“ก็เป็นคนแบบนี้!”
พอได้ยินแบบนี้เข้า ก็อย่าเพิ่งไปคิดว่าคนที่เอ่ยประโยคนี้ออกมาจะเป็นคนที่เอาแต่ใจ เพราะยังไงคนเราทุกคนก็ย่อมมีความแตกต่าง ไม่มีทางที่จะเหมือนกันไปได้ จะด้วยหน้าตา นิสัย ความชอบ ไลฟ์สไตล์ ช่วงวัย หรืออะไรต่างๆ นานา ขนาดคนเป็นแฝดที่หน้าตาเหมือนกัน ยังนิสัยไม่เหมือนกันเลยสักนิด
ความแตกต่างของคนเราที่ว่า ในเมื่อต้องมาอยู่ในบ้านสักหลัง หรือคอนโดสักห้อง สิ่งที่แต่ละคนต้องการก็ย่อมแตกต่างกัน บวกกับความเป็นที่อยู่อาศัย การใช้ชีวิตในบ้านก็คือช่วงเวลาที่สำคัญที่สุด คงจะไม่เวิร์กแน่ หากบ้านที่ออกแบบมาเหมือนๆ กันไปหมด ทำให้เทรนด์ดีไซน์ของบ้านยุคนี้ไม่เคยจะหยุดนิ่ง ไม่ต่างอะไรกับไลฟ์สไตล์ของคนเราเลย
เช่นเดียวกับบ้านของแสนสิริที่มีจุดเริ่มต้นมาจากความเข้าใจในทุกๆ การใช้ชีวิต ลองไปดูว่าความแตกต่างของคนหลากหลายประเภทที่เมื่อต้องมาอยู่ในบ้านหรือคอนโดแล้ว บ้านแสนสิริจะตอบโจทย์ความแตกต่างนี้ได้อย่างไร
คนอายุมาก ที่ยังอยาก Young at Heart
ประเทศไทยกำลังก้าวเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุอย่างเต็มรูปแบบ คือมีคนอายุเกินกว่า 65 ปีเดินกันให้เต็มทั่วท้องถนน ซึ่งอย่างที่รู้ๆ กันว่า การเป็นผู้สูงอายุในบ้านเรานั้นต้องใช้ชีวิตยากเย็นแสนเข็ญขนาดไหน เพราะ Facility ต่างๆ ยังไม่ได้เอื้อให้กับความชราภาพเหมือนอย่างสิงคโปร์ หรือญี่ปุ่นขนาดนั้น จะไปไหนมาไหน จะทำอะไรก็ไม่ได้ดั่งใจ ทางลาดสำหรับวีลแชร์ก็ไม่ได้มีทุกที่ ลิฟต์รถไฟฟ้าก็ชอบมีปัญหา ยังไม่ต้องคิดไปถึงขั้นขึ้นรถเมล์ หรือบางทีแค่เปิดประตูยังลำบาก จะ Young at Heart ทั้งทีก็ไม่ใช่เรื่องง่าย จนได้แต่บอกพ่อแม่ของเราที่กำลังแก่เฒ่าลงทุกวันให้อดทนเข้มแข็งเอาไว้
ในเมื่อ Facility นอกบ้านไม่เอื้อ ก็ต้องเปลี่ยนมาทำให้ภายในบ้านเอื้อแทน โครงการของแสนสิริจึงออกแบบพื้นที่ใช้สอยมาเพื่อให้ผู้สูงอายุใช้ชีวิตสะดวกขึ้นด้วยแนวคิด Elderly Care Design Solution ทั้งตัวบ้านและพื้นที่ส่วนกลาง มีทางลาดสำหรับวีลแชร์ ประตูบานเลื่อนที่เปิดง่าย ไปจนถึงรายละเอียดเล็กๆ ที่สำคัญอย่างการเลือกใช้พื้นรับแรงกระแทก ให้ทุกการใช้ชีวิตของผู้สูงอายุไม่ต้องลำบากอีกต่อไป
คนรักลูก ที่แคร์แม้แต่เรื่องเล่นๆ
