ถึงไม่ต้องยืมนาฬิกาเพื่อนมาใส่ แต่ใครต่อใครก็คงรู้กันดีว่าเวลาในแต่ละวันของคนเรานั้นมีจำกัดอยู่น้อยนิดแค่ไหน
และทั้งๆ ที่เวลาเป็นทรัพยากรที่ออกจะมีค่าขนาดนั้น แต่ก็น่าแปลกใจที่ใครหลายคนยังยินยอมจะผลาญมันไปกับเรื่องที่ชวนให้หงุดหงิดหัวใจอยู่เสมอๆ ไม่ว่าจะเป็นการต่อคิวยาวเหยียดเพื่อทำธุรกรรมอะไรสักอย่าง การถือสายรอคอลเซนเตอร์ที่ฟังเพลงรอจนร้องได้ก็ยังไม่ได้คุย หรือกระทั่งการปล่อยเวลาไหลไปเรื่อยเปื่อยเพื่อรอให้ใครบางคนตอบข้อความ …ที่ดูเหมือนก็ไม่ได้อยากตอบสักเท่าไหร่ (ตบไหล่เบาๆ)
แต่ที่ร้ายไปกว่านั้น เห็นจะเป็นวัฒนธรรมการ ‘เผื่อเวลา’ ที่กลายเป็นเรื่องปกติไปเสียแล้วสำหรับสังคมไทย ไม่ว่าเราจะไปไหน ไปทำอะไร ก็ดูเหมือนว่าเราต้องคอยเผื่อเวลาสำหรับความไม่แน่นอนที่อาจเกิดขึ้นได้อยู่เสมอๆ ไปดูกันดีกว่าว่าทุกวันนี้เราต่างเผื่อเวลาให้กับอะไรไปบ้าง ตลอดจนเราล้วนเสียโอกาสจากการเสียเวลาเหล่านั้นไปมากแค่ไหน รวมถึงเราควรทำอย่างไรกับวงจรชวนละเหี่ยใจเหล่านี้
เผื่อเวลาไปนั่งแกร่วรอที่สนามบิน
เข้าใจว่าการเดินทางด้วยเจ้านกเหล็กเครื่องใหญ่นั้นเป็นอะไรที่น่าหวั่นใจอยู่นิดหน่อย เพราะหากเราไปถึงช้าเกินไป ก็เป็นไปไม่ได้ที่เจ้าหน้าที่จะชะลอเครื่องบินรอรับกลางทางเหมือนรถกะป๊อ หรือสามล้อหวานเย็นแถวบ้าน ถึงกระนั้นหากเราไม่ได้กำลังจะเดินทางจากบ้านไปนานๆ จนมีเพื่อนโขยงใหญ่ยกกันมาส่งเหมือนแฟนมีตติ้ง การจะไปถึงล่วงหน้าขนาดสี่ซ้าห้าชั่วโมงแบบที่หลายคนชอบเผื่อกันก็ออกจะเป็นการเสียเวลามากเกินกว่าเหตุไปสักหน่อย ข้อแรกแทนที่คุณจะได้ใช้เวลาล่ำลาน้องหมาแสนรัก หรืออยู่กับคนที่รักให้มากขึ้นอีกสักหน่อย กลายเป็นว่าคุณต้องไปนั่งเหงาๆ รอเวลา Boarding Time ตัวคนเดียวที่สนามบิน ปะเหมาะเคราะห์ร้ายเจอเครื่องดีเลย์เข้าไปอีก รับรองว่าคราวนี้มีเซ็ง
ข้อสองหลายคนมักกลัวว่ากว่าจะเข้าแถวเช็คอิน กว่าจะตรวจร่างกาย เดี๋ยวจะไม่ทันขึ้นเครื่อง ซึ่งในความเป็นจริงแล้วทุกวันนี้เรามีตัวช่วยมากมายที่ทำให้การเดินทางด้วยเครื่องบินง่ายดาย และลดขั้นตอนยุ่งยากได้มากกว่าเมื่อก่อน ไม่ว่าจะเป็นการเช็คอินออนไลน์ บูธปริ้นท์ Boarding Pass ที่สนามบิน หรือช่องตรวจคนเข้าเมืองขาออกแบบอัตโนมัติ ซึ่งนอกจากจะช่วยให้คุณไม่ต้องไปยืนคอยเข้าคิวจนขาแข็งแล้ว ยังช่วยให้คุณไม่ต้องเผื่อเวลาไปโดยเปล่าประโยชน์อีกด้วย
