ทุกวันนี้คงไม่ต้องบอก ว่าในฐานะที่เป็น consumer อย่างเราๆ ช้อปปิ้งในช่องทางไหนมากที่สุด
ยิ่งในวิกฤตไวรัส COVID-19 เช่นนี้แล้ว ช่องทางออนไลน์กลายเป็นช่องทางหลักในการจับจ่ายซื้อของ ทำให้ธุรกิจ E-Commerce ไทยทุกวันนี้มีมูลค่าสูงถึง 7.4 แสนล้านบาท เติบโตเป็นอันดับ 1 ในอาเซียนไปแล้ว
โดยหนึ่งในช่องทางหลักที่ทำให้ E-Commerce เติบโตคือแพลตฟอร์มอย่าง Lazada คือตัวแปรสำคัญที่ทำให้พฤติกรรมการจับจ่ายของผู้บริโภคเปลี่ยนมาสู่ออนไลน์มากขึ้น รวมถึงเจ้าของธุรกิจเองก็สามารถสร้างรายได้แบบก้าวกระโดด และกำลังเติบโตขึ้นเรื่อยๆ ไม่มีหยุด
The MATTER ชวนไปสำรวจและพูดคุยถึงเคสของ 2 ผู้ประกอบการ E-Commerce บนแพลตฟอร์ม Lazada จาก “Lazada Millionaires Club” อย่าง Pumpnom ร้านขายสินค้าแม่และเด็กที่ได้รับความนิยมสูงสุด และ iHAVECPU ร้านขายอุปกรณ์คอมพิวเตอร์ที่สร้างรายได้หลักล้าน ภายในเวลาไม่ถึงปี ถึงกลยุทธ์ทางธุรกิจและแนวคิดในการสร้างฐานลูกค้า ด้วยเครื่องมือและแคมเปญของ Lazada ให้ประสบความสำเร็จ
Pumpnom
สราญภัทร์ จ่ายสรรคโภชน์
กรรมการบริษัท อธีราห์ คอเปอเรชั่น จำกัด
ร้านค้าขายอุปกรณ์สำหรับแม่และเด็กที่เปิดให้บริการทางออนไลน์มากว่า 10 ปี จากประสบการณ์ตรงในการเป็นคุณแม่ลูกสาม จึงมีความเข้าใจในสินค้าทุกชิ้นเป็นอย่างดี ก่อนจะขยายช่องทางการขายมาสู่แพลตฟอร์ม Lazada โดยไม่ทิ้งบริการหลังการขายอันยอดเยี่ยม ทำให้ร้าน Pumpnom เป็นหนึ่งในร้านที่ลูกค้าในตลาดแม่และเด็กให้ความไว้วางใจสูงสุด
ส่วนตัวมองธุรกิจ E-Commerce ทุกวันนี้อย่างไร
ตั้งแต่ต้น คือเราเชื่ออยู่แล้ว เพราะว่าจริงๆ เราขายออนไลน์มาก่อน ประมาณสักเกือบ 10 ปีแล้ว ขายมาตั้งแต่ยุคที่ยังไม่มีเฟซบุ๊กออนไลน์ ยังเป็นเหมือนออเดอร์ทางโทรศัพท์ หรือสั่งผ่านหน้าเว็บไซต์ ก็คือเชื่ออยู่แล้วว่าการขายออนไลน์ยังไงอนาคตจะต้องเติบโตขึ้นแน่นอน
อยากให้เล่าถึงจุดเริ่มต้นของร้าน Pumpnom
