หัวใจสำคัญที่องค์กรธุรกิจขนาดใหญ่ทั่วโลก กำลังให้ความสำคัญอย่างมากในเวลานี้ คือแนวคิดในการดำเนินธุรกิจอย่างยั่งยืน หรือ ESG
ซึ่งประกอบไปด้วย E หรือ Environment สิ่งแวดล้อม, S หรือ Social สังคม และ G หรือ Governance & Economic ธรรมาภิบาลและเศรษฐกิจ ซึ่งไม่เพียงแต่ทำให้ภาพลักษณ์ขององค์กรน่าเชื่อถือเท่านั้น แต่ยังส่งผลกระทบเชิงบวกต่อโลกของเราอย่างมากทีเดียว
GC ดำเนินธุรกิจด้วยความมุ่งหวังให้คุณภาพชีวิตคนดีขึ้นด้วยนวัตกรรมพลาสติกและในฐานะของผู้นำเคมีภัณฑ์ พร้อมด้านเคมีภัณฑ์ ได้ดำเนินธุรกิจที่นำแนวคิดบูรณาการความยั่งยืนตามแนวทาง ESG ครบทั้ง 3 ด้านมาปรับใช้ในทุกกระบวนการดำเนินงานมาโดยตลอด แต่สิ่งที่ยืนยันได้ถึงความตั้งใจจริงนี้ คือการได้รับการประเมินเป็นติดอันดับ 1 ของโลก จากดัชนีความยั่งยืนดาวโจนส์หรือ DJSI ในกลุ่มธุรกิจเคมีภัณฑ์ ต่อเนื่องถึง 4 ปีซ้อน
โดยเบื้องหลังความสำเร็จนี้ เป็นภารกิจที่ GC ทำเพียงองค์กรเดียวไม่ได้ แต่เริ่มต้นจากความร่วมมือ การลงมือทำอย่างจริงจังและต่อเนื่อง ประกอบกับความเชื่อมั่นจากพันธมิตร คู่ค้า ลูกค้า ผู้ถือหุ้น และผู้มีส่วนเกี่ยวข้องทุกฝ่าย
ดัชนีความยั่งยืนดาวโจนส์ (Dow Jones Sustainability Indices: DJSI) จัดทำขึ้นโดย S&P Global ถือเป็นดัชนีที่ใช้ประเมินประสิทธิผลการดำเนินธุรกิจตามแนวทางการพัฒนาอย่างยั่งยืนของบริษัทจดทะเบียนชั้นนำระดับโลก เพื่อให้มั่นใจว่าบริษัทมีการบริหารจัดการที่มีประสิทธิภาพมากเพียงพอ ปัจจัยสำคัญในการประเมินจะสอดคล้องตาม เป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน หรือ SDGs (Sustainable Development Goals) ที่กำหนดโดย สหประชาชาติ โดยองค์กรนั้น จะต้องไม่ให้ความสำคัญกับผลกำไรเพียงอย่างเดียว แต่สามารถสร้างคุณค่าระยะยาวให้กับนักลงทุน สังคม และผู้มีส่วนได้เสียอย่างยั่งยืน
ไปสำรวจการดำเนินงานที่ GC ตั้งใจทำ จนได้รับการประเมินอันดับ 1 ของโลก ในกลุ่มธุรกิจเคมีภัณฑ์ ต่อเนื่อง 4 ปีซ้อน ในด้านความยั่งยืนจาก DJSI ร่วมกัน
แก้ไขปัญหาสิ่งแวดล้อมรอบด้าน
ชัดเจนอยู่แล้วว่า ผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมจากการดำเนินธุรกิจขนาดใหญ่นั้นรุนแรงขนาดไหน การแก้ปัญหาจึงไม่ใช่การแก้ที่ปลายเหตุ แต่จำเป็นต้องวางแผนแก้ไขอย่างครอบคลุมในทุกกระบวนการ ในด้าน E – Environment (สิ่งแวดล้อม) GC ได้นำหลักเศรษฐกิจหมุนเวียน (Circular Economy) มาปรับใช้ในการบริหารทรัพยากรอย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งมุ่งเน้นการใช้ทรัพยากรให้เกิดประโยชน์สูงสุดตลอดห่วงโซ่คุณค่า เน้นการปล่อยก๊าซเรือนกระจกให้เป็นศูนย์ ตามเป้าหมาย Net Zero ที่ GC มุ่งมั่นให้สำเร็จภายในปี 2050 เพื่อส่งมอบผลิตภัณฑ์และทางเลือกที่มีคุณภาพ ปลอดภัย และเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม
● ดำเนินการโครงการอนุรักษ์พลังงาน ช่วยลดการใช้พลังงาน เทียบเท่าการลดคาร์บอนไดออกไซด์ 80,280 ตัน ตั้งแต่ปี 2564 – 2565
● ดำเนินโครงการ Solar Rooftop และ Solar Floating สามารถผลิตไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์กว่า 480 กิโลวัตต์-ชั่วโมงต่อวัน ลดปริมาณการใช้น้ำจืดจากแหล่งน้ำธรรมชาติมาใช้ในกระบวนการผลิต 2.97 ล้านลูกบาศก์เมตร (ร้อยละ 5 ของการใช้น้ำทั้งหมด)
● ต่อยอดขยายผล ‘YOUเทิร์น’ แพลตฟอร์ม ร่วมกับภาคีพันธมิตรนำขยะพลาสติกกลับเข้าสู่กระบวนการรีไซเคิลและอัพไซคลิง จำนวนกว่า 310 ตัน