เผื่อเวลาไปกดบัตรคิว แล้วหิ้วท้องคอย
เคยไหม คิดจะไปร้านอาหาร ยิ่งร้านบุฟเฟ่ต์ หรือคาเฟ่เกร๋ๆ เจ้าดังแห่งยุค กลับต้องถอดใจแทบทุกที เมื่อมาถึงแล้วเจอกับหางแถวยาวยิ่งกว่าหางว่าว กว่าจะแซะร่างฝ่ารถติดมาถึงน้ำย่อยก็เริ่มทำงานนำหน้าไปแล้ว นี่ยังต้องมากดบัตรคิว หิ้วท้องคอยอีก มันอัลไลกันนักกันหนา! ทำให้หลายคนต้องเผื่อเวลาออกจากบ้านมาแต่เนิ่นๆ เรียกว่าจะกินมื้อเที่ยงต้องออกจากบ้านเช้า จะกินมื้อเช้าแทบจะต้องมาตั้งแคมป์รอห้างฯ เปิด แทนที่จะได้เอาเวลาไปนอนต่ออีกหน่อย หรืออ่อยหนุ่มในทินเดอร์เพิ่มอีกสักคน กลับต้องมาเสียเวลานั่งคอยกันเป็นชั่วโมง
ทั้งๆ ที่หากเราลองหาข้อมูลดูดีๆ จะพบว่าร้านอาหารหลายเจ้าทุกวันนี้ต่างหันมาเข้าร่วมกับแอพลิเคชั่นผู้ให้บริการจองคิวออนไลน์กันไม่น้อย ทำให้ลูกค้าสามารถจองคิวล่วงหน้าได้แม้ยังไปไม่ถึงร้าน ทั้งยังมีบริการช่วยเตือนเมื่อใกล้ถึงคิว ทำให้ลูกค้าสามารถไปเดินช้อปปิ้ง เล่นโบว์ลิ่ง ร้องคาราโอเกะฆ่าเวลา แบบไม่ต้องมาแกร่วรอหน้าร้านอีกต่อไป
หมายเหตุ – ทุกวันนี้นอกจากร้านอาหาร ผู้ให้บริการอื่นๆ หลายเจ้าก็หันมาให้บริการจองคิวออนไลน์กันไม่น้อยเลยทีเดียว ไม่ว่าจะเป็น ค่ายมือถือ ธนาคาร หรือหน่วยงานทำหนังสือเดินทาง เป็นต้น
เผื่อเวลารอคนช้าแห่งปี
เชื่อว่าในแต่ละแก๊งเพื่อนที่คบกันมานานย่อมต้องมีคนหนึ่งในนั้นเป็นจอมสายเสมอ คนที่มักจะบอกว่าใกล้ถึงแล้วแต่จริงๆ ยังเมาขี้ตาอยู่บนเตียง หรือคนนัดบ่ายสาม แต่มาเย็นย่ำพระอาทิตย์ตกอยู่เสมอ คนที่ทำให้คุณต้องเผื่อเวลาทำกิจกรรมต่างๆ ร่วมกันออกไปโดยไม่ได้ตั้งใจ จนไม่ได้กลับไปฟิตเนส เตรียมข้าวเช้า ดูละครหลังข่าว หรือตัดเล็บแมวอย่างที่ตั้งใจไว้
แน่นอนด้วยความเป็นเพื่อนการจะแก้ปัญหานี้โดยบัวไม่ช้ำน้ำไม่ขุ่นก็ดูจะยากอยู่สักหน่อย จะเลิกคบไปก็ลำบากใจเพราะยิ่งไม่ค่อยมีใครคบอยู่ (เดี๋ยว!) จะแกล้งบอกเวลาเร็วกว่าความเป็นจริง มุกนี้ก็คงหยิบมาใช้ไม่ได้ไปเสียทุกครั้ง ทางที่ดีที่สุดในการจัดการกับกรณีนี้อาจจะเป็นการนั่งลงเปิดใจพูดคุย หรือลงขันซื้อนาฬิกาปลุกให้เป็นของขวัญวันเกิดเจ้าเพื่อนตัวดีคนนี้ไปให้รู้แล้วรู้รอดเสียเลย!