สมัยก่อน ลูกค้าจะเดินไปซื้อหน้าร้านเสียส่วนใหญ่ แต่เราดึงจุดแข็งตรงที่ว่าคุณแม่พอเข้าช่วงเริ่มคลอด เขาจะไม่สามารถออกไปไหนได้แล้ว เพราะฉะนั้นจึงต้องเปลี่ยนให้คุณพ่อไปซื้อของให้ แต่จริงๆ แล้วคุณแม่ก็ยังอยากที่จะเลือกซื้อสินค้าอยู่ ก็เลยเกิดไอเดียว่า ถ้าอย่างนั้นเราเปิดเป็นออนไลน์ไหม เพื่อให้อย่างน้อยคุณแม่ยังเลือกสินค้าและสั่งเองได้ เหมือนยังได้ช้อปปิ้งอยู่นะ เราก็มีบริการเปิดถึง 4-5 ทุ่ม มีแมสเซนเจอร์ส่ง เพราะว่าเราเข้าใจว่าสินค้าบางอย่างคุณแม่อาจจะต้องการใช้ด่วน
คือตั้งใจโมเดลขายออนไลน์ตั้งแต่แรกเลยใช่ไหม
คิดว่าถ้าเปิดหน้าร้าน เราก็จะได้กลุ่มลูกค้าแค่ตรงละแวกนั้น แล้วในสมัยก่อนคือถ้าจะโปรโมทร้านก็ต้องลงหนังสือหรือนิตยสารเท่านั้น ไม่มีสื่อออนไลน์ที่แพร่หลาย ยังไม่มีเฟซบุ๊ก ยังไม่มีไลน์ ค่อนข้างยากนิดหนึ่ง เราก็เลยลองขายออนไลน์ดู กลุ่มลูกค้าอาจจะกว้างขึ้น แต่ต้องอาศัยทำ Google AdWords ที่ช่วยเวลา search หาเครื่องปั๊มนม แล้วขึ้นร้านของเรา โมเดลหลักก็คือเหมือนเป็นร้านค้าขายปลีก เราจะรับแต่ของศูนย์ที่นำเข้าถูกต้อง แล้วพอขายได้สักพักเราก็เริ่มมีแบรนด์ของเรา มาเติมในส่วนที่ตลาดยังไม่มีตรงนี้
คิดว่าอะไรคือหัวใจที่ทำให้ Pumpnom มีลูกค้าติดตามเยอะในยุคแรก
เราเน้นบริการหลังการขาย คือเราไม่ทิ้งลูกค้า แล้วเราก็ขายแต่ของแท้ที่เป็นของศูนย์ มีการรับประกัน คือเราเป็นตัวกลางในการติดต่อประสานงานให้ มีการช่วยเหลือลูกค้าตลอด ลูกค้าก็ติดใจบริการของเรา แล้วก็บอกต่อๆ กัน พอสักพักก็มีเฟซบุ๊กมีคนติดตามเพิ่มขึ้นไปด้วย
พอมี Lazada ขึ้นมา มองเห็นโอกาสในแพลตฟอร์มใหม่ตรงนี้ยังไงบ้าง
ตอนแรกที่รู้จัก เราก็ซื้อสินค้าอยู่ในนั้นอยู่แล้ว แต่ยังไม่ได้คิดจะลอง จนมีพนักงาน Lazada ซึ่งเป็นลูกค้าของเรานี่แหละ เขาก็มาชวน เราก็รู้สึกว่าไม่ได้เสียอะไร เพราะเรามีสินค้าที่เราสต๊อกอยู่ พอลองลงก็โอเค ซึ่งก่อนหน้านี้เราขายออนไลน์มาได้สักพัก เราจะรู้ข้อจำกัดว่า หนึ่งคือพวกบัตรเครดิต จะใช้ยากในสมัยนั้น ส่วนใหญ่จะต้องโอนเงินสด ซึ่งยังไงลูกค้าก็ต้องอยากใช้บัตรเครดิต แล้วพอมี Lazada ช่องทางการจ่ายเงินก็ค่อนข้างกว้าง มีชำระเงินปลายทาง มีแบบผ่อนได้ด้วย มีหลายพาร์ตเนอร์ หลายธนาคาร เปิดกว้างให้ลูกค้าได้เลือกมากขึ้น จนถึงตอนนี้ก็เปิดกับ Lazada มาประมาณเกือบ 4 ปีแล้ว
เครื่องมือไหนของ Lazada ที่ช่วยให้การทำธุรกิจง่ายขึ้น
