คงไม่มีเจ้าของรถคนไหนอยากเห็นลูกรักมีริ้วรอยรอบคัน ดูเก่าและโทรมเหมือนใช้งานมาข้ามศตวรรษ และก็คงไม่มีรถคันไหนเช่นกันที่ไม่มีร่องรอยบาดแผลเลยสักรอยเดียวตลอดอายุการใช้งาน
ครั้นจะส่งให้ช่างช่วยดูแลทุกครั้งทุกรอยไป กระเป๋าสตางค์ก็คงจะส่งเสียงบอกว่าไม่ไหว แต่จะให้ซื้อผลิตภัณฑ์ดูแลรถมาใช้เอง ก็ไม่รู้อีกว่าต้องซื้อแบบไหน ซื้อมาแล้วจะใช้เป็นหรือเปล่าก็ไม่รู้
ในฐานะที่เป็นคนรักรถคนหนึ่ง 3M Auto Care เข้าใจหัวอกเจ้าของรถผู้ประสบปัญหาที่กล่าวมาทั้งหมดเป็นอย่างดี จึงอยากชวนให้ไปทำความรู้จักกับผลิตภัณฑ์ดูแลรถกันแบบตรงๆ ไม่อ้อมค้อม เพราะว่านอกจากจะเป็นผลิตภัณฑ์ซึ่งช่วยลบ 8 ริ้วรอยรอบรถที่มักจะพบเจอกันอยู่บ่อยๆ แล้ว ก็ยังใช้งานง่ายชนิดที่ว่า ต่อให้คุณเป็นมือใหม่หัดขับรถ ก็สามารถลบรอยทั้งหลายเหล่านี้ได้เหมือนมือโปรมาทำให้เลย
รอยชนแลกสี
รอยยอดฮิตที่เจ้าของรถในกรุงเทพฯ ยากจะหลีกหนี เพราะด้วยสภาพการจราจรที่คับคั่งทำให้ต้องเบียดเสียด และพฤติกรรมการขับรถของบางคนที่ยากจะเดาใจ จนทำให้เกิดอุบัติเหตุเฉี่ยวชนกันอยู่บ่อยๆ ซึ่งบางครั้งก็ (เหมือนจะ) โชคดีที่รถของเราไม่ถึงกับบุบยับยู่ยี่ แค่มีแผลถลอกสีแดงที่ได้มาจากสีรถของคู่กรณีแค่นั้นเอง
ติดอยู่อย่างเดียวเลยก็คือ รถของเราสีดำไง…
แต่ถึงมันจะเด่นให้เห็นแต่ไกลมันก็รักษาได้ไม่ยาก แค่ใช้ ‘3M Scratch Remover’ เทลงบนผ้าไมโครไฟเบอร์ แล้วก็นำไปถูบริเวณที่เป็นรอยสักครู่ รอยสีที่ได้มาก็จางหายไปแล้วล่ะ
ไฟหน้าเหลืองมัว
ถ้าเปรียบไฟหน้ารถยนต์เป็นอวัยวะหนึ่งของร่างกายมนุษย์ มันก็คงเปรียบได้กับดวงตาที่ช่วยทำให้เรามองเห็นเส้นทางเบื้องหน้าได้ชัดเจนขึ้น แต่พอใช้งานไปนานๆ เข้า ไฟหน้ารถยนต์ก็จะเกิดคราบเหลืองมัว คล้ายกับเวลาที่เราทำงาน ดูซีรีส์ ออกปาร์ตี้จนดึกดื่น แทบไม่ได้นอน จนขอบตาดำคล้ำนั่นแหละ ซึ่งหากปล่อยไว้ นอกจากจะทำให้รถของคุณดูเก่าแล้ว แสงไฟก็จะส่องทางทำงานได้ไม่เต็มที่อีกด้วย
วิธีฟื้นฟูให้ดวงตาของรถยนต์กลับมาใสปิ๊งอีกครั้งนั้นก็ไม่ได้ยุ่งยากนัก เริ่มต้นจากทำความสะอาดบริเวณดวงไฟให้สะอาด นำกระดาษกาวมาปิดทับบริเวณขอบไฟหน้ารถโดยรอบ หลังจากนั้นก็ใช้ผลิตภัณฑ์ ‘3M Quick Head Light Clear Coat’ ซึ่งภายในซองจะประกอบไปด้วยแผ่นขจัดรอยและผ้าชุบน้ำยาเคลือบ โดยให้ฉีดน้ำลงบนแผ่นขจัดรอย แล้วนำไปขัดดวงไฟจนกลายเป็นฝ้าขุ่นมัวสม่ำเสมอกัน ก่อนที่จะใช้ผ้าชุบน้ำยาเคลือบเช็ดลงไปบนพื้นผิวดวงไฟ ทิ้งไว้สัก 10-15 นาทีและเคลือบชั้นที่ 2 อีกครั้ง หลังจากนั้นทิ้งไว้จนแห้งประมาณ 1 ชั่วโมงก็สามารถนำรถออกไปใช้ได้แล้ว
