การประชุมร่วมกันของรัฐสภา ในวันนี้ (17 มีนาคม พ.ศ.2564) เพื่อพิจารณาร่างแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญ เพื่อจัดตั้ง ส.ส.ร.ขึ้นมาจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ ในวาระที่สาม ซึ่งมีประเด็นต้องพิจารณา กรณีศาลรัฐธรรมนูญมีคำวินิจฉัยที่ 4/2564 เรื่องให้จัดทำประชามติ 2 ครั้ง ก่อนและหลังการยกร่างรัฐธรรมนูญใหม่
การประชุมเริ่มเวลาประมาณ 10.00 น. มีทั้ง ส.ส.จากพรรคต่างๆ และ ส.ว.แต่งตั้ง ลุกขึ้นแสดงความเห็นและเสนอญัตติถึงแนวทางการแก้ไขรัฐธรรมนูญต่อไป The MATTER สรุปได้ว่ามี 4 แนวทางหลักๆ ดังนี้
แนวทางที่ 1 ยุติการพิจารณาร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญเพื่อตั้ง ส.ส.ร. ในวาระที่สามไปเลย เนื่องจากยังไม่มีการทำประชามติก่อน ถือว่าร่างนี้ตกไปแล้ว (เสนอโดย ส.ว.แต่งตั้ง เช่น สมชาย แสวงการ, เสรี สุวรรณภานนท์)
แนวทางที่ 2 ชะลอการลงมติไว้ก่อน ส่งให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยซ้ำอีกครั้ง เพื่อให้เกิดความชัดเจน แล้วค่อยกลับมาลงมติในวาระที่สาม (เสนอโดยพรรคร่วมรัฐบาล เช่น จุรินทร์ ลักษณวิศิษฎ์ ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ นิกร จำนง ส.ส.พรรคชาติไทยพัฒนา ศุภชัย ใจสมุทร ส.ส.พรรคภูมิใจไทย)
แนวทางที่ 3 ชะลอการลงมติไว้ก่อน รอให้ พ.ร.บ.ประชามติบังคับใช้ แล้วไปทำประชามติก่อน ถึงจะกลับมาลงมติในวาระที่สาม (เสนอโดย ส.ส.พรรคพลังประชารัฐ เช่น วีระกร คำประกอบ)
แนวทางที่ 4 เดินหน้าลงมติวาระที่สามไปเลย เพราะตามรัฐธรรมนูญกำหนดไว้อยู่แล้วว่า ถ้าจะตั้ง ส.ส.ร.ขึ้นมาจัดทำรัฐธรรมนูญใหม่ต้องทำประชามติ (เสนอโดยพรรคร่วมฝ่ายค้าน เช่น ธีรัจชัย พันธุมาศ ส.ส.พรรคก้าวไกล นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว ส.ส.พรรคเพื่อไทย)
ขณะนี้การพิจารณาเรื่องดังกล่าวยังเดินหน้าต่อไป โดยการลงมติว่าจะเดินหน้าการแก้ไขรัฐธรรมนูญต่อไปอย่างไร ต้องเกิดขึ้นภายในวันที่ 18 มีนาคม พ.ศ.2564
สำหรับจำนวนสมาชิกรัฐสภา ณ ตอนนี้ มีทั้งหมด 737 คน เป็น ส.ส.จากการเลือกตั้ง 483 คน และ ส.ว.แต่งตั้งอีก 250 คน หากร่างแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญเพื่อจัดตั้ง ส.ส.ร.จะผ่านความเห็นชอบในวาระที่สาม ต้องอาศัยเสียงเกินกึ่งหนึ่ง (ส.ส.เลือกตั้งและ ส.ว.แต่งตั้งรวมกัน 369 เสียงขึ้นไป) โดยในเสียงเห็นชอบต้องมีเสียง ส.ว.แต่งตั้งไม่น้อยกว่าหนึ่งในสาม (84 เสียงขึ้นไป) และต้องได้เสียง ส.ส.ฝ่ายค้านเกินหนึ่งในห้า