สำหรับบางคนแล้วการรับสายโทรศัพท์จากฉัน มันอาจทำให้อารมณ์ของคุณหงุดหงิดยิ่งกว่าเมนส์มาสัปดาห์ละเจ็ดวันเสียอีก ก็แหงล่ะ ด้วยการแข่งขันของบริษัทประกันสมัยนี้ ที่วิ่งทำยอดกันราวกับชิงแชมป์โอลิมปิก คงจะทำให้คุณเบื่อและเอียนกับประโยค “ขอเวลาสักครู่นะคะ พอดีเรามีกรมธรรม์ดีๆ ที่เหมาะกับคุณมานำเสนอ” เต็มทน
บอกตรงๆ ว่าฉันเองก็เบื่อ ก็แหม ต้องพูดแต่ประโยคนี้วันละหลายร้อยหน ต้องนำเสนอเงื่อนไขยิบย่อยอีกเป็นวันละหลายสิบครั้ง ใครกันจะไม่เบื่อ แต่ก็นั่นล่ะ ฉันเองก็จำเป็นต้องทำงานของฉัน เหมือนแม่ค้าแกงถุงที่ตะโกนเรียกลูกค้า คนขับตุ๊กตุ๊กที่โบกมือเรียกผู้โดยสาร ผู้สมัครพรรคการเมืองที่พยายามหาเสียงในการเลือกตั้ง (อืม แต่อันนี้เหมือนฉันจะไม่ได้เห็นมานานแล้ว) หรือกระทั่งพนักงานร้านกาแฟที่พยายามจะนำเสนอโปรโมชั่นหนึ่งแถมหนึ่ง ต่างกันก็แค่ในบรรดาคนนำเสนอสินค้าทั้งหมดนั้น คุณดูจะเกลียดฉันที่สุด (ปาดน้ำตาด้วยจริตมิสเวเนฯ)
ฉันไม่รู้ว่าพอจะมีวิธีไหนที่จะทำให้คุณลดความลำไยฉันไปได้บ้าง (อย่าบอกให้ฉันยื่นซองขาวเลยนะ ฉันยังมีพ่อหนึ่งลูกสามกับนายท่านแมวอีกสองตัวให้ต้องปรนนิบัติดูแล) นอกจากจะมาเปิดเผยไดอารี่ชีวิตแสนจะปุถุชนคนธรรมดา ที่อาจจะพอทำให้คุณมองและปฏิบัติกับฉันด้วยความเอ็นดูมากขึ้นมาอีกสักหน่อย
หมายเหตุ – อ่านไปอ่านมา ถ้าฉันเผลอขายของไปบ้าง ก็อย่าเพิ่งจุดธูปแช่งฉันเลยนะ บางทีก็ลืมตัวนึกว่ากำลังขายประกันอยู่เหมือนกัน
6:30 น. สาวออฟฟิศชีวิตเกินร้อย
ตั้งแต่ตื่นนอนขึ้นมา ขาของฉันยังไม่ได้หยุดขยับ ตั้งแต่ลุยเดี่ยวเตรียมข้าวปลาอาหารให้พ่อแม่ ลูกชายลูกสาว และนังเหมียวที่เพิ่งตื่น พาเด็กๆ เบียดเสียดขึ้นรถเมล์ไปส่งที่โรงเรียน ก่อนจะโหนรถกะป๊อไปต่อพี่วินเทียบท่าถึงยังที่ทำงาน วันไหนโชคดีก็ได้พี่วินเสื้อไร้กลิ่นอับ พาขับลัดเลาะนิ่มนวลอย่างเจนจัดในสนาม แต่วันไหนโชคร้ายหน่อย ก็อาจได้เข่าที่เขียวเป็นปื้น หรือความตื่นเต้นราวหนังแอคชั่นเป็นของแถมให้พอยิ้มอ่อนเป็นกระษัย ไม่ต่างกับชีวิตพนักงานออฟฟิศในเมืองใหญ่ที่ต้องเผชิญอยู่ทุกเช้านั่นล่ะ
