หลายคนอาจเคยคิดสงสัย ว่าทำไมเราต้องทำความดี? ทำไปเพียงเพื่อความสบายใจอย่างนั้นหรือ
จริงอยู่ว่าผลตอบแทนจากการทำความดีเบื้องต้น คือความสุขใจจากการได้เสียสละหรือช่วยเหลือผู้ตกทุกข์ได้ยาก ทว่าหากทุกคนทำความดีกับเรื่องเล็กๆ รอบตัวอย่างสม่ำเสมอ จากความสุขส่วนตัวเล็กๆ ก็จะค่อยๆ หยั่งรากลึกลงไป ทำให้ต้นไม้ใหญ่ที่ชื่อ ‘สังคม’ มั่นคงและเติบโตแผ่ขยายต่อไปได้ไม่รู้จบ
ในฐานะที่มูลนิธิป่อเต็กตึ๊งเชื่อมั่นในพลังของการทำความดี อีกทั้งปฏิบัติงานคอยช่วยเหลือบรรเทาสาธารณภัยและทำงานด้านสังคมสงเคราะห์มาตลอด 110 ปี จึงอยากแบ่งปัน 11 รูปแบบการทำความดีง่ายๆ ที่ใครๆ ก็ทำได้ เพื่อทำให้สังคมไทยน่าอยู่ยิ่งขึ้น
ร่วมบันทึกความดีที่ได้ทำผ่านเว็บไซต์ https://www.ต้นไม้แห่งความดี.com/ เพื่อส่งต่อแรงบันดาลใจถึงผู้อื่น
รากแก้วแห่งความดีประการแรกเริ่มต้นที่ ‘สติ’ ของเรานั่นเอง แม้จะดูเป็นเรื่องเล็กน้อย แต่กลับส่งผลยิ่งใหญ่ หากเผลอไผลก็อาจทำให้เกิดอุบัติเหตุได้
โดยเฉพาะสติที่ใช้ในการขับขี่ยานพาหนะ เริ่มด้วยการคาดเข็มขัดนิรภัยหรือสวมหมวกกันน็อกทุกครั้งก่อนเดินทาง ไม่ขับขี่ในขณะมึนเมา และโฟกัสกับการใช้ถนนตลอดเส้นทาง หากพบอุบัติเหตุหรือผู้ต้องการความช่วยเหลือสามารถโทรแจ้งเหตุที่สายด่วน “ป่อเต็กตึ๊ง 1418” หรือแจ้งผ่านแอปพลิเคชัน “ป่อเต็กตึ๊ง 1418” แอปฯ แรกในไทย ที่ติดตามการช่วยเหลือฉุกเฉินได้อย่างทันท่วงที รวมถึงการโทรแจ้งเหตุฉุกเฉินกับป่อเต็กตึ๊งผ่านแอปฯ ได้ง่ายๆ เพียง 3 คลิก ภายใต้แนวคิด “ช่วยจริง อุ่นใจ แม้ในนาทีฉุกเฉิน” ซึ่งผู้ใช้สามารถส่งพิกัดสถานที่ และติดตามสถานะการช่วยเหลือได้ ใช้งานง่าย ไม่ว่าจะวัยใด แถมดาวน์โหลดฟรีอีกด้วย เพียงเท่านี้ท่านก็สามารถทำความดีได้ง่ายๆ ไม่ว่าจะเป็นการแจ้งเหตุกรณีพบเหตุฉุกเฉิน หรือช่วยกันบอกต่อช่องทางการแจ้งเหตุนี้แก่คนรอบข้าง อย่างน้อยๆ “มีแอปฯ แล้วไม่ได้ใช้ ดีกว่ายามจำเป็นต้องใช้แต่ไม่มี”
รากแก้วประการต่อมาก็ยังมีความเกี่ยวข้องกับถนนหนทาง หรือพื้นที่สาธารณะที่ทุกคนสามารถใช้ประโยชน์ร่วมกัน ดังนั้นเพื่อความสุขของทุกคนก็ควรใช้พื้นที่เหล่านี้ด้วยความเกรงใจผู้อื่น และช่วยกันรักษาความสะอาดให้พร้อมใช้งานที่สุด เช่น การไม่ทิ้งขยะบนท้องถนนหรือแม่น้ำลำคลอง หรือไม่เผาป่าข้างทาง เพราะจะเกิดเป็นควันพิษที่ส่งผลทั้งทางเดินหายใจ และอาจบดบังทัศนวิสัยของผู้ใช้รถใช้ถนนอีกด้วย
ภัยธรรมชาติและโรคภัยไข้เจ็บ คือสองสิ่งที่มนุษย์ไม่อาจขัดขวางได้ แต่ทุกคนจะผ่านพ้นไปได้เมื่อช่วยเหลือกัน
รากแก้วความดีลำดับต่อมาที่ทุกคนสามารถลงมือทำได้ จึงเป็นการยื่นมือเข้าช่วยเหลือผู้ได้รับความเดือดร้อนจากภัยธรรมชาติ โดยเราอาจช่วยเหลือได้ด้วยการแบ่งปันทรัพย์สิน หรือส่งของอุปโภค-บริโภคแก่เพื่อนมนุษย์ รวมถึงวิธีช่วยเหลือที่ไม่ต้องใช้ต้นทุนนักอย่างการแชร์ข้อมูลข่าวสารเพื่อขยายความช่วยเหลือสู่วงกว้าง
เช่นเดียวกับรากแก้วความดีลำดับที่สี่ คือการช่วยเหลือผู้คนในยามวิกฤตการณ์โรคระบาด เช่น การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ในปัจจุบัน โดยขั้นแรกคือความร่วมมือร่วมใจป้องกันตัวเองให้ห่างจากการติดเชื้อ หากปลอดภัยดีและมีกำลังทรัพย์ ก็สามารถช่วยเหลือด้วยการบริจาคซื้ออุปกรณ์ทางการแพทย์ หรืออาจเข้าร่วมเป็นอาสาสมัครช่วยเหลือในส่วนต่างๆ ซึ่งอาจต่อชีวิตใครอีกหลายคนได้
