‘ยอมติดคุกต่อไปเพราะเหงา’ เราอาจจะเคยเห็นซีนต่างๆ ที่ตัวละครบอกเล่าเรื่องราวเหล่านี้จากหนัง หรือซีรีส์ต่างประเทศกันอยู่หลายเรื่อง แต่สิ่งเหล่านี้กำลังสะท้อนสังคมที่เกิดขึ้นจริงๆ ในญี่ปุ่น เมื่อคนสูงอายุยอมจ่ายเงินให้ตัวเองถูกคุมขังต่อไป เพื่อใช้ชีวิตอยู่ในคุกจนกว่าจะหมดอายุขัย
ในห้องที่เต็มไปด้วยผู้สูงอายุ พวกเขาเดินไป-เดินมาช้าๆ บางคนใช้ไม้เท้าและมีเจ้าหน้าที่ช่วยอาบน้ำ กินข้าว เดินและกินยา ทว่าที่แห่งนี้ไม่ใช่บ้านพักคนชรา แต่เป็นเรือนจำหญิง ที่ใหญ่ที่สุดในญี่ปุ่น โดยประชากรในเรือนจำแห่งนี้ สะท้อนปัญหาสังคมสูงอายุของประเทศได้เป็นอย่างดี และปัญหาความเหงาที่แพร่กระจาย ซึ่งเจ้าหน้าที่คุมขังยอมรับว่า เป็นปัญหาที่ร้ายแรงสำหรับนักโทษบางคนที่อยากถูกคุมขังอยู่ที่นี่ต่อไป
“บางคนบอกว่าจะจ่ายเงิน 20,000 – 30,000 เยน (คิดเป็นเงินไทย ราวๆ 4,000 – 6,000 บาท) ต่อเดือน (ถ้าทำได้) เพื่อที่จะได้ใช้ชีวิตที่นี่ไปตลอดชีวิต” ทาคาโยชิ ชิรานากะ เจ้าหน้าที่เรือนจำหญิงกล่าวระหว่างการเยี่ยมชมกับ CNN เมื่อเดือนกันยายนที่ผ่านมา
ผู้สื่อข่าว CNN สัมภาษณ์ อากิโยะ นักโทษวัย 81 ปี ซึ่งกำลังรับโทษฐานลักขโมยอาหาร โดยเธอบอกว่า มีคนดีๆ มากมายในเรือนจำแห่งนี้ และบางทีชีวิตแบบนี้อาจเป็นชีวิตที่มั่นคงที่สุดสำหรับเธอ
อากิโยะเข้าใจความโดดเดี่ยวและความยากจนเป็นอย่างดี และนี่เป็นการติดคุกครั้งที่ 2 สำหรับเธอแล้ว ซึ่งก่อนหน้านี้เธอเคยโดนจับข้อหาขโมยอาหารตอนอายุ 60 ปี “ถ้าฉันมีเงิน มีฐานะที่มั่นคงและมีชีวิตที่สุขสบาย ฉันคงไม่ทำอย่างนี้แน่นอน” เธอกล่าว
ขณะที่ โยโกะ(นามสมมุติ) นักโทษวัย 51 ปีที่โดนคุมขังในข้อหาค้ายาเสพติด 5 ครั้ง ในช่วง 25 ปีที่ผ่านมา บอกกับ CNN ว่า ทุกครั้งที่เธอกลับมาประชากรในเรือนจำเหมือนจะแก่ลงเรื่อยๆ บางคนก็ทำสิ่งเลวร้ายโดยตั้งใจ และให้โดนจับได้เพื่อที่พวกเขาจะได้กลับเข้ามาในคุกอีกครั้ง หากเงินของพวกเขาเริ่มหมด
นักโทษในเรือนจำแห่งนี้ต้องทำงานในโรงงานของเรือนจำ ทว่าก็ไม่ได้เป็นปัญหาสำหรับบางคน และพวกเธอจะได้รับอาหาร การดูแลสุขภาพฟรี และการดูแลผู้สูงอายุ รวมถึงมิตรภาพที่ขาดไปจากโลกภายนอก