หลังจากซื้อกาแฟเย็นรถเข็นที่จืดจางเหมือนน้ำล้างจานรองแก้ว (คือจืดยิ่งกว่าน้ำล้างแก้วไงล่ะ!) สิ่งสำคัญที่ฉันจะลืมไปไม่ได้เลยก่อนจะวิ่งหน้าตั้งขึ้นไปแสกนนิ้วเข้างาน นั่นก็คือการจุดธูปเทียนบูชาแอบติดสินบนศาลพระภูมิเจ้าที่ขอให้ชีวิตการทำงานวันนี้ราบรื่น โดนด่าน้อยๆ และหวังจะได้โอกาสจากพี่ๆ ใจดีให้ได้ใช้เวลาอธิบายนำเสนอขายประกันก่อนโดนวางหูใส่ เพราะอาชีพฉันก็ไม่ต่างอะไรจากคอลเซนเตอร์ผสมเซลส์ดีๆ นี่ล่ะ ค่าเทอมลูก ค่ากินค่าอยู่คนในบ้าน ก็ล้วนแล้วมาจากการทำยอดให้ถึงเป้าเท่านั้น ฟังแบบนี้อาจจะดูว่าฉันกำลังตัดพ้อชีวิต แต่เปล่าเลย ฉันรู้ว่าคนเราเกิดมามีโอกาสไม่เท่ากัน ทุกคนต่างก็ต้องต่อสู้ฝ่าฟันเพื่อมีชีวิตรอดในแบบของตัวเองทั้งนั้น ฉันเองเมื่อมีโอกาส มีเรี่ยวแรงที่ยังพอจะทำงานได้ แม้จะเป็นงานที่ต้องใช้ความอดทนสูงอยู่สักหน่อย แต่ฉันเชื่อว่าถ้าเรามุ่งมั่นตั้งใจจริง และเลือกทำในสิ่งที่ไม่ได้ผิดต่อใคร วันหนึ่งก็จะมีคนมองเห็น เข้าใจ และให้เกียรติเราในฐานะ ‘เพื่อนมนุษย์’ ที่ประกอบอาชีพสุจริตคนหนึ่งของสังคม
8:30 น. เตรียมตัวให้ไว เตรียมใจให้พร้อม
ในช่วงเวลาเดียวกับที่อาจารย์มหาวิทยาลัยเตรียมการเรียนการสอน เลขาฯ ผู้บริหารเตรียมรายงานเรื่องการนัดหมาย พนักงานประกันอย่างฉันก็กำลังคร่ำเคร่งอยู่กับการเตรียมตัว อัพเดทข้อมูลประกันรูปแบบต่างๆ ที่จะนำไปเสนอลูกค้าในวันนี้เหมือนกัน แต่พูดก็พูดเถอะ ฉันว่าการเตรียมตัวในขั้นตอนนี้ของบริษัทฉัน มันเป็นอะไรที่น่าเหน็ดเหนื่อยเสียยิ่งกว่าตอนเดินสายขูดเลขเด็ดเจ็ดวัดเจ็ดวาเสียอีก
คุณลองคิดดูนะ ด้วยความที่บริษัทฉันมันไม่ใช่บริษัทประกันภัยทั่วไป แต่เป็น ‘โบรคเกอร์ ประกันภัย’ หรือพูดง่ายๆ ก็คือเป็นตัวกลางที่จะช่วยทำหน้าที่ค้นหาบริษัทประกันที่มีข้อเสนอที่ดีที่สุดให้กับลูกค้า เพราะฉะนั้นประกันภัยรูปแบบต่างๆ ที่บริษัทมี และฉันต้องมานั่งจดจำทำความเข้าใจในแต่ละวันจึงเรียกได้ว่ามหึมาอภิมหาศาล ตั้งแต่ ประกันภัยรถยนต์ ชั้นหนึ่ง ชั้นสอง ชั้นสาม (ถ้ามีใครคิดทำชั้นใต้ดินด้วย ฉันว่าบริษัทฉันก็คงมี) ประกันอุบัติเหตุ สุขภาพ ขโมยขึ้นบ้าน ไฟไหม้ ไปยัน น้ำรอระบาย เอ้ย น้ำท่วม กับอีกแปดแสนแปดสิบแปดอย่าง เยอะจนฉันคิดว่าถ้ามีประกันหมวดเฉพาะสำหรับสุขภาพสมองพนักงานขายประกัน ฉันคงสมัครก่อนเป็นคนแรก
10:00 น. ลงสนามจริง พี่ขาอย่าเพิ่งด่าหนู