Lazada จะมีเครื่องมือวิเคราะห์ฐานข้อมูลแบบ real time ว่าลูกค้ามีอัตราการเข้าชมเยอะหรือน้อย สินค้าวันนี้มีอะไรออกใหม่บ้าง ลูกค้าเข้าชมจากช่องทางไหนบ้าง เพื่อที่เราจะได้ปรับได้ถูก สมมติเข้ามาทาง flash sale เยอะ เราก็ควรจะลงขายเพิ่มไหม คือค่อนข้างละเอียด เพียงแค่คลิกๆ ทุกอย่างก็สรุปออกมาให้หมดเลย ทำให้เราอัปเดตเทรนด์ลูกค้าได้เร็วขึ้น ซึ่งแต่ก่อนถ้าเป็นเว็บของเราเอง เราต้องทำเองหมด พอมีวิเคราะห์ให้ทุกอย่างแบบนี้ เราก็แค่ปรับกลยุทธ์การขายตามที่เขาวิเคราะห์มาให้แล้ว ซึ่งเร็วและตอบโจทย์ได้มาก
เคยมีการวิเคราะห์ไหม ว่าช่วงไหนที่สินค้าแม่และเด็กขายดีที่สุด
คุณแม่จะมี season คือช่วงตั้งแต่ตุลาคมไปจนถึงประมาณสักพฤษภาคม พอหลังพฤษภาคมจะมีช่วงที่เงียบ ช่วงหน้าฝน มิถุนายนก็จะเงียบนิดหนึ่ง แล้วก็ค่อยกลับมาใหม่ช่วงตุลาคม แต่ว่าสุดท้ายแล้วพอมีแคมเปญของ Lazada ก็ขายดีได้ทุกช่วง ยังไงลูกค้าก็จะต้องซื้อเก็บไว้เพราะมันลดเยอะมาก พีคสุดตอนแคมเปญ 11.11 และ 12.12 ที่ผ่านมา คือพุ่งแบบว่าวันเดียวเท่ากับขายได้ทั้งเดือน ปกติร้านเราก็มีเข้าร่วมแคมเปญลดเองบ้าง จะลดเท่าที่เราไหว ปกติก็ช่วงต้นเดือนเงินเดือนออก สมมติถ้าเราจะลงโฆษณา ก็จะเลือกช่วงประมาณนี้ บวกกับคูปองของ Lazada เพิ่มเติม กลายเป็นลดสองเด้ง ทำให้ส่วนใหญ่พอถึงช่วงแคมเปญ สินค้าราคาที่เป็นพวกราคาแพง อย่างเครื่องปั๊มนมจะขายดี ลูกค้าก็จะตัดสินใจซื้อไว้เลย เพราะว่ายังไงคุณแม่ที่จะคลอดก็ต้องซื้ออยู่แล้ว
ล่าสุดช่วงที่เกิดวิกฤตไวรัส COVID-19 ส่งผลต่อยอดขายไหม
คือเราก็ต้องเปลี่ยนหรืออัปเดตเทรนด์ให้ทัน อย่างแต่ก่อนจะมีคุณแม่ที่เพิ่งท้องสามสี่เดือน เขาจะเริ่มเตรียมของไว้แล้ว แต่พอเป็นช่วงนี้ก็อาจจะหายไป แล้วซื้อสินค้าอย่างอื่นแทนที่จำเป็นแทน อย่างเช่น เครื่องฟอกอากาศ ยาฆ่าเชื้อ ตู้อบ UV หรือพวกเจลล้างมือ เราก็ต้องอัปเดตเทรนด์ให้ทัน แล้วก็ดึงสินค้าพวกนั้นมาโปรโมทแทน
อยากให้เล่าถึงแคมเปญ Lazada 8th Birthday Sale ได้เตรียมตัวเพิ่มยอดขายกับแคมเปญนี้อย่างไร
คือเตรียมไว้ในระดับหนึ่งแล้ว พยายามจะเตรียมของให้มากที่สุด เพื่อเข้าร่วมกับแคมเปญอย่างเต็มที่ อาจจะมีการเพิ่มส่วนลดพิเศษให้ลูกค้า จริงๆ ก็มีคาดการณ์ยอดขายไว้ประมาณหนึ่งเลย คือมากกว่าประมาณช่วง 11.11 กับ 12.12 แน่นอน
