ในบรรดาสิ่งที่เป็น ‘ที่สุด’ ความสะดวกสบายคงเป็นตัวเลือกอันดับต้นๆ ที่ใครหลายๆ คนต้องการ แล้วแน่นอนว่าพอนึกถึงคำว่าสบายที่สุด จะนึกสิ่งใดไปได้ถ้าไม่ใช่ ‘เครื่องใช้ไฟฟ้า’
เดี๋ยวนี้เทคโนโลยีในเครื่องใช้ไฟฟ้าก็พัฒนาไปไกล จากที่คิดว่าล้ำแล้ว ก็ยังมีบริษัทที่ประดิษฐ์และผลิตของล้ำๆ ออกมาให้เราทึ่งได้อยู่เสมอ วันนี้เราเลยอยากพาทุกคนไปรู้จักกับ GREE แบรนด์ผู้นำด้านนวัตกรรมและผู้ผลิตเครื่องไฟฟ้า ซึ่งทำให้เราตื่นตาด้วยการเป็น ‘ที่สุด’ ในหลายๆ ด้าน
ตั้งแต่ผลประกอบการที่ยิ่งใหญ่ระดับโลก การเป็นเจ้าของสิทธิบัตรกว่า 79,000 สิทธิบัตร มีสินค้าครอบคลุมหลากหลายประเภท ไปจนถึงการสร้างสมาร์ตโชว์รูมเจ๋งๆ เพื่อบุกตลาดเมืองไทย ถ้าพร้อมแล้วก็ไปทำความรู้จักพวกเขากันเลย
ที่สุดแห่งการเติบโต
สำหรับใครที่ชอบมองหาแบรนด์เครื่องใช้ไฟฟ้าจากประเทศเพื่อนบ้าน เป็นไปได้ว่าคุณอาจจะเคยได้ยินชื่อ GREE ในฐานะแบรนด์เครื่องปรับอากาศจากประเทศจีน แต่จริงๆ แล้ว GREE ถือเป็นแบรนด์ผู้นำนวัตกรรมที่ผลิตเครื่องใช้ไฟฟ้าหลากประเภท และที่สำคัญคือยังถือเป็นบริษัทที่มีผลประกอบการอยู่ในกลุ่มแบรนด์ระดับโลกอีกด้วยนะ
ความยิ่งใหญ่ของ GREE ก็คือพวกเขาครองส่วนแบ่งตลาดเครื่องปรับอากาศในจีนถึง 36.9% เป็นผู้นำในตลาดติดต่อกันถึง 26 ปี ผลประกอบการรวมในจีนมากกว่า 560,000 ล้านบาท ยังไม่นับเครื่องใช้ไฟฟ้าอื่นๆ ที่ส่งออกนอกประเทศอีก 1 ล้านล้านบาท นั่นจึงทำให้ GREE ได้รับการจัดอันดับจาก Fortune 500 ว่าเป็นบริษัทในจีนที่จ่ายผลตอบแทนให้ผู้ถือหุ้นมากที่สุด และติดท็อป 500 อันดับแรกของบริษัทยักษ์ใหญ่ระดับโลก
ซึ่งก็หมายถึงว่า GREE เติบโตอย่างมั่นคงเทียบเท่าแบรนด์ชั้นนำอย่าง Starbuck, Facebook หรือ Tesla เลยนะ
ที่สุดแห่งนวัตกรรม
แน่นอนว่าการจะเป็นแบรนด์ที่มียอดขายสูงอย่างต่อเนื่อง และได้รับการยอมรับจากนานาชาติ ไม่มีทางเกิดขึ้นเพราะโชคช่วย และอย่าลืมว่าในประเทศจีนและในภูมิภาคนี้ก็มีแบรนด์ที่ทำเครื่องใช้ไฟฟ้าไม่น้อย
แต่สิ่งที่ทำให้ GREE โดดเด่นและมีผลประกอบการสูงอย่างสม่ำเสมอ ก็คือการให้ความสำคัญกับการสร้างนวัตกรรม ซึ่งจะต้องเป็นนวัตกรรมเพื่ออนาคต ตอบสนองเทรนด์ของโลก โดยที่ผ่านมา GREE ได้จดสิทธิบัตรนวัตกรรมที่คิดค้นขึ้นแล้วกว่า 79,000 สิทธิบัตร และเป็นบริษัทเครื่องใช้ไฟฟ้าเพียงรายเดียวที่ติดอันดับ 1 ใน 10 ของบริษัทที่จดสิทธิบัตรสูงสุดในประเทศจีน