การช่วยเหลือเพื่อนมนุษย์ในช่วงเวลาคับขันคือความดีอันยิ่งใหญ่ แต่การแบ่งปันโอกาสให้ผู้คนได้มีโอกาสเติบโตและยืนได้ด้วยลำแข้งนั้น คือความดีที่ก่อประโยชน์อย่างยิ่ง
รากแก้วความดีลำดับที่ห้า คือการช่วยสนับสนุนให้เยาวชนเข้าถึงโอกาสทางการศึกษา ซึ่งนอกจากการบริจาคเงินเพื่อสมทบทุนการศึกษาแล้ว ทุกคนยังสามารถลงแรงช่วยเหลือเด็กและเยาวชนผู้มีความบกพร่องทางด้านร่างกาย เช่น การเข้าร่วมกิจกรรมผลิตหนังสือเสียง เป็นต้น
รากแก้วที่หกก็คือการสนับสนุนคุณภาพชีวิตของคนชราและผู้ยากไร้ ซึ่งเป็นกลุ่มคนที่หากได้รับการสนับสนุนปัจจัยดำรงชีวิตขั้นพื้นฐาน และโอกาสในการประกอบอาชีพแล้ว พวกเขาก็จะยังพอดำเนินชีวิตด้วยตัวเองต่อไปได้ ซึ่งนอกจากจะช่วยลดภาระให้กับประชากรวัยทำงานแล้ว พวกเขาก็จะรู้สึกมีคุณค่า มีกำลังใจในการใช้ชีวิตต่อ แทนที่จะรู้สึกท้อแท้เพราะต้องพึ่งพาคนอื่นตลอดเวลา และคนกลุ่มนี้นี่เองที่จะตอบแทนด้วยประสบการณ์ล้ำค่าที่ได้จากการใช้ชีวิตมาหลายสิบปีให้กับคนรุ่นหลังต่อไป
รากแก้วความดีลำดับที่เจ็ด คือการช่วยเหลือผู้พิการให้สามารถใช้ชีวิตร่วมกับทุกคนในสังคมได้ตามปกติ ซึ่งทำได้ด้วยการพัฒนาการออกแบบพื้นที่สาธารณะ ให้มีทางลาดสำหรับรถเข็น มีทางเท้าเรียบและมีเบรลล์บล็อก แต่การช่วยเหลือในระดับบุคคล ก็ยังสามารถทำได้ด้วยการมอบความปรารถนาดี ช่วยอำนวยความสะดวกให้ผู้พิการเล็กๆ น้อยๆ อย่างการพาข้ามถนน เดินนำทาง รวมไปถึงการบริจาคทุนหรือวัสดุสำหรับทำขาเทียม ก็เป็นอีกวิธีทำความดีที่ส่งผลประโยชน์อย่างมาก
ความดีที่เราอยากแนะนำลำดับที่แปด คือการสร้างอนาคตที่ดีให้กับเด็ก ซึ่งทุกคนสามารถทำได้ด้วยการเป็นผู้ให้ สร้างบรรยากาศสังคมที่ปลอดภัยและเปิดโอกาสให้เด็กๆ ได้เติบโตอย่างที่อยากจะเป็น พร้อมกับช่วยส่งสิ่งของที่จะเป็นประโยชน์กับการเรียนรู้ของเด็กๆ
ช่วยเหลือผู้คนแล้ว ก็อย่าลืมที่จะละเว้นการเบียดเบียนสัตว์ ซึ่งก็นับเป็นความดีง่ายๆ ประการที่เก้า ที่ทุกคนสามารถทำได้ เช่นเดียวกับรากแก้วความดีข้อที่สิบ คือการช่วยกันพัฒนาชุมชน ทั้งชุมชนที่ตนเองอยู่อาศัย ทั้งชุมชนที่อยู่ห่างไกลจากโอกาสและคุณภาพชีวิตที่ดี โดยสามารถทำได้ด้วยการบริจาคเงิน หรือ ออกค่ายอาสาพัฒนาชนบท
ส่วนรากแก้วความดีลำดับที่สิบเอ็ดที่เราอยากแนะนำกับทุกคนนั้นอาจเป็นข้อที่สำคัญที่สุด เพราะมันคือการทำความดีง่ายๆ กับสิ่งรอบตัว อาจเป็นการช่วยเหลืองานภายในครอบครัว หรือแม้แต่การเคารพเพื่อนมนุษย์ด้วยกัน หากทุกคนยึดมั่นการทำความดีในข้อนี้ ก็จะต่อยอดไปสู่ความดีข้อต่างๆ ก่อนหน้านี้
รากแก้วความดีทั้งสิบเอ็ดข้อนี้ ทุกคนสามารถทำได้ทันทีโดยไม่ต้องลงทุนเงินทองมากมาย เพียงใช้เจตนาที่ดีและลงมือทำ และอย่าลืมบันทึกความดีที่ได้ทำผ่านเว็บไซต์ https://www.ต้นไม้แห่งความดี.com/ เพื่อส่งต่อแรงบันดาลใจถึงผู้อื่น
เพราะแม้จะเป็นการทำความดีเพียงเล็กน้อย แต่หากทุกคนมุ่งมั่นทำทันทีพร้อมๆ กัน สังคมก็จะน่าอยู่และเต็มไปด้วยความสุข