สมมติว่าถ้าทุกวันนี้ ยังไม่มีแพลตฟอร์ม Lazada ขึ้นมา คิดว่า Pumpnom ทุกวันนี้จะโตในระดับไหน
เราก็ยังคงขายช่องทางออนไลน์เหมือนเดิม แต่ก็คงต้องวิเคราะห์กลุ่มลูกค้าและขายตามเทรนด์ไปเรื่อยๆ ด้วยตัวเอง แต่สุดท้ายแล้ว เราก็คิดที่จะเปิดหน้าร้าน เป็นการขายแบบออนไลน์สู่ออฟไลน์ เพื่อสร้างแบรนด์ Pumpnom ให้แข็งแรงกว่าเดิม คืออย่างน้อยเรามีที่อยู่ เรามีที่มานะ เพราะจะมีคุณแม่ครึ่งหนึ่งที่อาจจะไม่เชื่อเรา ซื้อของออนไลน์ก็กลัวโดนหลอก ยังมีความกังวลตรงนี้อยู่ ยังมีคุณแม่ที่อยากเห็นสินค้าจริง แต่เดี๋ยวนี้ก็อาจจะเปลี่ยนเป็นว่า ต้องเห็นสินค้าก่อน แล้วเก็บไว้ไปซื้อออนไลน์ เพราะว่าร้านเราก็ออกในงานแฟร์แม่และเด็กอยู่แล้ว คือเขาก็ยังอยากเห็นของจริงอยู่ดี นี่เป็นอนาคตที่แพลนไว้ว่ายังไงก็คงจะต้องมีหน้าร้าน เพื่อให้ลูกค้าที่รู้จัก Pumpnom อยู่แล้วและลูกค้ากลุ่มใหม่ เพื่อให้เขากล้าสั่งออนไลน์มากขึ้นด้วย
อะไรที่ทำให้รู้สึกมั่นใจว่าการอยู่บนแพลตฟอร์มของ Lazada ทำให้ธุรกิจโตต่อไปได้
การที่ Lazada เป็นแพลตฟอร์มที่อัปเดตตลอดเวลาอยู่แล้ว เรื่องของเครื่องมือต่างๆ ก็ช่วยหาลูกค้าให้เรา คือจริงๆ แล้วเราทำการตลาดกับ Lazada น้อยมาก น้อยในที่นี้คือเราไม่ต้องคิดเยอะเหมือนเวลาทำกับของเราเอง อย่างเวลาทาง Lazada มีแคมเปญ เราก็จะโพสต์ลงเฟซบุ๊กของเรา เพื่อช่วยเพิ่มยอดขายทาง Lazada ให้เพิ่มขึ้นไปอีก เพราะว่ากลุ่มลูกค้าที่เป็นกลุ่มออนไลน์ของเราเอง จะเป็นคนละกลุ่มกับ Lazada ช่วงที่มีแคมเปญเยอะ ลดเยอะ เราก็อยากให้ลองมาซื้อดู เพราะลูกค้ากว่าครึ่งหนึ่ง Lazada หามาให้เราแล้ว อยู่ที่ว่าเราจะรับต่อไปได้หรือเปล่า ยังไงก็ค่อนข้างเพอร์เฟกต์เลย
มองภาพรวมของ E-Commerce ตลาดแม่และเด็กในอนาคตอย่างไร
คิดว่ายังไงก็น่าจะเติบโตขึ้น เพราะหลายๆ แบรนด์ก็เริ่มเข้ามาขายออนไลน์แล้ว จะเหลือคุณแม่ที่ค่อนข้างมีอายุบางกลุ่มที่กำลังเริ่มปรับตัว คือเริ่มเปิดใจ แล้วก็เข้าออนไลน์มากขึ้น เพราะอย่างคุณแม่ยุคใหม่ อายุไม่เกิน 30 ก็จะรู้จักแพลตฟอร์มพวกนี้อยู่แล้ว คิดว่ายังไงก็ต้องโตแน่นอน อย่างแบรนด์เราเองที่เข้ามาในตลาดออนไลน์นี้มาตั้งแต่ 10 ปีที่แล้ว เราจะรู้ว่ามันโตขึ้นเรื่อยๆ แน่นอน