เคยมีคนบอกไว้ว่า จะเข้าใจหัวอกของพ่อแม่ได้นั้น ต้องลองมีลูกเองถึงจะเข้าใจ เพราะสัญชาตญาณความเป็นพ่อแม่ทำให้เวลาที่จะเลือกสรรสิ่งต่างๆ มาให้ลูกจึงต้องคัดมาอย่างดีที่สุด ไม่เว้นแม้กระทั่งเรื่องเล่นของลูก เพราะการเล่นเป็นการเสริมสร้างการเรียนรู้ของเด็กได้ดีและเป็นธรรมชาติมากที่สุด โดยหัวใจสำคัญคือการปล่อยให้ลูกออกไปเล่นนอกบ้าน สนามเด็กเล่นจึงเป็นแลนด์มาร์กที่น่าสนใจที่สุดสำหรับพ่อแม่ยุคนี้ แต่จะมีสนามเด็กเล่นแห่งไหนที่ปล่อยให้ลูกเราไปเล่นได้อย่างสบายใจบ้าง
ส่วนกลางของโครงการบ้านของแสนสิริได้นำเอาแนวคิดในการออกแบบพื้นที่เล่นให้เหมาะสมกับช่วงวัยของเด็ก จนเกิดเป็นสนามเด็กเล่นแบบ Educational Playground ที่มีการออกแบบและทำงานร่วมกับคุณหมอผู้เชี่ยวชาญด้านพัฒนาการเด็ก จากโรงพยาบาลสมิติเวช เพื่อให้ได้เครื่องเล่นที่แตกต่าง เน้นคำนึงถึงพัฒนาการของเด็กๆ เป็นหลัก ไม่ว่าจะเป็น การเคลื่อนไหวร่างกาย สติปัญญา อารมณ์ การเข้าสังคม หรือแม้แต่การตัดสินใจ ทำให้คนรักลูกปล่อยลูกให้เล่นได้อย่างสบายใจ เพราะนอกจากออกแบบมา เพื่อเสริมสร้างพัฒนาการของเด็กทั้งทางร่างกายและสมองให้เติบโตอย่างสมวัยผ่านกิจกรรมสนุกๆ จนผู้ใหญ่ต้องอิจฉาแล้ว ยังใส่ใจเรื่องความปลอดภัยด้วยการใช้วัสดุที่เป็นมิตรกับเด็กๆ อีกด้วย
คนชอบอยู่บ้าน อยากนอนชิลได้ทั้งวัน
เชื่อว่าทุกคนต่างเคยสัมผัสประสบการณ์ออกไปแสวงหาความสุขในวันหยุด แต่กลับได้ความทุกข์จากการเดินทางอันแสนโหดร้ายในเมือง ยุคนี้จึงเรียกได้ว่าเป็นยุคของคนที่ชอบอยู่บ้าน จะมีอะไรดีไปกว่าการได้นอนอยู่บ้านเฉยๆ ในวันหยุด ไม่ต้องดิ้นรนไปหาความสุขนอกบ้านที่ไหน ในเมื่อเป็นแบบนั้นแล้ว คนที่ชอบอยู่บ้านจึงต้องมีบ้านที่เหมาะแก่การอยู่บ้านจริงๆ ด้วย คือต้องอยู่สบาย ไม่ร้อนอบอ้าว จะมาหวังพึ่งแอร์เย็นๆ ทั้งวันก็ไม่น่าเหมาะ เพราะเทรนด์ Eco-friendly น่าจะเป็นสิ่งที่หลายคนกำลังให้ความสำคัญ คือเราอยู่สบาย แต่ก็ต้องไม่เดือดร้อนธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมด้วย
บ้านของแสนสิริจึงได้คิดค้นนวัตกรรม Cooliving Designed Home บ้านที่มีการออกแบบระบบการถ่ายเทอากาศอันยอดเยี่ยม ช่วยลดอุณหภูมิภายในบ้านลงได้ ไล่มาตั้งแต่ระบบพัดลมและช่องระบายอากาศใต้หลังคา ช่องระบายลมในตัวบ้าน ระแนงกันแดด ผนังบ้านที่มีพื้นผิวลดความร้อนที่ตกกระทบ ฝ้าชายคาที่ยาวเป็นพิเศษเพื่อป้องกันแสงแดดเข้าบ้าน ไปจนถึงสีกันความร้อน และกระจกเขียวตัดแสง เพื่อให้ทุกส่วนของบ้านเย็นสบาย เหมาะแก่การใช้ชีวิตอยู่บ้านในวันหยุดสำหรับคนชอบอยู่บ้านได้อย่างแท้จริง