อากิโยะ ใช้ชีวิตด้วยเงินบำนาญ ที่จ่ายให้ 2 เดือนครั้ง และในเวลานั้นเธอมีเงินเหลือน้อยกว่า 1,400 บาท และต้องใช้ชีวิตไปอีก 2 สัปดาห์กว่าจะถึงวันจ่ายเงินครั้งต่อไป เธอจึงตัดสินใจขโมยของในร้านและคิดว่ามันเป็นเรื่องเล็กน้อย
เมื่อพูดถึงครอบครัวของเธอ ลูกชายวัย 43 ปี ที่อาศัยอยู่กับเธอก่อนหน้าที่จะถูกจับ มักจะพูดกับเธอว่า ‘อยากให้เธอไปจากที่นี่’ เธอบอกว่า เธอไม่รู้สึกอยากจะสนใจอะไรอีกแล้ว ชีวิตของเธอมันไร้จุดหมายและอยากตาย
การลักขโมยอาหารเป็นอาชญากรรมที่พบบ่อยที่สุดในหมู่ผู้ต้องขังสูงอายุ โดยเฉพาะในกลุ่มผู้หญิง ตัวเลขของรัฐบาลญี่ปุ่น ระบุว่า ในปี 2022 ผู้ต้องขังหญิงสูงอายุทั่วประเทศมากกว่า 80% ถูกจำคุกในข้อหาลักขโมย
ขณะที่บางคนก็ทำเพื่อความอยู่รอด — ตามข้อมูลของ OECD พบว่า ผู้ต้องขังที่มีอายุมากกว่า 65 ปี ในญี่ปุ่น 20% อาศัยอยู่กับความยากจน เมื่อเทียบกับค่าเฉลี่ย 14.2% ในประเทศ ชิรานากะ ผู้คุม บอกว่า “มีคนที่มาที่นี่ เพราะอากาศหนาวและหิว คนที่ล้มป่วยสามารถรับการรักษาพยาบาลฟรีระหว่างอยู่ในเรือนจำ แต่เมื่อออกจากเรือนจำแล้วพวกเขาต้องจ่ายเงินเอง ดังนั้นบางคนเลยอยากอยู่ที่นี่ให้นานที่สุด”
ในญี่ปุ่นจำนวนผู้ต้องขังที่มีอายุ 65 ปีขึ้นไป เพิ่มขึ้นเกือบ 4 เท่า ตั้งแต่ปี 2003 ถึงปี 2022 และได้เปลี่ยนธรรมชาติของการคุมขังไป ชิรานากะ บอกว่า “ตอนนี้เราต้องเปลี่ยนผ้าอ้อมให้พวกเขา ช่วยอาบน้ำให้พวกเขา ให้ความช่วยเหลือเวลากินอาหาร ตอนนี้รู้สึกเหมือนมันเป็นบ้านพักคนชรามากกว่าเรือนจำ”
ด้านกระทรวงสวัสดิการได้ระบุในปี 2021 ว่า ผู้ต้องขังสูงอายุที่ได้รับการสนับสนุน หลังจากออกจากเรือนจำมีแนวโน้มที่จะก่ออาชญากรรมซ้ำน้อยกว่าผู้ที่ไม่ได้รับความช่วยเหลือ กระทรวงฯ จึงได้เพิ่มความพยายามในระยะเริ่มต้นและจัดตั้งศูนย์สนับสนุนชุมชนเพื่อให้การสนับสนุนผู้สูงอายุที่เปราะบางได้ดีขึ้น
รัฐบาลระบุว่า จำนวนผู้สูงอายุที่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วนี้ ทำให้ญี่ปุ่นต้องการคนดูแลผู้สูงอายุถึง 2.72 ล้านคนภายในปี 2040 ซึ่งขณะนี้รัฐกำลังดิ้นรนเพื่อกระตุ้นให้คนเข้าสู่ภาคอุตสาหกรรม (ดูแลผู้สูงอายุ) นี้มากขึ้น และหาแรงงานต่างชาติมาเติมช่องว่างดังกล่าว
อ้างอิงจาก