iHAVECPU
พีรดนย์ เหมยากร เจ้าของและผู้ก่อตั้ง
ร้านขายอุปกรณ์คอมพิวเตอร์ออนไลน์ที่เริ่มต้นมาตั้งแต่การขายในเว็บบอร์ด และเว็บไซต์ กระทั่งมาเติบโตในยุคที่โซเชียลมีเดียเกิดขึ้น ความโดดเด่นคือการทำคอนเทนต์มาร์เก็ตติ้งที่ทำให้ลูกค้ารู้สึกว่าการซื้อคอมพิวเตอร์เป็นเรื่องง่าย ก่อนจะสร้างยอดขายเติบโตหลักล้าน ได้ภายในเวลาไม่ถึงปี บนแพลตฟอร์ม Lazada ได้สำเร็จ
มองภาพรวมของ E-Commerce ทุกวันนี้เป็นอย่างไร
ทุกวันนี้ก็มองว่ามันกลายเป็นธุรกิจที่มาแรง สังเกตจาก value และ growth ที่เพิ่มขึ้นทุกปีๆ ส่วนของออฟไลน์ก็น่าจะน้อยลงไป ทางออนไลน์จะขยายตัวขึ้น ผมมองว่ายังมีโอกาสอีกมากมายเลยในปัจจุบัน
อยากให้เล่าถึงจุดเริ่มต้นของ iHAVECPU
ผมเริ่มต้นมากับทางออนไลน์ 100 เปอร์เซ็นต์เลย จุดเริ่มต้นก็มาจากเว็บบอร์ดของ overclockzone.com จะมีห้องขายของมือสอง IT Market ขายพวก CPU RAM ขายได้ประมาณสัก 3-4 เดือน ก็เริ่มขยายไปโพสต์ขายตามเว็บไซต์ของภูมิภาคต่างๆ เช่น khonkaenlink ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ gimyong ภาคใต้ cm108 ภาคเหนือ คือจะไปโพสต์ขายตามเว็บบอร์ดต่างๆ แล้วพอถึงช่วงที่เฟซบุ๊กมา ก็เลยเปิดแฟนเพจ ประมาณปี 2013 แล้วก็แตกไลน์สินค้ามาเรื่อยๆ จนถึงปีประมาณสัก 2016 ก็จะมีเว็บไซต์เป็นของตัวเอง และแชนแนล YouTube เป็นของตัวเอง
ช่วงแรกที่ขายทางเว็บบอร์ดจนมาถึงแฟนเพจ วางโมเดลธุรกิจไว้รูปแบบไหน
ตอนนั้นผมไม่ได้วางโมเดลเลย ผมคิดแค่ว่าทำยังไงก็ได้ให้คนรู้จักเราเยอะที่สุด ก็เลยต้องขายทางเว็บบอร์ดไปก่อน เพื่อสร้างเครดิตให้ตัวเอง พอเราขายทางเว็บบอร์ดจนมีเครดิตแล้ว ก็ขยายสร้างแฟนเพจ เป็นการสร้างตัวตนขึ้นมาในยุคแรกๆ ยุคนั้นห้างพันธุ์ทิพย์ยังบูมอยู่ ผมน่าจะเป็นเจ้าแรกในยุคนั้นที่เปิดเป็นแฟนเพจ เรียกว่ายังไม่มีคู่แข่งเลย มีก็คงตามเว็บบอร์ดทั่วไป ช่วงนั้นวางกลยุทธ์คือทำยังไงก็ได้ให้เราแตกต่างจากคนอื่น เหมือนการสร้าง Personal Branding ขึ้นมา ตอนเป็นเว็บบอร์ดมันจะเป็นแค่แพลตฟอร์มที่ลงอะไรไม่ค่อยได้ แต่พอเป็นเฟซบุ๊ก เราสามารถลงภาพอะไรก็ได้ ผมก็สร้างคอนเทนต์แบบ ‘มาอวดคอมพิวเตอร์กันครับ’, ‘นี่คอมพิวเตอร์ของแอดมินนะ’, ‘ขอดูคอมพิวเตอร์ของเพื่อนๆ หน่อยครับ’ คือเป็นการสร้างความเป็นกันเองกับลูกค้า ไม่ใช่ว่าอยู่ดีๆ จะมาขายๆ อย่างเดียว เป็นการละลายพฤติกรรมทำให้เราใกล้ชิดกับลูกค้ามากขึ้น เพราะเราเป็นร้านค้าออนไลน์ ไม่มีออฟไลน์ เราจึงทำยังไงก็ได้ให้ลูกค้ารู้สึกว่าเรามีตัวตน พร้อมที่จะเป็นมิตร พร้อมที่จะขายของจริงๆ
ตอนนั้นใช้ชื่อเพจว่าอะไร
ตอนนั้นใช้ว่า ‘CPU ราคาถูก’ คือเป็นการสร้างแฟนเพจมาเพราะอาศัยคีย์เวิร์ดเป็นสำคัญ ยังไม่ได้คิดว่าจะเป็นแบรนด์ เพราะจะทำให้ลูกค้าค้นหายาก ให้เวลาลูกค้าค้นก็จะคล้ายๆ กับเวลาหาใน Google เลย พอค้นว่า CPU ราคาถูก ก็จะขึ้นมาเป็นของร้านผม แล้วก็เจอทั้งสินค้าด้วย คือมันกินได้ทั้ง 2 ทางเลย
พฤติกรรมคนที่ซื้อคอมพิวเตอร์ทุกวันนี้เป็นอย่างไร ช่องทางหน้าร้านหรือออฟไลน์ยังจำเป็นอยู่ไหม
ก็แล้วแต่มุมมองของแต่ละเจ้าของธุรกิจ ส่วนตัวผมมองว่าหน้าร้านไม่จำเป็น เพราะว่าคอมพิวเตอร์ก็เหมือนกัน สู้ผมเอาเงินทั้งหมดตรงนี้ไปทุ่ม Online Marketing น่าจะโอเคและเห็นผลชัดเจนกว่า ผมมองว่า Branding สำคัญที่สุด คือความน่าเชื่อถือ ทั้งการบริการหลังการขาย ความโปร่งใสในการทำงาน การนำเสนอประมาณนี้ นี่คือปัจจัยที่ผู้บริโภคจะตัดสินใจเลือกซื้อคอมพิวเตอร์สักเครื่องหนึ่ง ซึ่งทางผมเองก็ดูพฤติกรรมของผู้บริโภค แล้วก็วิเคราะห์ออกมาเพื่อทำอะไรให้ตอบโจทย์ผู้บริโภคได้ อย่างเช่น การ Live สด ที่มีความเป็น professional คุณอยากดูคอนเทนต์ดีๆ เราก็รีวิวคอมพิวเตอร์ในแบบที่ที่อื่นไม่สามารถทำได้ คือร้านขายคอมพิวเตอร์มีเยอะมาก แต่ว่าจะทำยังไงให้แตกต่างจากคนอื่น ผมมองตรงนี้มากกว่า
เมื่อเกิด Lazada ที่เป็นแพลตฟอร์มใหม่ขึ้นมา มองเห็นโอกาสตรงนี้อย่างไร
ตอนแรกที่มีคนชวนให้ไปขายใน Lazada ผมยังไม่สนใจ เพราะมั่นใจในตัวเองเกินไป คือตอนนั้นแฟนเพจก็มีคนติดตาม 3-4 แสน เว็บไซต์คนเข้าก็เยอะแล้ว ยอดขายก็เยอะมาก คิดว่าตัวเองพอแล้ว ไม่เอาต่อ แต่อะไรไม่รู้ดลใจไปลองสมัคร Lazada ดู แล้วก็เริ่มลงสินค้า แล้วคราวนี้สินค้ามีเป็นหมื่นรายการ โชคดีที่มีทีมงานคอยช่วยลงสินค้าให้ แล้วก็ทำให้ตั้งแต่วันนั้นจนถึงวันนี้ ไม่มีวันไหนที่ขายใน Lazada ไม่ได้เลย อย่างน้อยก็ต้องมียอดตลอด
