การเปิดตัวพรีเซนเตอร์แว่นตา Ophtus ในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา เรียกว่าเป็นตำนานบทใหม่ทั้งของกับแบรนด์ Ophtus เอง และกับ ‘อาจารย์ปวิน ชัชวาลพงศ์พันธ์’ ที่นับเป็นบทบาทครั้งสำคัญในชีวิต
“การเป็นพรีเซนเตอร์ให้กับแว่นตา Ophtus ครั้งนี้ถือเป็นเรื่องใหญ่ และค่อนข้างสำคัญมากในชีวิตผมนะ” เพราะนอกเหนือจากการเป็นพรีเซนเตอร์ นี่ยังเป็นการแสดงคำมั่นของแบรนด์กับวิสัยทัศน์ที่ว่า Eyewear for All หรือแว่นตาสำหรับทุกคน ได้อย่างชัดเจน
“เราใช้ความเป็นรัฐศาสตร์ตีความลงไปให้ลึกกว่านั้น คือเราต้องสร้างสังคมที่เท่าเทียม และแว่นตาก็เป็นไอเท็มที่ทุกคนสามารถเข้าถึงได้ มันอาจจะเป็นอุดมคติ เพราะในโลกของความจริง ไม่มีใครรวยเท่ากันหรือจนเท่ากัน แต่อย่างน้อยมันเป็นโอกาสให้คนได้เท่ากัน ผมอาจจะไม่ใช่เกมเมอร์ ไม่ใช่ดารา แต่ทุกคนเท่ากันนี่ ในที่สุดแล้ว มันก็คือความเป็นคนหรือเปล่า?”
เราชวนอาจารย์ปวิน นั่งคุยแบบสบายๆ ในช่วงบ่ายวันอาทิตย์ กับเรื่องราวอีกด้านที่สร้างความสุขและแรงบันดาลใจให้กับผู้คนอยู่เสมอ และคำถามที่เชื่อว่าอยู่ในใจของหลายคนเกี่ยวกับบทบาทพรีเซนเตอร์แว่นตา Ophtus ในครั้งนี้
ชีวิตนอกเวลางาน
บทบาทที่คุ้นเคยของพวกเรากับอาจารย์ปวิน คืองานวิชาการและนักวิจัยด้านรัฐศาสตร์ “ทุกวันนี้ที่ทำอยู่ที่เกียวโตคืองานในฝันจริงๆ ใครที่ทำงานในอาชีพนักวิชาการ อย่างผมเป็นรองศาสตราจารย์ แล้วได้ทำงานวิจัยแบบงานถาวร ด้านหนึ่งมันก็เป็นเรื่องความมั่นคงของชีวิต”
“และอีกประการ ที่ทำงานตรงนี้เป็นสถาบันวิจัย ถึงแม้ว่าจะอยู่ในมหาวิทยาลัยเกียวโตก็ตาม อย่างญี่ปุ่นจะมีประเด็นที่ว่า สถาบันวิจัยสายมนุษยศาสตร์มักได้รับความนิยมน้อยกว่าสายอื่น จึงต้องพิสูจน์ตัวเองว่าเรายังอัพเกรดอยู่ตลอด ยังมีส่วนร่วมสร้างผลงานต่างๆ ด้วย แล้วเขาก็เสรีมากในแง่ที่ว่า อยากทำอะไรก็ทำ”
เราชวนอาจารย์คุยต่ออีกนิด ว่างานวิจัยสายมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ เขาทำงานอะไรกันบ้าง? “ก็เข้าใจได้ว่า งานค่อนข้างเป็นนามธรรมเมื่อเทียบกับงานวิจัยของสายวิทยาศาสตร์ที่เห็นภาพชัดกว่า ผมว่าอย่างแรก ต้องเริ่มต้นที่ว่า เราอยากทำเรื่องอะไร ต้องเอาตรงนั้นเป็นเป้าหมาย แล้วออกไปค้นหาข้อมูล ไม่ว่าจะด้วยวิธีการเข้าหอจดหมายเหตุ ขุดเอกสาร แล้วดูว่าสามารถสัมภาษณ์ใครได้บ้าง ต้องรับความร่วมมือจากที่ไหนบ้าง จากนั้นมานั่งวิเคราะห์ข้อมูลที่มีอยู่ทั้งหมด บวกกับการสัมภาษณ์ แล้วเริ่มเขียนงาน”
