บนเส้นทางชีวิตของการเป็น ‘ครู’ ในนิยามทั่วไป หมายถึงคนที่ทำหน้าที่ให้ความรู้กับลูกศิษย์
แต่สำหรับเส้นทางชีวิตของครูที่มีชื่อว่า ครูบอย- นพรัตน์ เจริญผลครูหนุ่มแห่งโรงเรียนบ้านนาเกียน อ.อมก๋อย จ.เชียงใหม่ อาจหมายถึงการให้ที่มากกว่าแค่ความรู้ แต่เต็มไปด้วยความรักและความศรัทธาที่สามารถเปลี่ยนเส้นทางชีวิตของเด็กคนหนึ่งได้
จากความฝันสู่ครูบนดอย
ความฝันของครูบอยในวัยเด็ก ก็เหมือนกับเด็กต่างจังหวัดทั่วไปที่ฝันอยากจะเป็นตำรวจ แต่กลับต้องประสบอุบัติเหตุจนทำให้ไม่สามารถใช้ร่างกายได้อย่างเต็มที่ เขาจึงต้องหันเหไปสู่อาชีพครู ซึ่งเป็นอีกหนึ่งความฝันของเขาเช่นกัน “สมัยเด็กๆ อาชีพในฝันคืออยากเป็นตำรวจ แต่ก็เกิดอุบัติเหตุ ทำให้ขาหัก เลยหันมาเรียนครู เพราะอาชีพในฝันอีกอย่างคือการเป็นครู”
หลังจากที่เรียนจบด้านการศึกษาปฐมวัย จากมหาวิทยาลัยราชภัฏเชียงราย บัณฑิตหนุ่มก็ได้เริ่มต้นอาชีพครูที่โรงเรียนบ้านเชียงคาน จังหวัดเชียงราย ซึ่งเป็นบ้านเกิดของเขา ก่อนจะได้ยินประกาศว่าโรงเรียนบ้านขุนแม่ตื่นน้อย ที่ตั้งอยู่ อ.อมก๋อย จ.เชียงใหม่ กำลังประกาศรับสมัครครูอัตราจ้าง จึงตัดสินใจสมัคร ด้วยเหตุผลที่ว่าไม่มีใครสมัครเลย ประเด็นสำคัญคือเขามาค้นพบความจริงภายหลังว่า เส้นทางที่ไปยังโรงเรียนแห่งนั้นทุรกันดารและยากลำบากมาก เพราะอยู่บนดอยที่สูงชัน “ช่วงนั้นฝนตกหนักมาก มาสมัครเสร็จก็กลับไปสวดมนต์ภาวนา ขอให้สอบไม่ติด คือไม่อยากมา เพราะว่ามันไกล การเดินทางลำบากมาก”
แต่แล้วโชคชะตาก็ทำให้ครูหน้าใหม่ผู้นี้ต้องมาเป็นครูบนดอยในที่สุด ซึ่งได้เปลี่ยนชีวิตไปอย่างที่ไม่เคยคาดคิดมาก่อน เพราะสิ่งที่พบเจอบนดอยทำให้เห็นถึงความยากลำบากที่คนเมืองอย่างเราอาจจะคาดไม่ถึง “คือเราไม่เคยเจออะไรแบบนี้มาก่อนเลย ไม่มีไฟฟ้า ไม่มีเครื่องอำนวยความสะดวก ซักผ้าก็ต้องซักเอง อยู่ในกลางป่า ในหุบเขาเหมือนหลุดออกมาอีกโลกหนึ่งเลย พอเลิกเรียนก็ต้องอยู่กับนักเรียน ตอนนั้นร้องไห้เลยเพราะลูกก็กำลังเล็กอยู่ เวลาอยู่กับครอบครัวก็น้อยจะกลับบ้านทีหนึ่งก็ไกล ต้องเดินทางทั้งวัน ทำใจอยู่นานเหมือนกัน” ถึงแม้จะมีใจรักในการเป็นครูอย่างไร แต่ครูบอยก็ยอมรับว่า ความตั้งใจจริงๆ ก็อยากจะเป็นครูที่อยู่ในเมืองมากกว่า
เวลาที่ผ่านไปทำให้ครูบอยเริ่มปรับตัวได้ และเริ่มเข้าใจถึงความยากลำบากของเด็กบนพื้นที่ห่างไกลมากขึ้น ด้วยเหตุผลง่ายๆ ว่า “เห็นเขาอยู่ได้ เราก็ต้องอยู่ได้ อยู่ๆ ไปก็เริ่มผูกพันกันเหมือนครอบครัว จนรู้สึกว่าเด็กนักเรียนก็เหมือนลูกของเรา” ภาพความจริงที่เคยถูกมองว่าเลวร้าย ก็ค่อยๆ แปรเปลี่ยนเป็นความเข้าใจ เพราะสิ่งแวดล้อมได้ค่อยๆ หล่อหลอมให้เขามีจิตวิญญาณของครูผู้ให้อย่างแท้จริงมากขึ้น