หลังจากวอร์มอัพชีวิตไปแล้วตอนเช้า เมื่อนาฬิกาตีเป๊งที่สิบโมงตรง ฉันก็เริ่มติดต่อลูกค้าคนแรก “สวัสดีค่ะ ดิฉันรจนา จาก…” “ประกันใช่มั้ย” “ค่ะ” “ไม่เอา รำคาญ!! …” ฮือออ คนแรกก็ฤกษ์ไม่ดีเสียแล้ว ฉันไม่แปลกใจหรอกที่คุณจะโกรธ จะตั้งแง่รังเกียจ เพราะฉันรู้ดีว่าภาพลักษณ์การขายประกันในสายตาคนส่วนใหญ่นั้นออกจะฟังดูไม่ดีสักเท่าไหร่ ไม่ว่าจะด้วยประสบการณ์ด้านไม่ดีที่คุณหรือคนรอบข้างเคยเจอมาก่อน แต่ในทุกวงการทุกสาขาอาชีพฉันเชื่อว่ามันปะปนไปด้วยทั้งคนดีและคนไม่ดี การจะเหมารวมว่าพนักงานขายประกันทุกคนกำลังจะมาหลอกคุณนั้นออกจะฟังดูใจร้ายไปสักหน่อย เพราะสิ่งที่ฉันทำก็แค่เป็นการนำเสนอ แนะนำสินค้าที่คุณอาจกำลังมองหา กำลังต้องการใช้ หรืออาจจำเป็นต้องใช้ในอนาคต ถ้าพี่ไม่ได้เพิ่งทะเลาะกับเมีย โดนเด็กเชียร์เบียร์หักอก หรือขี้นกตกใส่รถคันโปรด พี่อาจจะแค่ปฏิเสธหนูดีๆ ก็ได้ แล้วหนูจะยอมไปแต่โดยดี แบบที่พี่ไม่จำเป็นต้องด่าหยาบคายใส่ให้เปลืองแรงเลย
ฉันดูดกาแฟเย็นที่เริ่มละลายจนจืดจางยิ่งกว่าเก่าอีกรอบ ก่อนจะลองอีกหน บอกตัวเองให้สู้ๆ เข้าไว้ ความเข้าใจต้องใช้ความอดทน และความจริงใจเข้าแลก ฉันเตรียมตัวมานานเกินกว่าจะยอมแพ้ ข้อมูลประกันที่เป็นประโยชน์ต่อลูกค้าอัดแน่นอยู่ในหัว พ่อเคยสอนไว้ว่า ซื่อกินไม่หมด คดกินไม่ได้ ไม่ใช่แค่กินได้ไม่นาน เพราะสมัยนี้โลกโซเชียลมันไปไวมาก ถ้าบริษัทให้คำแนะนำที่หลอกลวงลูกค้า ไม่ช้าคนทั้งประเทศก็ย่อมรู้ แล้วใครจะกล้าเสี่ยงให้อาชีพหรือธุรกิจที่ควรดำเนินการทำกำไรได้อีกยาวไกล ต้องมาล้มเพียงเพราะผลประโยชน์เล็กๆ น้อยๆ กันเล่า ถ้าฉันถูกเลขเด็ดสักสิบล้าน วันนี้ฉันคงไม่ได้มาทำงานที่ต้องฟังคำปฏิเสธมากกว่าเสียงลูกในหนึ่งวันเช่นนี้หรอก แต่เมื่อฉันเลือกจะรับภาระหน้าที่นี้แล้ว ฉันก็ต้องอดทน อดกลั้น และทำหน้าที่นี้ให้ได้ดีที่สุด
11:11 น. ประกันที่ใช่ ไม่ได้เจอง่ายเหมือนในทินเดอร์
ก่อนสมัครเข้าทำงานที่นี่ฉันเคยสงสัยว่าในเมื่อมีตัวแทนขายประกันภัยของแต่ละบริษัทอยู่แล้ว บริษัทโบรคเกอร์ ประกันภัย จะมีพื้นที่ตรงไหนให้ไปแทรกชีวิตอยู่ แต่แล้วฉันก็เข้าใจเมื่อหัวหน้าหยิบรูปผู้ชายสามคนขึ้นมาเปรียบเทียบ ถ้าไม่มีคนคอยสืบประวัติให้เราจะรู้ได้ยังไงว่าผู้ชายคนไหนประวัติดี ประวัติเสีย มีสเปกตรงกับความต้องการ คบด้วยแล้วเรามีแนวโน้มจะแฮปปี้มากที่สุด หน้าที่ของ โบรคเกอร์ ประกันภัย ก็เหมือนกับแม่สื่อ คอยพิจารณาหาประกันที่เหมาะสมตรงกับความต้องการของลูกค้ามากที่สุดมานำเสนอ คอยปกป้องผลประโยชน์ไม่ให้บริษัทประกันมาหลอกเอาได้ ทำให้ลูกค้าไม่ต้องสุ่มเสี่ยงไปเลือกทดลองซื้อประกันมั่วซั่วกับบริษัทต่างๆ เหมือนทดลองคบผู้ชายจนเจอคนที่ใช่ ต่างกันที่ประกันไม่เหมือนผู้ชาย ที่คบแล้วไม่ใช่ เราไม่ได้แค่เสียใจ แต่กลายเป็นเสียเงินไปฟรีๆ ให้เจ็บใจยิ่งกว่าน้ำตาเช็ดหัวเข่า