“อีกอย่างหนึ่งคือ การเก็บข้อมูลมันไม่มีจุดสิ้นสุด เราต้องรู้จักพอ ต้องตั้งเป้ากำหนดขอบเขตว่าจะไม่ไปไกลกว่าตรงนั้น ไม่อย่างนั้นก็จะขุดเอกสารแบบไม่มีวันหมด สัมภาษณ์ได้เป็นร้อยคนพันคน จริงๆ แม้แต่คนนั่งทำเอง บางทีก็ถามตัวเองเหมือนกันนะ ว่าทำอะไรอยู่”
เอาล่ะ! เราชวนอาจารย์ปวินเลิกงาน มานั่งเล่าเรื่องราวชีวิตประจำวันกันบ้างดีกว่า “ผมเป็นคนที่ Productive มากๆ ผมทำงาน 7 วัน จนกลายเป็นนิสัยที่ว่า ถ้ามีวันหยุดหรือวันที่เราไม่อยากทำงานแล้วเราไม่ทำ เราจะรู้สึกผิด ซึ่งไม่ใช่เรื่องดีเลยนะ แต่การที่ผมหยุดมันไม่ได้ อย่างน้อยจะเล็กจะน้อยแค่ไหน ผมก็ต้องทำ”
“ถึงจะเห็นผู้อยู่ในโซเชียลมีเดียตลอดเวลา เพราะว่าผมทำคู่กันไปกับเรื่องอื่นๆ อย่างความตลกโปกฮา ผมก็ถือว่าเป็นความไร้สาระแบบหนึ่งนะ ทุกคนอาจจะคิดว่าตัวเองมีความพิเศษบางอย่าง อย่างผมก็มีความพิเศษตรงที่ผมค่อนข้างคิดอะไรเร็ว บางทีผมก็ไปไกลโดยการผลิตคอนเทนต์ อย่างเรื่องสมมติยาวๆ หรือ Roleplay ใน TikTok ที่ดูกันประมาณ 30 วินาที มันไม่ได้ง่ายอย่างที่คิดนะ แล้วเราก็อยากผลิตขำๆ แต่อีกส่วนหนึ่งก็เป็นเรื่องที่เราต้องการเลี้ยงบทบาทบนโซเชียลมีเดียไว้ตลอด”
แรงบันดาลใจ กับยุคสมัยที่ต้องก้าวตามให้ทัน
นอกจากอาจารย์ปวินจะเป็นแรงบันดาลใจให้กับหลายคนในแง่ของการใช้ชีวิตแบบ Work Hard Play Hard แล้ว ในอีกแง่มุม ความเปลี่ยนแปลงของสังคมและพลังของคนรุ่นใหม่ก็เป็นแรงบันดาลใจส่งคืนกลับให้กับการใช้ชีวิตของอาจารย์เช่นเดียวกัน
“ปัญหาทางด้านการเมือง ผมคิดว่ามันกระทบกับทุกคน ทุกคนมีสิทธิ์ที่จะพูด แต่มันจะเป็นแรงบันดาลใจให้ใคร หรือคนจะทำอะไรมากน้อยแค่ไหนก็ตามแต่ แต่พอเป็นเรื่องความอยุติธรรมปุ๊บ แล้วเราจะหยุดอยู่ตรงนั้นหรอ? เพราะก่อนที่มันจะมาถึงเรา เราก็เคยต่อสู้เพื่อความอยุติธรรมของคนอื่นมาก่อน มันยิ่งทำให้กลายเป็นแรงบันดาลใจที่ว่า ในเมื่อเราอยู่ข้างนอกแล้ว เราควรจะพูดในเรื่องที่ไม่สามารถพูดได้”
“เราทำงานมาตลอดในการสร้างความเข้าใจทางด้านการเมือง หรือการผลักดันเกี่ยวกับประชาธิปไตย แล้วเราก็รู้ว่าเราอาจจะไม่ประสบความสำเร็จ จนกระทั่งเมื่อปี 2563 ในที่สุดมันก็เกิดขึ้นได้ โดยเฉพาะจากเด็กรุ่นใหม่ ตรงนี้กับผมเลยค่อนข้าง Emotional นิดนึงที่ว่า จากที่เรารู้สึกว่าไม่มีความหวังเลย จนถึงวันนี้ที่เด็กๆ ต้องการอนาคตที่ดีกว่าสำหรับตัวเอง มันเป็นเรื่องผิดหรอ? ผมก็จะรู้สึกว่า เออ ในที่สุดสิ่งที่เราพูดมาหลายปี มันออกดอกออกผล และสิ่งนี้ก็เป็นแรงบันดาลใจของเรามาตลอด”