● สร้างโรงงาน ENVICCO ผลิตเม็ดพลาสติกรีไซเคิลคุณภาพสูง ระดับ Food Grade มาตรฐานระดับโลก ช่วยลดพลาสติกใช้แล้วในประเทศได้ถึง 60,000 ตัน/ปี โดยเริ่มต้นผลิต เมื่อเดือนกันยายนที่ผ่านมา
● ลงทุนในบริษัท allnex ผู้นำระดับโลกด้านการผลิตสารเคลือบและสารเติมแต่งที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม
● ปลูกและฟื้นฟูพื้นที่ป่า สำหรับการชดเชยคาร์บอน
ช่วยเหลืองสังคมในทุกวิกฤต
เมื่อองค์กรใหญ่ มองถอยออกมายังสังคมรอบข้าง จะเห็นถึงปัญหาต่างๆ ที่เกิดขึ้นมากมาย ตั้งแต่วิกฤตโรคระบาด ภัยธรรมชาติ ไปจนถึงคุณภาพชีวิตของผู้คน ในด้าน S – Social (สังคม) GC ในฐานะองค์กรใหญ่จึงได้ร่วมเคียงข้างและช่วยเหลือสังคมไทยในทุกช่วงวิกฤต ด้วยการนำผลิตภัณฑ์และนวัตกรรมพลาสติกคุณภาพ เข้าไปช่วยเหลือในรูปแบบต่างๆ อย่างทั่วถึง เพื่อให้สังคมไทยผ่านพ้นวิกฤตไปด้วยกัน
● วิกฤตโควิด 19 – ร่วมกับเครือข่ายทั้งภาครัฐ เอกชน ชุมชน โดยใช้ความเชี่ยวชาญด้านเคมีภัณฑ์และพลาสติก เทคโนโลยี และนวัตกรรมของบริษัทฯ ต่อยอดการช่วยเหลือสังคมในภาวะวิกฤตได้อย่างทันท่วงทีและทั่วถึงทั้ง 77 จังหวัดทั่วประเทศ โดยดำเนินการอย่างต่อเนื่องทุกครั้งที่มีการระบาด
● วิกฤตน้ำท่วม – สนับสนุนเรือพายพลาสติก ให้กับจังหวัดที่ประสบอุทกภัย จำนวน 23 จังหวัด ในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง ภาคตะวันออก และภาคใต้ เพื่อนำไปช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับผลกระทบอย่างทันท่วงที
● วิกฤตภัยแล้ง – ส่งมอบถังน้ำสะอาด InnoPlus ผ่านความร่วมมือกับหน่วยงานภาครัฐ มูลนิธิ องค์กรสาธารณกุศลต่างๆ รวมถึงร่วมทำกิจกรรมกับชุมชนและลูกค้าของบริษัท ให้แก่พื้นที่ประสบภัยแล้งในจังหวัดต่างๆ ทั่วประเทศ
● วิกฤตฝุ่น PM 2.5 – ร่วมกับมูลนิธิราชประชานุเคราะห์ ในพระบรมราชูปถัมภ์ สนับสนุนเครื่องบำบัดอากาศที่มีมลพิษและฝุ่นขนาดเล็ก PM 2.5 จำนวน 4 รุ่น เพื่อนำไปช่วยเหลือประชาชนในพื้นที่วิกฤตต่างๆ
นอกจากนี้ ยังได้ดำเนินการในส่วนของวิสาหกิจชุมชน (Social Enterprise) ด้วยการสนับสนุนในการสร้างงาน สร้างอาชีพ และรายได้ให้พี่น้องในทั้งท้องถิ่นระยอง และพื้นที่อื่นๆ สามารถยืนหยัดได้ด้วยตนเองอย่างถาวร
ดำเนินธุรกิจอย่างโปร่งใส
แม้ว่าการดำเนินธุรกิจจะมีเป้าหมายสำคัญคือการสร้างผลกำไร แต่การดำเนินงานก็ต้องบูรณาการความยั่งยืนเข้าไปด้วย เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้กับนักลงทุน ในด้าน G – Governance & Economic (บรรษัทภิบาลและเศรษฐกิจ) GC ได้ดำเนินการกำกับและดูแลกิจการอย่างโปร่งใส ยืนยันได้จากการได้รับรางวัล SET Sustainability Awards of Honor ต่อเนื่อง 5 ปีซ้อนจากตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ซึ่งสะท้อนภาพการดำเนินธุรกิจที่บูรณาการความยั่งยืนตามกรอบ ESG
รวมถึงได้รับรางวัล NACC Integrity Awards รางวัลองค์กรโปร่งใส จากสำนักงาน ป.ป.ช. สะท้อนถึงความมีคุณธรรม จริยธรรม และความซื่อสัตย์สุจริตของการดำเนินธุรกิจ ผ่านกระบวนการบริหารจัดการความเสี่ยงที่ได้มาตรฐานทั้งในเชิงคุณภาพและปริมาณ ช่วยลดความเสี่ยงในการลงทุน จึงทำให้ GC เป็นองค์กรที่นักลงทุนเชื่อมั่นอย่างมาก
ทั้งหมดนี้คือเบื้องหลังความสำเร็จของ GC ที่ไม่สามารถดำเนินการทุกอย่างเพียงองค์กรเดียว แต่เริ่มต้นจากความร่วมมือ การลงมือทำอย่างจริงจังและต่อเนื่อง ประกอบกับความเชื่อมั่นจากพันธมิตร คู่ค้า ลูกค้า ผู้ถือหุ้น และผู้มีส่วนเกี่ยวข้องทุกฝ่าย ที่ช่วยให้ GC สามารถส่งต่อสิ่งดีๆ ให้กับโลกต่อไปได้อย่างยั่งยืน