คนรักสัตว์ แต่ก็อยากชัดเรื่องพื้นที่
ปัญหาอย่างหนึ่งของคนรักสัตว์คือการจัดสรรพื้นที่ในการเลี้ยงดู เพราะด้วยใจรักก็ไม่อยากจะขังสัตว์เลี้ยงแสนรักไว้ในกรงตลอดเวลา โดยเฉพาะอย่างยิ่งสัตว์รักอิสระและมีความอินดี้สูงอย่างน้องแมว ที่ต้องอาศัยพื้นที่ในการเลี้ยงประมาณหนึ่ง ไหนจะที่สำหรับวิ่งเล่น ไหนจะที่สำหรับปีนป่าย หรือห้องน้ำที่ต้องแบ่งสัดส่วนให้ดี เพื่อป้องกันเรื่องกลิ่นรบกวน แม้ว่าหลายคนจะให้น้องแมวอาศัยอยู่ร่วมกับมนุษย์เราไปแบบเนียนๆ แต่บางทีความซุกซนของน้อง เราก็ไม่สามารถจะควบคุมได้ทั้งหมด การแบ่งสัดส่วนพื้นที่ในการเลี้ยงจึงน่าจะเป็นทางออกที่ดีที่สุด
โครงการของแสนสิริจึงมีการออกแบบภายใต้แนวคิด Practical Living Design ที่สามารถปรับเปลี่ยนและประยุกต์การใช้สอยพื้นที่ต่างๆ ได้ตามใจชอบ เพราะการจัดสรรพื้นที่ก็ไม่จำเป็นต้องฟิกซ์ตายตัวในห้องสี่เหลี่ยมเสมอไป จะแบ่งโซนคนหรือโซนแมวก็ไม่ใช่ปัญหาน่าปวดหัวอีกแล้ว หรือเกิดวันหนึ่งอยากจะอินเทรนด์เลี้ยง Cactus ปลูกต้นไม้ในบ้าน อยากลองปรับเปลี่ยนพื้นที่ใช้สอยให้ไม่เหมือนเดิม
เปลี่ยนสิ่งแวดล้อมให้เหมาะกับการทำงานก็สามารถทำได้สบายๆ
คนงานเยอะ แค่ฟรี Wi-Fi ยังไม่พอ
ปัจจุบันไลฟ์สไตล์การทำงานของคนรุ่นใหม่ เรียกว่ากำลังผันไปสู่ยุคของ Digital Nomads คนที่ทำงานอาชีพฟรีแลนซ์ หรือสตาร์ทอัพที่ไม่ได้มีออฟฟิศทำงานเป็นหลักเป็นแหล่ง แค่ฟรี Wi-Fi อย่างเดียวก็ใช่ว่าจะทำงานได้ เพราะบรรยากาศในการทำงานที่ดี ก็มีผลต่อการสร้างสรรค์งานเช่นกัน จึงทำให้สถานที่อย่าง Co-Working Space เก๋ๆ เกิดขึ้นมากมาย
ในขณะเดียวกันก็ใช่ว่าจะตอบโจทย์ได้หมด เพราะยังไงปัจจัยเรื่องการเดินทางก็เป็นสิ่งที่คนงานเยอะให้ความสำคัญมากที่สุดอยู่ดี
คงจะดีไม่น้อย หากจะมี Co-Working Space ที่สวยงามพร้อมใช้งานอยู่ในส่วนกลางของคอนโดหรือบ้านที่อยู่ เพียงแค่ลืมตาตื่นมาก็พร้อมออกไปนั่งปั่นงานกันเลยทีเดียว อย่างโครงการของแสนสิริก็มี Co-Working Space พร้อมด้วยห้องประชุมและสิ่งอำนวยความสะดวกแบบครบครัน รวมไปถึง Multi-Purpose Area พื้นที่ส่วนกลางที่รองรับทุกกิจกรรม จะตั้งโต๊ะสุมหัวคิดโปรเจกต์ หรือทำงานส่งลูกค้า ก็มีพื้นที่พร้อมเสมอ
คนรักความสะดวก ที่อยากสบายบนความล้ำ