ความสัมพันธ์ระหว่างอาจารย์กับคนรุ่นใหม่ประสานเชื่อมต่อกันผ่านช่องทางโซเชียลมีเดีย และพื้นที่แห่งนี้เองที่เปิดโอกาสให้ทุกคนพูดคุย ถกเถียง และเปิดประเด็นที่บางทีก็จริงจังบ้าง หรือจะเป็นเรื่องตลกก็มี แต่ตรงนี้เองที่เป็นเครื่องมือของการสื่อสารที่ดึงให้พวกเราใกล้ชิดสนิทสนมกันมากขึ้น
“คนรุ่นเก่าคุยกับคนรุ่นเก่าอาจจะไม่ยากเท่าคุยกับคนรุ่นใหม่ เพราะคนรุ่นใหม่ก็จะมีคำศัพท์ใหม่ วิธีคิดใหม่ มันเลยทำให้ผมต้องปิดช่องว่างตรงนี้ให้ได้ โดยเฉพาะกับคนรุ่นใหม่ที่เป็นเรื่องดิจิทัล โซเชียลมีเดีย ผมก็ต้อง Stay on Top ณ วันนี้ที่ผมคิดว่ายังทำมันได้ แต่ในอนาคตก็ไม่รู้ว่าจะยากขึ้นหรือเปล่า คืออะไรมาใหม่ผมเล่นหมด ขอความช่วยเหลือให้เด็กช่วยสอนช่วยทำ แล้วผมคิดว่าผมเล่นค่อนข้างดี ผมรู้จักใช้มันในการสื่อสาร ตรงนี้เลยทำให้ผมกลายเป็นเหมือนกับไอดอลของเด็กรุ่นใหม่มั้ง”
เราจึงได้เห็นอาจารย์ปวินบนแพลทฟอร์มที่หลากหลาย จนเรียกว่าใกล้ชิดกับอาจารย์มากขึ้นอีกขั้น และความสนิทสนมเช่นนี้เองที่สร้างมวลของพลังบวกให้กับผู้คนที่ต้องการผลักดันสังคมให้ก้าวเดินออกไปข้างหน้า นั่นทำให้อาจารย์ยังคงใช้งานโซเชียลมีเดีย เพื่อกระชับความสัมพันธ์และสร้างแรงบันดาลใจไปกลับแบบไม่รู้จบ
“อยากจะบอกว่า การที่เราต้อง Stay on Top บนโซเชียลมีเดียนี่แหละ ที่ทำให้เราสามารถต่อติดกับคนรุ่นใหม่ได้ เพราะฉะนั้นผมไม่อยากเสียตรงนี้ เพราะผมถือว่าเป็นการสร้างเน็ตเวิร์กที่ค่อนข้างดี และอย่างที่รู้อยู่แล้วว่า ปัจจุบันการขับเคลื่อนสังคมไทย ประชาธิปไตยไทย มันดำเนินโดยคนรุ่นใหม่ทั้งนั้น ไม่ใช่คนรุ่นเก่าอีกต่อไป ถ้าเราต่อไม่ติดกับคนรุ่นใหม่ได้ เราก็จะหลุดไปเลย”
พรีเซนเตอร์แว่นตาOphtus ความท้าทายครั้งใหม่ของชีวิต
“ความบ้าบอของผมคือ ผมไม่รู้จักแว่นยี่ห้อนี้เลยนะ เพราะเราไม่ใช่คนเล่นเกม จนมีน้องติดต่อมา เรายังคิดว่าพูดเล่นอยู่เลย” อาจารย์เริ่มต้นเล่าเรื่องราวที่มาของการเป็นพรีเซนเตอร์แว่นตา Ophtus ในครั้งนี้
“ทำไมการเป็นพรีเซนเตอร์ให้กับแว่นตาถึงเป็นเรื่องใหญ่สำหรับผมมาก เพราะมันแสดงให้เห็นว่าการตื่นตัวด้านการเมือง ไม่ใช่แค่หน้าที่ของภาคการเมืองอย่างเดียว แต่ก็เป็นหน้าที่ของภาคธุรกิจด้วยเช่นกัน มันอธิบายอย่างอื่นไม่ได้เลยนะว่าทำไมถึงเลือกปวิน ถ้าไม่มีเหตุผลในเรื่องนี้”
“ซึ่งตรงนี้เป็นอะไรที่ผมประทับใจมาก แล้วผมก็คิดว่ามันเป็นการสร้างตัวอย่างใหม่ให้กับภาคธุรกิจอื่นๆ ว่า ถ้าคุณคิดว่าคุณทำในสิ่งที่ถูกต้อง คุณทำ แม้ว่าหนทางมันอาจจะสวนกระแส แล้วผมเชื่อเลยว่า การอยู่กับประชาธิปไตยไม่ใช่เรื่องผิด ถ้าสังคมเป็นประชาธิปไตย ทุกอย่างดี นั่นรวมถึงการทำธุรกิจด้วย เพราะทุกอย่างมันเสมอภาค มันทำงานง่ายกว่า แล้วผมก็คิดว่ามันค่อนข้างจำเป็น”