ซึ่งในขั้นตอนนี้นี่เอง ถ้าฉันโชคดีมีลูกค้าให้โอกาสได้ทำหน้าที่เป็นแม่สื่อแนะนำประกันภัยที่เหมาะสมให้ ฉันก็จะทำการคำนวณ เปรียบเทียบเบี้ยประกันและเงื่อนไขยิบย่อย (แบบที่ชอบดอกจันตัวเล็กๆ เป็นสิบหน้ากระดาษน่ะ) จากบริษัทต่างๆ เพื่อหาประกันที่คุ้มค่าที่สุดมาแนะนำคุณ ชนิดว่าเอาให้แม่บ้านที่ชอบเปรียบเทียบราคาสินค้าแต่ละห้างชิดซ้ายไปเลย หรือถ้าในช่วงที่ประกันของคุณใกล้หมดก็ไม่ต้องกังวลใจไป เพราะก็เป็นหน้าที่ของฉันอีกนั่นแหละที่ต้องโทรไปเตือนเพื่อรักษาสิทธิ์ให้คุณแบบเก็บทุกเม็ด ถึงจะเป็นความเชื่อบ้าๆ แต่ฉันก็เห็นมานักต่อนักแล้วว่าเวลาประกันของคนเราขาดทีไร เรื่องมักจะเกิดในช่วงนั้นทุกที ก็คงเหมือนเวลาเราซักผ้า ล้างรถในวันแดดออก แล้วทันใดนั้นฝนก็เทซู่ลงมาให้เจ็บใจเล่นๆ
12:00 น. กินข้าว เมาท์ลูกค้า ช่วงเวลาแห่งการพักผ่อน
ฉันเองก็เหมือนกับคนทำงานทั่วไปทุกคนนั่นล่ะ เข็มสั้นยาวชี้ไปที่เลขสิบสองทีไรแสนจะดีใจจนอยากกรีดร้องเป็นภาษาวานูอาตูทุกที หลังจากเหนื่อยกับการใช้เสียงไปจนคอแห้ง ในที่สุดช่วงเวลาแห่งการพักกายพักใจก็วนมาถึง ฉันรีบเก็บกระเป๋า เดินเมาท์กับเพื่อนร่วมงานไปยังร้านข้าวแกงเจ้าประจำ นึกถึงแกงไตปลาและไก่ทอดแป้งกรอบหนา หวังว่าสิ่งที่ฉันอยากกินนั้นจะยังเหลืออยู่ หลังจากโดนปฏิเสธมาตลอดช่วงเช้า ฉันก็ได้แต่ภาวนาให้อะไรๆ ช่วยเข้าข้างฉันบ้าง
ในขณะที่เออีเอเจนซี่โฆษณาโต๊ะข้างหลังกำลังเมาท์เรื่องความเรื่องมากของลูกค้า พี่ยามโต๊ะข้างหน้าก็กำลังบ่นเรื่องความหยาบคายของพนักงานในบริษัทที่ปฏิบัติต่อเขา น่าเศร้านัก ในขณะที่เราต่างก็ถูกปฏิบัติด้วยความไม่ให้เกียรติในฐานะมนุษย์ใส่ในหลายๆ ครั้ง แต่เราก็ยังเลือกที่จะใช้คำพูดและการกระทำที่ไม่ได้ดีกว่ากันใส่เพื่อนมนุษย์คนอื่นๆ ขณะที่ฉันกำลังตักแกงไตปลาเข้าปาก วงสนทนาบนโต๊ะฉันก็กำลังดุเด็ดเผ็ดมันส์ไม่แพ้รสอาหารในปากเลย สมชายกำลังแชร์ประสบการณ์สุดเตลิดเปิดเปิงกับการถูกลูกค้าด่าด้วยคำพูดหยาบคายในช่วงเช้า ขณะที่จินตหราก็กำลังอวดว่าลูกค้าที่เหยียดอาชีพขายประกันของเธอนั้นใช้คำพูดได้แรงกว่าไม่รู้กี่เท่าต่อกี่เท่า หลายครั้งที่ฉันนึกโกรธ แต่ในความโกรธนั้นก็มีพื้นฐานความเข้าใจในความรำคาญของลูกค้าอยู่ด้วย ความโกรธจึงแปรเปลี่ยนไปเป็นความเสียใจ น้อยใจ แต่เอาเถอะฉันหวังว่าความรู้สึกแย่ๆ นั้นจะสลายไปนะเมื่อเห็นค่าเทอมลูกในสลิปเงินเดือน