รู้สึกว่า Lazada เป็นแพลตฟอร์มที่มีเครื่องมือที่ช่วยเอื้อให้ยอดขายดีขึ้นไหม
Lazada เป็นแพลตฟอร์มที่มี traffic ของคนเยอะมาก กว่า 39 ล้านคนต่อเดือน เมื่อเทียบกับเว็บไซต์ขายคอมพิวเตอร์ดังๆ ก็ประมาณ 3 ล้าน ของผมเองก็ 3 แสน ผมก็มองว่าโอกาสตรงนี้ ต้องใช้เงินกี่ล้านบาทในการสร้าง traffic ให้เท่ากับ Lazada ผมคิดว่าจะทำยังไงให้คนรู้จักเรามากที่สุด โอเคว่าอาจจะไม่ได้ยอดจาก Lazada เลย แต่อย่างน้อยขอให้คนเห็นและจดจำ iHAVECPU ได้ คือหวังว่าให้คนเห็นจาก Lazada แล้วเขาก็กลับมาซื้อผ่านเว็บไซต์เรา แต่พอจริงๆ มันกลับกัน กลายเป็นว่ายอดขายในเว็บไซต์เท่าเดิม แต่เรามียอดจาก Lazada ที่เพิ่มขึ้นมาแบบน่าตกใจ กลายเป็น turning point ที่สำคัญเลย เวลาทำอะไรก็จะอิงกับ Lazada อยู่ตลอด ทำให้ยอด 1 ใน 3 มาจาก Lazada ทั้งหมด ประมาณ 30-35 เปอร์เซ็นต์เลย
เมื่อมี traffic เยอะ ก็จะเกิดคู่แข่งที่มาเยอะเช่นกัน มีการรับมืออย่างไร
คู่แข่งผมไม่กลัวนะ การทำธุรกิจมีคู่แข่งอยู่แล้ว คือทุกคนขายคอมพิวเตอร์ได้หมด แต่จะทำยังไงให้แตกต่างจากคนอื่น คุณอยากเด่นเรื่องไหน เด่นเรื่องความเป็น Branding เด่นเรื่องการบริการหลังการขาย เด่นเรื่องคุณภาพของสินค้า หรือเด่นเรื่องการแก้ปัญหา เพราะว่าคอมพิวเตอร์เป็นอุปกรณ์ที่มีปัจจัยต่างๆ นานาให้มีปัญหามันมีเยอะมาก ดังนั้นเราจะมีทีมซัพพอร์ตที่ดีและรวดเร็ว มีทีมให้คำปรึกษาดี บริการหลังการขายดี มีปัญหาติดต่อได้ทันที วิธีคิดที่เราต้อง assume ว่าตัวเองเป็นลูกค้าคนหนึ่ง ผมจะคิดว่าตัวเองเป็นเด็กอายุ 12 ที่ไม่รู้คอมพิวเตอร์เลย พอเข้ามา iHAVECPU แล้วก็คิดว่า ตอนนั้น เราติดอะไร ติดตรงไหน แล้วก็นำเอาความคิดตรงนี้ไป เพราะใจเขาใจเราเป็นเรื่องสำคัญ
พอมีแคมเปญอย่าง 11.11 กับ 12.12 ช่วยเพิ่มยอดที่เยอะอยู่แล้วยังไงบ้าง