รอยข่วนที่เบ้าจับประตู
รถยนต์ก็มีส่วนที่บอบบางและเกิดริ้วรอยง่ายอยู่จุดหนึ่ง นั่นก็คือ บริเวณเบ้าจับประตู เพราะเป็นบริเวณที่เล็บมือของพวกเราต้องเผลอไปขีดข่วนอยู่เป็นประจำ สะสมไปทีละเล็กละน้อย จนกลายเป็นรอยข่วนสีขาวๆ ด่างๆ ไม่น่ามอง
ดังนั้นก่อนที่มันจะเลยเถิดเกิดเป็นรอยลึกลบยาก หรือลึกจนกินเนื้อสี (ซึ่งจะเยียวยายากหน่อย คงต้องขอความช่วยเหลือจากช่างทำสี) เราก็ควรจะใช้ 3M Scratch Remover ลบรอยข่วนตั้งแต่เนิ่นๆ วิธีใช้งานก็แค่เทลงบนผ้าไมโครไฟเบอร์ แล้วถูบริเวณเบ้าจับประตู เท่านี้ผิวก็กลับมาเรียบเนียนเหมือนใหม่
เบาะหนังซีดจาง
คนเราตากแดดตากลมมากๆ เข้า ผิวยังดำคล้ำเสียแห้งกร้านได้ เบาะหนังของรถยนต์ที่ผ่านการใช้งานมานาน โดนแดดเลียอยู่ทุกวี่ทุกวันก็สามารถซีดจางและแห้งกรอบได้ไม่ต่างกันเลย
ฉะนั้นสำหรับคนใช้รถยนต์ นอกจากจะดูแลสภาพภายนอกรถแล้ว ก็ต้องไม่ลืมคืนความชุ่มชื้นให้กับเบาะหนังภายในรถด้วย ‘3M Leather & Tire Restorer Aerosol’ ซึ่งใช้งานง่าย เพราะเป็นสเปรย์ เพียงฉีดลงไปที่เบาะแล้วใช้ผ้าไมโครไฟเบอร์เช็ดให้แห้ง เบาะหนังก็จะเงางามกลับมาเหมือนใหม่
นอกจากจะใช้กับเบาะหนังได้แล้ว ก็ยังใช้กับพลาสติกสีดำได้ด้วย อย่างเช่นแผงจิ้งหรีดบริเวณที่ปัดน้ำฝน ซึ่งมักจะเป็นรอยด่าง ก็สามารถใช้น้ำยาเช็ดเพื่อคืนความดำเงาให้เหมือนใหม่
คราบขี้นก
ลองนึกดูว่าสาวที่คุณชวนออกเดต มองเห็นคราบขี้นกเกรอะกรังอยู่บนหลังคารถของคุณสิ นั่นอาจจะทำให้คุณโดนตัดคะแนนไปบ้างตั้งแต่ยังไม่ทันเริ่มมื้ออาหารเลยนะ
แต่ในความเป็นจริง ต่อให้คุณไม่ได้นัดเดตใครก็เถอะ ขี้นกก็ไม่ควรจะค้างคาอยู่บนรถยนต์ของเราด้วยประการทั้งปวง เพราะขี้นกนั้นมีฤทธิ์กัดกร่อน หากทิ้งไว้นานๆ นอกจากจะล้างไม่ออกง่ายๆ แล้ว ในระยะยาวยังทำลายเนื้อสีของรถได้ด้วย
ถ้าในกรณีที่ยังเป็นขี้นกสด ก็ยังพอใช้น้ำฉีดล้างได้ แต่ถ้าเป็นขี้นกแห้งแล้ว น้ำจะฉีดออกได้ยาก ยังไงก็จะทิ้งคราบไว้อยู่ดี คุณควรใช้ทิชชู่หนาๆ ชุบน้ำแล้วโปะลงบนขี้นก ทิ้งไว้สักพักให้ขี้นกที่แห้งเริ่มอ่อนนุ่มขึ้นแล้วค่อยๆ เช็ดออก พยายามหลีกเลี่ยงการเอาผ้าเช็ดขี้นกโดยตรงนะ เพราะนั่นจะยิ่งทำให้เกิดรอยขีดข่วน เป็นการทำร้ายรถที่สุดรักของเราซ้ำซ้อนเข้าไปอีก
คราบกาวสติกเกอร์
