NHK เจ้าของรายการ R no Housoku ที่มี Yamaguchi เป็นพิธีกรรายการ เป็นรายการที่เจาะตลาดวัยรุ่น แขกรับเชิญต่างๆ ก็จะเป็นเด็กวัยมัธยม บางทีก็มีละครสั้นเกี่ยวกับเด็กวัยรุ่นด้วย การที่ NHK ออกมารายงานข่าวแบบนี้ ทำให้หลายคนมองว่าเป็นการเลือกตัดเนื้อร้ายด้วยตัวเอง (ก่อนที่จะโดนสื่อเจ้าอื่น เช่น บุนชุน ออกมาแฉแล้วมีผลกระทบหนักกว่านี้) แต่ก็ทำให้คนสงสัยว่า ฝ่ายนักเรียนหญิงผู้เสียหายคือหนึ่งในสมาชิกผู้ร่วมรายการ R no Housoku เองรึเปล่า แต่ที่แน่นอนคือ ตอนนี้ทางสถานีระงับรายการไปเรียบร้อยแล้ว ปล่อยให้ผู้คนทั่วไปได้แต่คาดเดา
แต่ถึงอย่างนั้น ผลกระทบที่ตามมาก็หนักมากตามสไตล์วงการบันเทิงญี่ปุ่น คือเมื่อมีคนดังคนไหนกระทำผิดกฎหมาย หรือก่อเรื่องไม่สมควร ก็จะโดนตัดหางปล่อยวัด
เท่าที่เห็นรายงานตอนนี้ รายการทีวีที่เกี่ยวข้องกับ TOKIO ทั้งวงถูกยกเลิกหรือต้องถ่ายใหม่ สินค้าที่วงเป็นพรีเซนเตอร์ก็ตัดวงออกไปก่อน และที่น่าเสียดายสำหรับสมาชิกวงคนอื่นก็คือ ถูกตัดออกจากการเป็นสมาชิกร่วมโปรโมตโตเกียวโอลิมปิกที่กำลังจะมาถึง งานนี้เล่นเอาเจ้าตัวต้องออกมาแถลงข่าวขอโทษ และถูกพักงานอย่างไม่มีกำหนด ส่วนสมาชิกวงคนอื่นก็ออกมาแถลงข่าวในนามวงอีกที แม้จะบอกว่า Yamaguchi ต้องการที่จะออกจากวง แต่จนถึงตอนนี้ก็ยังไม่มีบทสรุปอะไร เพราะแม้จะเป็นวงไอดอล แต่ TOKIO ต่างกับวงอื่นตรงที่เป็นวงดนตรี และก็ไม่เหมือนวงดนตรีธรรมดา ที่พอมือเบสมีปัญหา จะไล่ออกหรือให้ลาออกไปก็แค่หามือเบสคนใหม่มาแทน แต่ด้วยความที่เป็นไอดอล สมาชิกก็มีสัญญาในฐานะไอดอลกับต้นสังกัด ไม่ใช่แค่ปัญหาระหว่างตัววงกับค่ายเพลงเหมือนวงทั่วไป เป็นปัญหาให้ค่าย Johnny & Associates ต้นสังกัดต้องปวดหัวในการหาทางลงที่ส่งผลกระทบน้อยที่สุด รวมไปถึงสมาชิกในวงเองก็คงลำบากใจไม่น้อยเช่นกัน
จากที่เล่ามาพอจะเห็นภาพแล้วว่า เวลาคนดังในสังคมญี่ปุ่นก่อปัญหาอะไรขึ้นมา พวกเขามักจะโดนแรงกดดันทางสังคมให้รับผิดชอบไม่มากก็น้อย เช่น Inagaki Goro สมาชิกวง SMAP อีกหนึ่งตัวอย่างของศิลปินค่าย Johnny & Associates ที่จอดรถในที่ห้ามจอด แล้วยังพยายามขับรถออกไปชนโดนตำรวจหญิงที่จะมาปรับตรงที่เกิดเหตุ แม้ฝ่ายตำรวจจะไม่บาดเจ็บรุนแรง แต่เจ้าตัวก็ต้องระงับงานไป 5 เดือน เช่นเดียวกับ Kusanagi Tsuyoshi จากวงเดียวกัน ที่โดนตำรวจจับเพราะเมาแล้วแก้ผ้าในสวนสาธารณะ หลังจากนั้นก็ถูกพักงานและโดนตัดออกจากโฆษณาสินค้า ไปช่วงหนึ่ง