เพิ่มเยอะมากๆ คือในแคมเปญจะมีการแจกคูปอง ที่พูดตรงๆ เลยว่าเป็นคูปองกินเปล่า ผมไม่เสียลูกค้าไม่เสีย แต่ Lazada มอบให้ฟรีๆ แล้วคูปองไม่ใช่มูลค่าบาทสองบาท แต่มูลค่าระดับ 800-1,000 บาท สมมติคอมพิวเตอร์เครื่องหนึ่ง ราคา 10,000 บาท Lazada แจก 1,000 บาท เท่ากับผมขายคอมพิวเตอร์ให้ลูกค้าในราคา 9,000 บาท โดยที่ผมได้ 10,000 บาทเท่าเดิม คือมันแฮปปี้ทั้ง buyer และ seller ทำให้ยอดกระโดดชนิดที่โต 10 เท่าในวันเดียว ซึ่งออเดอร์จะบูมช่วงแคมเปญ แต่หลังจากแคมเปญก็มี after shock ยังขายต่อไปได้อีก และยังมีเครื่องมือช่วยโปรโมทอีกเยอะแยะมากมาย
แคมเปญ Lazada 8th Birthday Sale ของ Lazada ที่กำลังจะเกิดขึ้น มีการเตรียมแพลนที่จะช่วยเพิ่มยอดขายในช่วงนี้ไหม
ตอนนี้ก็เตรียมสั่งของแล้ว เนื่องจากมีปัญหา COVID-19 ทำให้ราคาของแพงขึ้น เราก็ต้องแบกต้นทุนที่แพงขึ้น แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นก็พยายามที่จะรักษาราคาเดิมไว้ ไม่คิดจะบวกให้แพงขึ้น เพราะว่าของส่วนมากนำเข้าจากจีนหมด มันกระทบเป็นทอดๆ ผู้ผลิตผลิตไม่ได้ คนจัดจำหน่ายก็นำเข้ามาไม่ได้ ผมเองเป็น dealer ก็นำเข้ามาไม่ได้เช่นกัน
ถ้าทุกวันนี้มันไม่มีแพลตฟอร์ม Lazada เกิดขึ้นมา คิดว่า iHAVECPU จะเติบโตไปทางไหนต่อ
ผมมองว่าก็โตในระดับหนึ่ง โตตามความสามารถของผมแค่นั้นเอง คงไม่โตได้ถึงขนาดนี้ ผมมองว่าการทำธุรกิจต้องมี connection ที่ดี มี partner ที่ดี ที่สามารถที่จะพาให้ไปได้ไกล ความสามารถของผมคือมีแค่เฟซบุ๊กกับเว็บไซต์ ที่เหลือคือต้องพึ่งแพลตฟอร์ม Lazada ซึ่งมีทั้งปรึกษาส่วนตัว มีการแนะนำว่าควรทำอย่างไร มี flash sale มีแคมเปญต่างๆ นานามากมาย เป็นโอกาสที่มากมายที่เพิ่มขึ้น Lazada เป็นตัวแปรที่สำคัญที่ทำให้ iHAVECPU โตขึ้น 2-3 เท่าโดยใช้เวลาแค่ 2-3 ปีที่ผ่านมา ถือว่าเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญเลย
อะไรที่ทำให้รู้สึกมั่นใจในแพลตฟอร์มของ Lazada
ด้วยความที่ยอด visitor ของ Lazada มี traffic เยอะมาก เป็นแอปฯ ที่ต้องมีในมือถือทุกคน เพราะฉะนั้นมันเป็นเครื่องมือที่ทรงพลังมาก ทุกวันนี้ช่องทางในการเลือกซื้อสินค้า ยอดขาย 80 เปอร์เซ็นต์มาจากสมาร์ทโฟน ส่วนอีก 20 เปอร์เซ็นต์มาจากคอมพิวเตอร์ เพราะสะดวกกว่า ง่ายกว่า ทำให้ลูกค้าสามารถตัดสินใจเลือกสินค้าได้ง่ายขึ้น