วิธีสร้างเอกลักษณ์ให้รถของเราแตกต่างจากคันอื่น นอกจากแต่งท่อ เปลี่ยนแม็กแล้ว ก็ยังมีวิธียอดฮิตอีกแบบ ก็คือ ติดสติกเกอร์ ที่เปิดกว้างให้เราหาคำโดนใจมาแปะไว้ท้ายรถเพื่อบอกสถานะ สไตล์ หรือจะใช้เป็นพื้นที่แสดงอารมณ์ขันก็ยังได้ ไม่ว่าจะเป็น ‘มือเก่าขับมานานแล้วจ้า’ ‘ผู้พิชิตโค้ง 1,864 โค้ง’ หรือ ‘วัดดูยูมีน’
เสียอยู่อย่างเดียวคือ หากวันหนึ่งอยากจะลอกออก ปัญหาที่ตามมาก็คือคราบกาวเหนียวเหนอะหนะ ซึ่งจะทำให้ผิวของรถดูไม่เรียบเนียน
วิธีจัดการง่ายๆ ก็คือ ใช้ ‘3M Multi-Purpose Spray Lubricant’ ฉีดเข้าไปด้านใต้สติกเกอร์เล็กน้อย แล้วค่อยๆ ลอกออก ซึ่งนอกจากจะใช้ลอกสติกเกอร์แล้ว น้ำยาอเนกประสงค์ตัวนี้ยังใช้ทำความสะอาดคราบหมากฝรั่ง ไล่ความชื้น ล้างสนิมก็ได้ ไม่ทิ้งกลิ่นฉุนด้วยนะ
ยางมะตอย
ถนนในประเทศไทยนั้น ทั้งซ่อมทั้งสร้างไม่เว้นแต่ละวัน ยังไงก็ต้องมีสักครั้งที่เราขับรถไปบนถนนราดยางมะตอยที่เพิ่งทำเสร็จสดๆ ร้อนๆ แล้วก็อัญเชิญรอยยางมะตอยติดตัวถังรถกลับบ้านไปด้วย เป็นรอยด่างดำ ไม่น่ามอง
แม้ฟังดูแล้วน่าจะเป็นรอยที่จัดการยาก แต่ถ้าคุณได้รู้จักกับ ‘3M Asphalt & Adhesive Remover’ แล้ว ก็คงหายห่วง เพราะมันเป็นสเปรย์ที่ใช้งานง่าย เพียงฉีดลงบริเวณรอยยางมะตอย แล้วทิ้งไว้ 10 วินาที ใช้ผ้าไมโครไฟเบอร์เช็ดออก โดยไม่ต้องรอให้น้ำยาแห้ง ถ้ารอยยางมะตอยยังออกไม่หมด ให้ทำซ้ำอีกหนึ่งรอบ เพียงแค่นี้รถก็กลับมาผิวพรรณเนียนกริ๊บ ไม่มีรอยด่างดำแล้ว
*หมายเหตุ ผลิตภัณฑ์นี้ใช้ได้เฉพาะบนพื้นผิวที่ใช้สีเคลือบด้วยแลกเกอร์เท่านั้น และห้ามใช้กับบริเวณที่เป็นโครเมียม พลาสติกสีดำ หรือกระจก
รอยคราบน้ำ
ถือเป็นรอยที่ทุกคนน่าจะเจอกันบ่อยที่สุด และอาจจะคิดว่ามันเป็นรอยที่ ‘เล็กน้อย’ ที่สุดด้วย ดูเหมือนไม่น่าจะทำอันตรายอะไรได้ แค่ล้างรถก็หายแล้ว
แต่ความเป็นจริงนั้น หยดน้ำที่ถูกปล่อยไว้ให้แห้่งโดยไม่ได้รับการล้างและเช็ดจะทิ้งคราบสกปรกเป็นวงๆ ยิ่งถ้าเป็นหยดน้ำฝนที่พาทั้งฝุ่นทั้งโคลนขึ้นมาด้วยแล้วก็ยิ่งไปกันใหญ่ อาจกลายเป็นคราบฝังลึกในที่สุด นำมาซึ่งรอยขีดข่วนแก่รถของเรา
ทางป้องกันที่ดีที่สุดก็คือ ล้างรถให้บ่อย อย่าปล่อยให้ฝุ่นจับหนา เมื่อล้างแล้วก็ต้องเช็ดให้แห้ง แต่ถ้าพบว่ารอยคราบน้ำยังไม่หายไป ก็ให้ใช้ ‘3M Scratch Remover’ เทลงบนผ้าไมโครไฟเบอร์ แล้วถูบริเวณที่เป็นรอยได้เลย
3M Auto Care ยังมีผลิตภัณฑ์ดูแลรถยนต์ที่ใช้งานง่ายและตอบโจทย์คนรักรถอีกหลากหลายชิ้น สามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ facebook.com/3MAutoCareThailand/