ถึงจะไม่ใช่ไอดอล แต่ถ้าดาราตลก ดารานักแสดง หรือกระทั่งครอบครัวคนดังเกิดมีปัญหาอะไรขึ้นมาก็ส่งผลกระทบต่องานได้เหมือนกัน ไม่ว่าจะกรณีอุบัติเหตุทางรถยนต์ (ที่แม้บางทีจะเป็นผู้เสียหายแต่กลับต้องมาแถลงข่าวเหมือนกับว่าทำผิดเอง) หรือเมาแล้วก่อเรื่อง แต่ที่เป็นปัญหาใหญ่คือการเลี่ยงภาษี เช่นกรณีของพ่อของ Lola นางแบบสาวลูกครึ่งบังคลาเทศ หรือกรณีของแม่ของ Koumoto Junichi จากคู่หูตลก JichouKachou ที่รับเงินช่วยเหลือเลี้ยงดูจากทางการ ทั้งที่ลูกชายเป็นตลกชื่อดัง ขายดี งานเยอะ พอเรื่องแดงขึ้นมา ก็กลายเป็นว่าลูกชายได้รับผลกระทบจนงาน หายเกือบหมด จากที่ก่อนหน้านั้นไปโผล่ตามรายการนู้นรายการนี้ตลอด เรียกได้ว่า เรื่องที่เกี่ยวกับเงินๆ ทองๆ และเบียดเบียนเงินของทางการนับเป็นปัญหาใหญ่เอาเรื่องครับ
ส่วนเรื่องของอุบัติเหตุทางรถยนต์ก็ขึ้นอยู่กับแต่ละวงการด้วย ถ้าเป็นวงการที่เข้มงวดกับภาพลักษณ์มากๆ เช่นวงการซูโม่ การทำผิดกฎหมายจราจร ก็อาจจะหมายถึงการดับชีวิตนักซูโม่ของตัวเองไปเลย เช่น Osunaarashi นักซูโม่ชาวอียิปต์ที่ต้องถอนตัวจากวงการ เพราะว่าเขาขับรถชนโดยไม่มีใบขับขี่ ซึ่งจริงๆ แล้วเขา ‘เคย’ มีใบขับขี่สากล แต่หมดอายุก่อน พอชนขึ้นมาเลยเกิดเรื่อง (อาจจะเป็นสาเหตุว่าทำไมหลายค่ายจึงไม่ให้นักซูโม่ของตัวเองขับรถเอง เพราะอันตรายด้วย เลยต้องมีคนดูแลตลอด)
ย้อนกลับมากรณีที่เกี่ยวกับผู้เยาว์ จริงๆ แล้วก็เป็นเรื่องต้องห้ามของวงการเหมือนกัน เพราะแม้ว่าจะมีการล้อกันเล่นในวงการอยู่บ่อยๆ เรื่องการ ‘กิน’ แฟนๆ ของตัวเอง โดยเฉพาะกับดาราตลกที่มักจะเอามาเป็นมุขแฉเพื่อนร่วมวงเพื่อความฮา (ในความนิสัยเสีย) อยู่เรื่อยๆ แต่พอเป็นผู้เยาว์ ก็แน่นอนว่าเป็นเรื่องอีกระดับหนึ่งไปเลย เพราะมันคือการละเมิดกฎหมายอย่างชัดเจน
ตัวอย่างของคนในวงการบันเทิงที่มีคดีผู้เยาว์จนหมดอนาคตในวงการบันเทิง ก็คงต้องขอยกตัวอย่างของ Yamamoto Keiichi ตลกจากคู่หู Gokuraku Tombo ที่ดังในช่วงยุค 1990-2000 แต่ขณะเดียวกันก็เริ่มก่อปัญหา เช่น ทำสาวนั่งดริงก์ท้องแล้วบีบให้ฝ่ายหญิงทำแท้งเพราะไม่อย่างนั้นตัวเองจะเสียชื่อเสียง แต่กรณีที่เป็นฟางเส้นสุดท้ายคือ การถูกแจ้งความโดยเด็กสาวอายุ 17 ปีว่าเขาล่วงละเมิดทางเพศเธอและใช้ความรุนแรงในปี 2006 จนทำให้ Yamamoto ถูกยกเลิกสัญญากับ Yoshimoto ต้นสังกัด เหลือแค่ Katou Kouji คู่หูคนเดียว และหลังจากนั้น Katou ก็สามารถเอาดีในฐานะตลกฉายเดี่ยวจนได้เป็นพิธีกรรายการทีวีต่างๆ แต่ Yamamoto แทบจะไม่มีงานออกสื่อ แม้จะมีเพื่อนตลกร่วมค่ายออกมาช่วยแก้ต่างว่าฝ่ายหญิงเองก็ปกปิดอายุจริงด้วย แต่พอชื่อเสียแล้วก็ไม่มีใครอยากจะยุ่ง จนผ่านไป 10 ปี เขาถึงกลับมาออกสื่อได้บ้าง และได้โอกาสกลับเข้า Yoshimoto พร้อมทั้งขอขมาเพื่อนคู่หูออกสื่อ แต่ก็ยังไม่ค่อยมีงานเหมือนเดิม
ในกรณีคล้ายกันก็ Nagai Hidekazu ตลกฉายเดี่ยวที่มาแรงมากๆ ในช่วงต้นปี 2000 แต่กลับไปก่อคดีละเมิดเด็กสาวอายุ 17 ปีที่ฟิลิปปินส์ จนถูกจับและต้องให้ภรรยามาประกันตัว แม้ในภายหลังทั้งต้นสังกัดและเจ้าตัวจะออกมาชี้แจงว่าโดนดักเพื่อเรียกเงิน เพราะจริงๆ แล้วฝ่ายหญิงอายุ 24 ปี แต่เมื่อรวมกับปัญหานอกใจภรรยา (ที่ต่อมาหย่าร้างกันในภายหลัง) ก็ทำให้ชื่อเสียงถดถอยจนปัจจุบันแทบไม่เห็นหน้าในวงการบันเทิงเลย