อุปสรรคบนเส้นทางที่ต้องเอาชนะ
หลังจากที่ครูบอยได้สอนอยู่ที่โรงเรียนบ้านขุนแม่ตื่นน้อยในช่วงเวลาหนึ่ง ก็ได้ย้ายมาสอนที่โรงเรียนบ้านใบหนา ต.นาเกียน อ.อมก๋อย จ.เชียงใหม่ ก่อนจะมาประจำอยู่โรงเรียนบ้านนาเกียน ที่ตั้งอยู่ในอำเภอเดียวกันจนปัจจุบัน สภาพแวดล้อมเรียกได้ว่าไม่ได้ต่างกันมากนัก “ข้างบนกับข้างล่างคือคนละขั้วเลย เปิดโทรทัศน์ก็ไม่มีไฟฟ้า เปิดโน๊ตบุ๊กก็ไม่มีอินเทอร์เน็ต ไม่มีอะไรสักอย่างซึ่งเป็นการลดโอกาสทางการศึกษาของเด็กๆ”
ด้วยสื่อการเรียนการสอนที่เข้าไปไม่ถึง ทำให้เด็กนักเรียนซึ่งส่วนใหญ่เป็นชาวเขาเผ่าปกาเกอะญอ ขาดโอกาสที่จะได้เรียนรู้ผ่านเทคโนโลยี เพียงแค่แรงผลักดันของครูคนเดียวคงไม่อาจเปลี่ยนแปลงอะไรได้ ทำให้ครูบอยเลือกที่จะผลักดันลูกศิษย์ให้ไปถึงเป้าหมายการศึกษาด้วยวิธีในแบบเขาเอง “ผมว่าเราคงเปลี่ยนแปลงทั้งระบบไม่ได้ อย่างน้อยคือเราบอกให้เด็กเรียนให้จบชั้นประถมฯ ปีที่ 6 พอเรียนจบโรงเรียนก็มีการจัดกิจกรรมที่พาเด็กนักเรียนไปเที่ยวทะเล เราก็ไปหาคนมาสนับสนุนเรื่องค่าใช้จ่าย เพราะเด็กบางคนไม่เคยได้เห็นทะเลมาก่อน สิ่งที่เด็กไม่เคยเห็น เราก็อยากให้เขาได้มาเห็น เด็กมีความสุขเราก็มีความสุขตามไปกับเด็กด้วย”
จากโครงการ ‘พาเด็กดอยไปลอยทะเล’ ที่ครูบอยพยายามผลักดันจนประสบความสำเร็จ รอยยิ้มของลูกศิษย์จึงกลายเป็นเหมือนจุดหมายความสำเร็จ ที่ทำให้เขามีแรงใจที่อยากจะทำหน้าที่ครูต่อไป แต่ถึงแม้ครูบอยจะลงทั้งแรงกายและแรงใจไปมากมายขนาดไหน ก็ยังมีอุปสรรคที่ทำให้ครูบอยต้องรู้สึกท้อใจ “ถามว่าท้อไหม ก็ท้อ เพราะคำดูถูกของคน บอกว่าเป็นแค่ครูอัตราจ้างคนหนึ่งมาทำแบบนี้ทำไม สร้างภาพ เอาหน้าเอาตารึเปล่า กว่าจะถึงจุดนี้ผมทำมาตั้ง 8 ปี ผมไม่ได้ทำเพื่อตัวเอง ถ้าผมทำเพื่อตัวเอง คงไม่มาเป็นครูอัตราจ้างอยู่บนดอยนี้หรอก”
ไม่เพียงแต่อุปสรรคเรื่องสื่อการเรียนการสอนและคำดูถูกเท่านั้น เส้นทางที่ครูบอยต้องเดินทางเพื่อไปสอนยังเรียกว่ายากลำบากสุดๆ เลยทีเดียว “ผมต้องขึ้นลงดอยทุกสัปดาห์ โรงเรียนบนดอยอยู่ห่างตัวอำเภอประมาณ 55 กิโลเมตร ต้องใช้เวลาเดินทางประมาณ 2 ชั่วโมง หน้าฝนบางทีก็ 3-4 ชั่วโมงเลย” ครูบอยเล่าถึงความหฤโหดของเส้นทางถนนลูกรังที่ต้องฝ่าฟันทุกสัปดาห์ ทำให้ยานพาหนะหลักที่ใช้ คือรถมอเตอร์ไซค์ที่สะดวกและคล่องตัวกว่า
ความรักและศรัทธาที่พาลูกศิษย์ไปถึงฝั่งฝัน