14:14 น. ช่วงบ่าย กับการฝ่าฟันครั้งใหม่ที่ท้าทายยิ่งกว่า
เติมพลังมาพร้อม ในที่สุดการทำงานช่วงบ่ายก็เริ่มต้นขึ้น อ้อ ฉันบอกไปแล้วหรือยังว่านอกจากพวกเราจะเป็นฝ่ายที่ทำหน้าที่ติดต่อไปหาลูกค้าแล้ว เราเองก็มี Call Center คอยแสตนด์บายรับโทรศัพท์จากลูกค้าอยู่เหมือนกัน ไม่ว่าคุณจะมีปัญหารถชน ป่วยไข้ ไฟไหม้ โจรขึ้นบ้าน (ยกเว้นแค่อกหักกับเงินเดือนไม่พอใช้) คุณสามารถโทรหาเราได้ที่เบอร์ 1737 หรือติดต่อผ่าน Apps TQM ได้ตลอด 24 ชั่วโมง แล้วเราจะเป็นคนที่คอยทำหน้าที่ประสานงาน ติดตามความคืบหน้ากับบริษัทประกันให้จนจบเรื่อง รับรองว่าเราจะตามเค้น ตามทวง ตามบี้ เอาให้บริษัทประกันภัยของคุณไม่มีช่องให้งอแงบิดพลิ้วใดๆ ทั้งสิ้น หรือกระทั่งถ้าบริษัทประกันเกิดไปถึงช้า พี่มงคล พี่บดินทร์ พี่สมจิต พี่ประยุส และบรรดาพี่ๆ อีกมากมายที่แสตนด์บายคอยอยู่ก็พร้อมจะแว๊นไปหาคุณอย่างเร็วรี่ ไม่ปล่อยให้คุณเผชิญปัญหาคนเดียวแน่นอน
อ้อ นอกจากนี้ เรายังมีลุงสุพจน์ อาสมหมาย น้าสมหญิง และทีมกฎหมายคนอื่นๆ ที่พร้อมให้ความช่วยเหลือจัดการในด้านกฎหมายตั้งแต่ต้นจนจบ แอบกระซิบไว้หน่อยว่า หลังจากเคยเจอหน้ากันอยู่สองสามที ฉันว่าถ้าเป็นรองเท้าป่านนี้ก็มีแผลเหวอะกันบ้างล่ะ เพราะพวกเขากัดไม่ปล่อยจริงๆ เพื่อรักษาผลประโยชน์ให้กับลูกค้า (แต่ว่าไม่มีหรอกนะ จะมาเปลี่ยนผิดเป็นให้ถูกเหมือนผู้ใหญ่บางคน อะแฮ่ม หมายถึงผู้ใหญ่ที่โตแล้วทั่วไปนั่นล่ะ)
14:30 น. ไหนๆ ก็ไหนๆ ขอขายของเสียหน่อย
ไหนๆ คุณก็อุตส่าห์อดทนอ่านไดอารี่ของฉันมาจนถึงหน้านี้โดยไม่บ่น (หรืออาจจะก่นด่านิดๆ ในใจ) แล้ว ฉันก็ขอกันตรงๆ ขอกันซื่อๆ ขอพื้นที่หนึ่งหน้าขายของที่อุตส่าห์ท่องมาตั้งแต่ตอนแปดโมงครึ่งเสียหน่อย นอกจากการบริการที่อาจไม่ได้มีสโลแกนรักคุณเท่าฟ้า แต่จริงใจกว่าแบบพร้อมให้คุณพิสูจน์ได้ เรายังมีโปรโมชั่น ข้อเสนอเด็ดๆ มาฝากไว้ให้ครุ่นคิส นั่นก็คือประกันชั้น 1 เริ่มต้นที่ 7,500 บาท ผ่อนได้ มีรถให้ใช้ระหว่างซ่อมด้วย
.