อีกคนหนึ่งคือ Kano Eikou ตลกฉายเดี่ยวอีกคนที่ตกเป็นข่าวดังเพราะว่าไปละเมิดเด็กสาวอายุ 17 ปีจนต้องพักงานแบบไม่มีกำหนดเช่นเดียวกัน แต่รอบนี้ดูเหมือนว่าคนในวงการจะเอาใจช่วยเขามากกว่า เพราะดูเหมือนฝ่ายหญิงจะเข้าหาโดยปกปิดอายุจริง และบอกว่าตัวเองอายุ 22 ปี ทางเจ้าตัวก็บอกว่ารักฝ่ายหญิงจริง ตั้งใจจะคบจริงจัง พอเป็นเรื่องแบบนี้ ก็เลยรอดตัวไป พักงานได้ระยะหนึ่งก็กลับเข้ามาวงการบันเทิงได้เหมือนเดิม
จริงๆ แล้วเรื่องพวกนี้ก็ไม่ได้จำกัดที่เฉพาะคนดังหน้าจอนะครับ แต่รวมไปถึงคนที่มีทำผลงานด้านอื่นด้วย
ตัวอย่างที่เห็นชัดคือนักเขียนมังงะ เพราะล่าสุดเพิ่งมีกรณีของ Watsuki Nobuhiro ผู้เขียนเรื่อง ซามูไรพเนจร จากนิตยสาร Shonen Jump ที่ถูกดำเนินคดีจากข้อหามีสื่อลามกของผู้เยาว์ในครอบครอง และโดนพักงานเขียนทันที ก่อนที่จะเคลียร์คดี จ่ายค่าปรับ 200,000 เยน แล้วถึงค่อยกลับมาเขียนมังงะต่อได้ (ซึ่งก็คือภาคต่อของ ซามูไรพเนจร นั่นล่ะครับ)
นั่นคือกรณีเบา เพราะถ้าเป็นกรณีหนักก็อย่างเช่น Shimabukuro Mitsutoshi ที่เคยดังจากเรื่อง Seikimatsu Leader Den Takeshi! จากนิตยสาร Shonen Jump เช่นเดียวกัน ระหว่างที่อะไรต่อมิอะไรกำลังไปได้สวย ในปี 2002 เขาไปเจอเด็กสาวอายุ 16 ในเว็บไซต์หาคู่ แล้วก็คบหากันโดยให้เงินเด็กสาวไปใช้ ซึ่งภาษาญี่ปุ่นเรียกว่า Enjo Kousai เป็นเรื่องผิดกฎหมายที่สุดท้ายก็โดนจับกุม ศาลตัดสินให้จำคุก 2 ปี แต่รอลงอาญา 4 ปี ทำให้มังงะที่เขาเขียนโดนตัดออกจากนิตยสารทันที ก่อนที่กองบรรณาธิการก็ลงจดหมายขอโทษผู้อ่านในเล่มแทน และยกเลิกการตีพิมพ์ฉบับรวมเล่ม 2 ปีผ่านไป เขาได้กลับมาเขียนมังงะสั้นลงในนิตยสาร รวมถึงเขียนตอนจบของเรื่อง Seikimatsu Leader Den Takeshi! ให้จบ แล้วค่อยกลับมาสร้างชื่ออีกครั้งกับเรื่อง โทริโกะ ที่ตีพิมพ์ระหว่างปี 2008- 2016 เรียกได้ว่ากว่าจะกลับมาได้ก็ลำบากไม่ใช่น้อยครับ
จริงๆ แล้วยังมีอีกหลายต่อหลายคดีแต่จะให้ไล่ทั้งหมดคงไม่ไหว ด้วยความที่ดาราหรือคนดังเป็นกลุ่มคนที่มีอิทธิพลต่อสังคม เรื่องที่พวกเขาต้องแบบอย่างให้สังคมขนาดไหนยังเป็นอะไรที่ต้องถกเถียงกันอยู่ตลอด การเลือกพักงานระหว่างคดีความยังดำเนินอยู่ก็ถือเป็นทางเลือกที่เหมาะสม ในขณะเดียวกัน สังคมเองก็ควรให้ความยุติธรรมกลับด้วยหากเขาเหล่านั้นไม่ได้ผิดจริง โดยเฉพาะกรณีที่เหล่าดาราโดนดัก เพราะไม่แปลกอะไรที่หลายคนพยายามจะดักคนดังเพื่อประโยชน์ส่วนตัว บางคนก็เข้าหาดาราเพื่อหาโอกาสถ่ายภาพแล้วเอามาขายก็ยังมี เป็นคนดังนี่ก็ลำบากเหมือนกันนะ
Illustration by Waragorn Keeranan