เป้าหมายสำคัญของครูบอย ไม่เพียงแค่ให้เด็กนักเรียนชาวเขาได้มีความรู้ติดตัวเท่านั้น แต่คือการทำหน้าที่ครูด้วยการส่งลูกศิษย์ให้ไปถึงฝั่งฝัน จึงจะเรียกว่าเป็นการทำหน้าที่ได้อย่างสมบูรณ์แบบ “เรารู้ว่าเด็กคนไหนชอบสิ่งไหน เราก็ต้องส่งเสริมให้เด็กได้ทำสิ่งนั้น เด็กอยากเล่นกีตาร์ พอดีเรามีกีตาร์เก่าๆ ตัวหนึ่ง เสียงก็ไม่ค่อยดีเท่าไหร่ ก็เอาให้เด็กเล่น สอนเล่นคอร์ดพื้นฐานง่ายๆ จนตอนนี้เป็นนักดนตรีของโรงเรียนไปแล้ว หรือเด็กอยากเล่นฟุตบอล ไม่มีรองเท้า เราก็ซื้อรองเท้ามือสองให้ อย่างน้อยก็ให้เด็กมีกำลังใจที่ว่ายังมีครูที่มองเห็นในสิ่งที่เขารัก อยากสนับสนุนไปเรื่อยๆ คืออนาคตข้างหน้าถ้าเขาไม่มีทุน ก็อยากช่วยหาทุนส่งให้เขาเรียนจบปริญญาตรีให้ได้”
การเป็นครูที่ดี คุณสมบัติอย่างหนึ่งที่สำคัญไม่น้อยไปกว่าความรู้ที่มอบให้ลูกศิษย์และจรรยาบรรณในวิชาชีพแล้ว ยังมีอีกสิ่งหนึ่งที่ครูบอยยึดถือไว้ในใจอยู่ตลอด นั่นก็คือความรักและความศรัทธาที่มีต่อลูกศิษย์ “เด็กก็เหมือนผ้าขาว ถ้าเราแต่งเติมอะไรเข้าไปเด็กก็จะทำตาม ทุกอย่างจึงอยู่ที่ครู เราจึงต้องให้ความรักและความศรัทธาเขา อย่างน้อยให้เด็กรักเรา และมองเราเป็นเหมือนครอบครัว”
เมื่อถามถึงการแก้ปัญหาเรื่องช่องว่างทางการศึกษา ในฐานะที่ครูบอยเป็นครูบนดอยที่เคยสัมผัสถึงความแตกต่างของรูปแบบการศึกษาอย่างชัดเจน สิ่งที่เขามองว่าสำคัญที่สุดที่จะช่วยแก้ไขปัญหาเบื้องต้นได้ คือเรื่องของโอกาส “เด็กบนดอยอาจจะไม่มีโอกาสเหมือนเด็กข้างล่าง คือถ้าเขามีโอกาส มีโรงเรียนที่ดี ชีวิตของเขาก็จะดีขึ้นคืออย่างน้อยก็เปิดโอกาสให้เด็กได้ไปเรียน ได้ทำงานอยู่ในเมือง ได้ใช้ชีวิตเหมือนๆ กับเด็กข้างล่างบ้าง ก็จะช่วยให้ช่องว่างตรงนี้ลดน้อยลงได้”
สิ่งที่ครูบอยได้ทุ่มเทให้กับเด็กนักเรียนชาวเขาบนดอยอมก๋อย มาตลอดเวลากว่า 8 ปีเต็ม คงไม่สามารถประเมินเป็นค่าตอบแทนได้ แต่สิ่งที่ครูบอยได้รับกลับมาคือสิ่งที่มีมูลค่ามากกว่าสิ่งใด นั่นก็คือความสุขของการให้ “สิ่งที่ผมได้รับกลับมา คือความสุขทางใจ ที่ได้เห็นเด็กๆ มีรอยยิ้ม”
เรื่องราวของครูบอยถูกถ่ายทอดผ่าน แคมเปญ The Courage Outriders โดย Shell Advance ที่มุ่งสนับสนุนทุกเส้นทางของคนกล้าหัวใจนัดบิด ให้ฝ่าอุปสรรค ลุยโคลน และเส้นทางอันคดเคี้ยว เพื่อขับเคลื่อนการเปลี่ยนแปลงชีวิตที่ดีขึ้นให้แก่ทุกคน Shell Advance ขอเป็นหนึ่งในพลังผลักดันให้ครูบอย ด้วยการมอบน้ำมันเครื่องและความรู้ในการดูแลมอเตอร์ไซค์ให้ครูบอยพร้อมเผชิญทุกเส้นทางที่ท้าทายและอุปสรรคข้างหน้า เพื่อส่งต่อโอกาสให้เด็กๆ ต่อไป
รายละเอียดเพิ่มเติม คลิก https://go.shell/32HXlCV