และเพื่อให้คุณเห็นภาพว่า GREE จริงจังกับนวัตกรรม หรือใส่ใจกับการคิดอะไรใหม่ๆ อยู่เสมอ เมื่อปี 2020 พวกเขาจดสิทธิบัตรไปมากถึง 15,072 ถ้าคิดคำนวณแล้วก็เท่ากับว่าปีนั้นพวกเขาจดสิทธิบัตร 1-2 ใบทุกๆ 1 ชั่วโมงเลยทีเดียว
ซึ่งเบื้องหลังของสิทธิบัตรจำนวนมากนี้ก็คือทีม R&D ที่มีจำนวนบุคลากรมากถึง 17% ของทั้งบริษัท หรือเกือบ 15,000 คนจากทั้งหมด 80,000 คน
เมื่อรวมกับงบประมาณในการพัฒนานวัตกรรมที่พวกเขาลงทุนปีละ 30,000 ล้านบาท ก็มั่นใจได้เลยว่า GREE จะต้องมีเครื่องใช้ไฟฟ้าที่ทำให้เราทึ่งได้ไม่รู้จบ
ที่สุดแห่งความหลากหลาย
แม้จะมีสิทธิบัตรในมือมากมาย แต่ก็ใช่ว่า GREE จะเป็นแค่นักคิดสติเฟื่อง พวกเขาเอานวัตกรรมที่คิดค้นขึ้นไปผลิตเป็นเครื่องใช้ไฟฟ้ามากมาย ไม่ได้มีแค่เครื่องปรับอากาศที่เป็นเหมือนพระเอกของบริษัทนะ
เริ่มจากเครื่องใช้ไฟฟ้าภายในครัวเรือน GREE ก็มีตั้งแต่เครื่องฟอกอากาศ, พัดลมไอเย็น, ตู้เย็น, เครื่องซักผ้า, หม้อหุงข้าว ซึ่งจุดเด่นของสินค้าที่จะเข้าไทยปีนี้ จะมาพร้อมกับเทคโนโลยี Smart Home เชื่อมต่อเพื่อควบคุมการทำงานผ่านมือถือเครื่องเดียวได้เลย
หรือเขยิบออกจากบ้าน GREE ก็ยังมีสินค้าเทคโนโลยีพลังงานทางเลือก อย่างแผงโซลาร์เซลล์ และระบบปรับอากาศที่ใช้ไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ มียานยนต์ไฟฟ้า หรือล้ำๆ แบบแขนจักรกลเพื่อทดแทนการใช้แรงงานในระบบอุตสาหกรรมก็มี
ดังนั้นเมื่อ GREE ประกาศว่าจะบุกตลาดไทย และครองใจทุกคนให้ได้ มั่นใจได้เลยว่าพวกเขาจะมีผลิตภัณฑ์มากมายตอบโจทย์ทุกคนแน่นอน ที่สำคัญคือพวกเขายังจะมาเปิดศูนย์บริการลูกค้าเต็มรูปแบบ มีอะไหล่สินค้าทุกรุ่น ไม่ต้องส่งข้ามน้ำข้ามทะเลไปซ่อมที่ต่างแดน
ที่สุดแห่งอนาคต
ทั้งหมดที่เล่ามานั้น เป็นที่มาว่าทำไมเราถึงตื่นเต้นที่รู้ข่าวว่า GREE จะบุกตลาดไทย ก็ในเมื่อแบรนด์ที่เป็น ‘ที่สุด’ ในหลายด้านเตรียมขนสินค้าหลากหลายประเภท รวมถึงศูนย์บริการลูกค้า ใครๆ ก็คงต้องตั้งตารอคอยเป็นธรรมดา
ยังไม่นับสมาร์ตโชว์รูมที่พวกเขาจะนำมาเปิดแบบนำร่อง เพื่อโชว์นวัตกรรมเจ๋งๆ สำหรับบ้านในอนาคตให้คนไทยได้ทดลองใช้งาน รวมถึงระบบสมาร์ตโฮมที่ GREE จัดใส่ไว้ในเครื่องใช้ไฟฟ้าภายในบ้าน ทำให้สั่งงานผ่านเสียง ผ่านแอปฯ รวมถึงสั่งเครื่องใช้ไฟฟ้าอื่นๆ ด้วยเสียงผ่านเครื่องปรับอากาศได้ด้วย
เห็นแบบนี้แล้ว คนไทยอย่างพวกเราก็คงพูดได้แต่เพียงว่า ‘ตื่นเต้นที่สุด’ ที่จะได้ใช้บริการและสัมผัสนวัตกรรมดีๆ จาก GREE แบบเต็มรูปแบบในประเทศไทยเร็วๆ นี้