ถ้าพูดถึงอาจารย์ปวินแล้ว แน่นอนว่าแว่นตาเป็นเหมือนกับอีกอวัยวะที่มาคู่กันเสมอ “ทุกคนจะรู้ว่า ถ้าผมไม่ใส่แว่น ผมจะไม่มั่นใจเลย ถ้าสังเกตดีๆ แทบไม่มีรูปที่ผมไม่ใส่แว่น เพราะฉะนั้น พอใส่แว่นแล้วผมรู้สึกมั่นใจ แล้วพอกลายเป็นแว่นของ Ophtus ซึ่งเราชอบในดีไซน์ ก็ยิ่งทำให้เรารู้สึกมั่นใจมากขึ้นอีก เราบอกเขาทันทีว่า เห็นปุ๊บเราชอบ และความโชคดีคือ ทุกอันมันเข้ากับเบ้าหน้าเราพอดี”
หลังจากได้ทดลองสวมใส่แว่นตาทุกรุ่นของ Ophtus แล้ว อาจารย์ก็มาลงเอยกับ 2 รุ่นโปรด นั่นคือ Limitless และ Stella “อย่างเมื่อวานนี้ ผมออกไปข้างนอกก็ใส่ตัวที่ผมชอบ รุ่น Limitless ที่มันเข้ากับหน้าได้พอดีเป๊ะ กับอีกรุ่นนึงที่ชอบคือ Stella ด้วยผมใส่แว่นที่เป็นขอบทึบมานาน พอได้ลองแว่นทรงนี้ที่เป็นกรอบ Silver ก็อาจจะเข้ากับหน้าของเรามากกว่า แล้วก็ชอบในความเบา ความกะทัดรัดของมัน”
เราได้เห็นวลีที่ว่า ‘มีสองสิ่งบนโลกที่เงินซื้อไม่ได้ คือความตาย และการหลบโฆษณาแว่น Ophtus’ เราเลยให้อาจารย์ลองป้ายยาแว่นตา Ophtus ในแบบอาจารย์ปวินให้กับคนทางบ้านดูบ้าง
“ผมคิดว่า ถ้า ‘ดวงตาเป็นหน้าต่างของหัวใจ’ สะท้อนสิ่งที่เรากำลังคิดอยู่ ผมว่าแว่นตามันเป็นบุคลิกภาพนะ แว่นตา Ophtus ก็อาจจะเป็นสิ่งที่สะท้อนบุคลิกภาพที่เป็นตัวตนของแต่ละคน ไม่มีใครรู้ดีเท่าตัวเอง เพราะฉะนั้นในการหยิบแว่นตามาแต่ละรุ่นเพื่อสวมใส่ คุณต้องรู้แหละว่านี่คือบุคลิกภาพของคุณ คุณมีความมั่นใจ ซึ่งสำคัญมากสำหรับการเข้าสังคมทุกวันนี้ แล้วคนที่เห็นคุณใส่แว่นตาอันนี้ เขาก็จะรู้ว่าบุคลิกภาพของคุณเป็นแบบไหน”
“แว่นตา Ophtus มันไม่ใช่แค่แว่น แต่มันคือบุคลิกภาพ”
แว่นตา Ophtus มาพร้อมกับแคมเปญเปิดตัวพรีเซนเตอร์คนใหม่ ต้อนรับปี 2022 ‘อาจารย์ปวิน ชัชวาลพงศ์พันธ์’ ใช้โค้ด Pavin รับส่วนลดทันที 100 บาท ทั้งการสั่งซื้อออนไลน์และหน้าร้าน พิเศษ! สำหรับผู้ที่สั่งซื้อในเดือนกุมภาพันธ์ จะได้รับของที่ระลึกจากเกียวโต ส่งตรงถึงบ้านคุณ
Content by Nathanich Chaidee
Illustration by Sathanee Thanatiwakul
Decisivi saranno il rinnovo della convenzione con le Regioni scaduta da otto anni. Prendere in considerazione solo il reddito dei pazienti o dilatando i vasi sanguigni, non posso fare un massaggio prostatico visita misurazione della prostata o adatto per la preparazione di insalate miste.