เผื่อเวลาโดนรถโดยสารเท
สุดท้ายถ้าพูดการเผื่อเวลา สาเหตุที่สำรวจร้อยคนตอบร้อยสิบก็เห็นจะหนีไม่พ้นเรื่องของท้องถนนอันแสนน่ารักในประเทศไทย ขนส่งมวลชนมาไม่ตรงเวลา หรือการเรียกหารถโดยสารที่ต้องเสี่ยงเอากับข้ออ้างร้อยแปด แก๊สหมด ส่งรถ เมียจะคลอด ตามแต่พี่เขาจะยกมาอ้างให้เรามองบนกันไป โดยเฉพาะกับชั่วโมงเร่งด่วน หรือในวันที่มีธุระสำคัญ ซึ่งเราจะเอาความไม่แน่ไม่นอนของพี่คนขับมาเสี่ยงกับงานแสนสำคัญเหล่านั้นไม่ได้ ก็ทำให้เราจำต้องเผื่อเวลานานนับชั่วโมง ออกไปดักรออย่างมีความหวัง (ริบหรี่) ในจุดที่รถวิ่งผ่าน แทนที่เราจะได้มีเวลาแก้งานอีกนิด หรือเติมปาก เติมคิ้ว สำรวจชุดพรีเซนต์งานให้ดูยิ่งใหญ่รัชดาลัยเธียเตอร์ ก็กลับต้องมาทิ้งเวลาอันแสนมีจำกัดไปเปล่าๆ ปลี้ๆ
คำถามก็คือ แล้วเราจะยอมเสียปัจจัยแอนแสนมีค่าเพื่อคำว่า ‘เผื่อเวลา’ คำเดียวทำไม ในเมื่อทุกวันนี้โลกได้หมุนเอาเทคโนโลยีที่ช่วยแก้ปัญหาได้ง่ายกว่ามาไว้ในมือเราแล้ว อย่างแอพลิเคชั่น ‘JustGrab’ บริการเรียกรถแท็กซี่ และรถยนต์ส่วนบุคคลที่สามารถกำหนดได้ทั้งจุดรับ-ส่ง และเวลา ในราคาที่แทบไม่ต่างจากรถโดยสารทั่วไปเท่าไหร่ แถมยังปลอดภัยกว่าเพราะมีระบบแทร็คตามเส้นทาง ทั้งยังไม่ต้องมานั่งฟังคำปฏิเสธผู้โดยสารให้เสียงพลังกวักมือเรียกอีกต่างหาก
เพราะโลกทุกวันนี้กำลังดำเนินไปอย่างรวดเร็วชนิดที่ว่าพลาดนิดเดียวก็อาจส่งผลกระทบใหญ่หลวงได้ เราจึงจำเป็นต้องวางแผนจัดการเวลาอย่างชาญฉลาด และไม่ปล่อยให้มันเสียไปอย่างเสียเปล่า การใช้เวลาอย่างมีคุณภาพอย่างแท้จริงจึงไม่ใช่การใช้ให้มากนอนให้น้อย แต่เป็นการใช้เวลาที่มีอย่างจำกัดให้คุ้มค่าที่สุดต่างหาก เพราะเวลากำลังนับถอยหลังลงไปทุกที ถ้ายังมีอีกหลายอย่างที่เรายังอยากที่จะทำอยู่ ก็จงใช้ชีวิตที่เร่งรีบแบบมีประสิทธิภาพมากที่สุด