.
อะไรนะ
.
.
ประกันชั้น 1 เริ่มต้นที่ 7,500 บาท ผ่อนได้ มีรถให้ใช้ระหว่างซ่อมด้วย
.
.
ยังไงนะ
.
.
ประกันชั้น 1 เริ่มต้นที่ 7,500 บาท ผ่อนได้ มีรถให้ใช้ระหว่างซ่อมด้วย
.
.
หื้ม
.
.
ประกัน… (พอแล้ว!!! ได้ทีเอาใหญ่)
.
นั่นแหละ เอาเป็นว่าเรามีโปรโมชั่นเด็ดๆ แซ่บยิ่งกว่ามิดไนท์เซลส์มาฝากอยู่บ่อยๆ อย่าลืมคอยติดตามดูให้ดีนะ
22:00 น. กลับบ้านหลับฝันดี แล้วพรุ่งนี้ตื่นมาสู้กันใหม่
ฉันเชื่อว่าช่วงเวลาหลังเลิกงานคือช่วงเวลาที่มนุษย์เงินเดือนอย่างเราๆ ทุกคนตั้งตาคอยมาที่สุด เพราะนอกจากจะได้กลับบ้านไปพบหน้าพ่อแม่ ดูแลลูกๆ ได้ใช้เวลาอยู่กับครอบครัวแล้ว ยังเป็นช่วงเวลาที่เราจะได้หยิบยกเอาหน้าที่ ภาระต่างๆ ที่ได้เผชิญมาตลอดวันออกจากไหล่ ได้ใช้เวลาผ่อนคลายไปกับตำซั่วปูปลาร้ายอดปรารถนา ละครหลังข่าวเรื่องโปรด หรือนอนพังพาบทำตัวเป็นทาสให้เจ้าเหมียวแสนรักปีนป่าย อยู่ในหน้าที่เราอาจจะเป็นพนักงานขายประกันที่คุณรังเกียจเสียยิ่งกว่าขาแมลงสาบในแซนวิช แต่อย่าลืมว่าชีวิตในอีกด้านเราเองก็เป็นมนุษย์ปุถุชนคนธรรมดาที่มีครอบครัวต้องดูแล มีภาระที่ต้องแบกรับ มีความสุข ทุกข์ สมหวัง ผิดหวัง ในเรื่องส่วนตัวให้ต้องเผชิญไม่ต่างจากทุกคน
ฉันเองก็ไม่รู้ว่าในวันพรุ่งนี้ ยามที่พระอาทิตย์โผล่พ้นขอบฟ้าขึ้นมาอีกครั้ง ยามที่ชีวิตฉันต้องกลับเข้าสู่ลูปเดิมอย่างไม่อาจหลีกเลี่ยงได้ จะมีเรื่องดีๆ อะไรสักอย่างเกิดขึ้นกับฉันหรือเปล่า ฉันหลับตาลง เก็บเกี่ยวช่วงเวลาพักผ่อนให้เต็มที่ เพื่อเซฟพลังงานไว้เผชิญหน้ากับเช้าวันใหม่ แล้วได้แต่หวังว่าหนึ่งในเรื่องดีๆ เหล่านั้นจะเกิดขึ้นหลังคำพูดที่ฉันใช้เป็นประจำจนแทบละเมอได้
“สวัสดีค่ะ ดิฉันรจนา จากบริษัทโบรคเกอร์ ประกันภัย TQM คุณลูกค้าพอจะมีเวลาสักสิบนาทีไหมคะ”