ปฏิเสธไม่ได้ว่าทุกวันนี้คนเรามีกิจกรรมหลายอย่างให้ทำไม่ว่างเว้น ทั้งทำงาน ท่องเที่ยว อ่านหนังสือ หรือจะอยู่บ้านดูซีรี่ส์มาราธอน แล้วจะเอาเวลาที่ไหนปลีกตัวไปจ่ายบิลค่าน้ำไฟ หรือติดต่อนิติบุคคลเช็กพัสดุ คนรุ่นใหม่จึงหวงเวลาส่วนตัวเอามากๆ และมองหาที่อยู่อาศัย ที่จะทำให้การใช้ชีวิตในวันชิลๆ ไม่ต้องสะดุดเพราะต้องออกไปทำธุระข้างนอก เจออากาศร้อน แดดแผดเผา หรือพลาดช่วงไคลแมกซ์ของหนังโปรดโดยไม่จำเป็น
โครงการของแสนสิริจึงเติมเต็มการใช้ชีวิตด้วยการตอบโจทย์ความสะดวกสบาย และการใช้ชีวิตที่ง่ายขึ้นตามสไตล์คนรุ่นใหม่ด้วย Home Service Application ที่ช่วยให้ลูกบ้านสามารถติดตามข่าวสารของโครงการ ส่งข้อความติดต่อกับนิติบุคคล รับการแจ้งเตือนเมื่อมีพัสดุมาส่ง บริหารจัดการค่าส่วนกลางเช็คยอดค้างชำระ ไปจนถึงการแจ้งซ่อม และตรวจสอบสถานะการซ่อมแซมได้อย่างง่ายดายผ่านสมาร์ตโฟน เรียกว่าเป็นบ้านในฝันของคนรักความสบายเลยทีเดียว
คนโสด ไม่โปรฯ งานช่าง
ในระหว่างที่กำลังรอใครสักคนมาเติมเต็มชีวิต เป็นธรรมดาที่สาวโสดทุกคนจะกังวลเรื่องการใช้ชีวิตอยู่คนเดียวในบ้านหรือคอนโด เพราะด้วยทักษะงานช่างที่มีน้อยนิด จึงทำให้เวลาที่มีอะไรต่างๆ ในบ้านเสียหาย ถึงแม้จะเป็นเรื่องเล็กๆ อย่างการเปลี่ยนหลอดไฟ ซ่อมกลอนประตู ประกอบเฟอร์นิเจอร์ ฯลฯ ก็ไม่รู้จะขุดทักษะไหนมาทำด้วยตัวเองได้ ลำพังจะรีบหาคนรู้ใจมาช่วยก็ยุ่งยากเกินไปสักหน่อย
ปัญหาเหล่านี้จะไม่เกิด เมื่อได้อยู่โครงการของแสนสิริที่มีบริการ Sansiri Home Care ที่สามารถแจ้งซ่อมอุปกรณ์ต่างๆ ในบ้านที่ชำรุดได้ผ่าน Home Service Application พร้อมตรวจสอบสถานะการซ่อมได้ตลอดเวลา หมดปัญหาเรื่องงานช่างที่ไม่ชำนาญอีกต่อไป จากทีมงานมืออาชีพที่จะช่วยแก้ปัญหาให้เรื่องยากเป็นเรื่องง่าย ทั้งยังคอยให้คำปรึกษาการดูแลบำรุงรักษา เพื่อคุณภาพชีวิตที่ดีทั้งคุณและบ้านของคุณ
รวมไปถึงระบบรักษาความปลอดภัย Sansiri Security System เริ่มจาก รปภ. ที่ได้รับการฝึกฝนมาอย่างดี นอกจากนี้ยังมีกล้อง CCTV ที่สามารถเช็กความเคลื่อนไหวได้ผ่านมือถือ และการใช้ Key Card ในการเข้าออกโครงการ จะโสดไปอีกนานแค่ไหนก็ยังอุ่นใจได้เสมอ เพราะมาตรฐานที่แสนสิริใส่ใจ คือ จุดเริ่มต้นของความปลอดภัยที่แตกต่าง
ดังนั้นไม่ว่าจะเป็นคนแบบไหน หรือมีไลฟ์สไตล์อย่างไร บ้านแสนสิริก็พร้อมเติมเต็มการอยู่อาศัยอย่างสมบูรณ์แบบเสมอ
เพราะทุกการใช้ชีวิต คือจุดเริ่มต้นของแสนสิริ
https://www.sansiri.com/thai/รู้จักแบรนด์แสนสิริ