จากกรณีที่มีกระแสข่าว เจ้าหน้าที่รัฐของไทยออกคำสั่งให้ส่งผู้อพยพชาวเมียนมากลับไปยังประเทศ ทำให้เกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์ไปในวงกว้าง ถึงการเพิกเฉยต่อการให้ความช่วยเหลือทางสิทธิมนุษยชน สำนักงานเพื่อสิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติ (The UN Human Rights Office) จึงได้ออกมาประกาศ เรียกร้องให้นานาประเทศระงับการส่งผู้อพยพกลับไปยังเมียนมา
สำหรับประกาศดังกล่าว มีใจความสำคัญว่า สำนักงานเพื่อสิทธิมนุษยชนแห่งประชาชาติประจำภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เรียกร้องให้ประเทศต่างๆ ในภูมิภาคคุ้มครองผู้อพยพชาวเมียนมาที่กำลังเผชิญหน้ากับอันตรายจากเหตุการณ์ความรุนแรงที่เกิดขึ้น โดยขอให้รัฐต่างๆ รับรองว่าผู้ลี้ภัยเหล่านี้จะไม่ถูกส่งกลับไปยังประเทศต้นทาง แม้จะไม่มีเอกสารรับรองสถานะ
ประกาศดังกล่าวได้พูดถึงเหตุการณ์ความขัดแย้งระหว่างกองทัพของรัฐบาลเมียนมา และกลุ่มชาติพันธ์ุติดอาวุธ โดยระบุว่า นับตั้งแต่เกิดรัฐประหารขึ้นในวันที่ 1 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ประชาชนที่ออกมาชุมนุมอย่างสงบถูกสังหารไปแล้ว 510 คน และมีประชาชนอีกกว่า 2,600 คนถูกควบคุมตัว ซึ่งส่วนใหญ่ถูกตัดขาดการสื่อสาร อีกทั้งเจ้าหน้าที่ทหารยังเดินหน้าคุกคามประชาชนอย่างต่อเนื่องโดยใช้อาวุธยุทโธปกรณ์หนัก เช่น ระเบิด ปืนกล
อาวุธยุทโธปกรณ์หนักเหล่านี้เองเป็นหนึ่งในเครื่องมือที่ถูกส่งมาโจมตีพื้นที่ของรัฐกะเหรี่ยง ทำให้พลเรือนในพื้นที่หลายคนต้องอพยพหนีภัยออกนอกประเทศ ขณะที่สำนักงานเพื่อสิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติได้รับรายงานว่ามีผู้แสวงหาความปลอดภัยบางคนถูกบังคับส่งกลับไปประเทศอีกครั้ง
ซินเทีย เวลิโก้ (Cynthia Veliko) ผู้แทนประจำภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ สำนักงานเพื่อสิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติ ณ กรุงเทพมหานคร กล่าวว่า “ไม่ควรมีผู้ใดต้องเสี่ยงถูกส่งกลับไปยังประเทศเมียนมา เมื่อชีวิต ความปลอดภัย และสิทธิมนุษยชนขั้นพื้นฐานของพวกเขากำลังถูกคุกคาม ด้วยคำนึงถึงพันธกรณีตามกฎหมายสิทธิมนุษยชนและกฎหมายว่าด้วยผู้ลี้ภัยระหว่างประเทศ เราขอให้ทุกประเทศรับรองว่าผู้แสวงหาที่พักพิงทุกคนจะสามารถเข้าถึงการคุ้มครองที่พวกเขามีสิทธิจะได้รับตามกฎหมายระหว่างประเทศ”
ขณะนี้มีผู้อพยพชาวเมียนมาหลายคนที่พักอาศัยอยู่ในประเทศต่างๆ อย่างไม่มีเอกสารรับรองสถานะ เนื่องจากหวาดกลัวที่จะต้องกลับไปยังประเทศ เพื่อดำเนินเรื่องต่ออายุวีซ่าหรือคงสถานะการเข้าเมืองแบบปกติ ดังนั้นประเทศต่างๆ ควรบังคับใช้มาตรการที่หลีกเลี่ยงการทำให้ผู้อพยพตกอยู่ในสถานะเข้าเมืองแบบไม่ปกติหรือผิดกฎหมาย และมองหาทางเลือกสำหรับการกักกันผู้โยกย้ายถิ่นฐานที่ไม่มีเอกสารรับรองสถานะโดยไม่มีการคุมขังและมีความปลอดภัย
“ผู้โยกย้ายถิ่นฐานจากประเทศเมียนมา ซึ่งเป็นผู้สร้างประโยชน์มากมายให้แก่สังคมของเรา กำลังต้องการให้พวกเรายืนเคียงข้างพวกเขาในขณะนี้” เวลิโก้กล่าว “เราขอให้ประเทศในภูมิภาคนี้ ระงับการเนรเทศผู้โยกย้ายถิ่นฐานชาวเมียนมาที่ไม่มีหนังสือรับรองสถานะ หรือผู้อยู่ในสถานะเข้าเมืองแบบไม่ปกติ และให้สถานะทางกฎหมายที่มั่นคงแก่พวกเขา ขณะที่ประเทศของพวกเขายังคงเผชิญกับวิกฤต”
สำหรับเหตุการณ์ไทยผลักดันผู้ลี้ภัยกะเหรี่ยงกลับไปยังฝั่งเมียนมา สามารถอ่านรายละเอียดได้ที่ : https://thematter.co/brief/139389/139389
อ้างอิงจาก
https://bangkok.ohchr.org/myanmar-returns/
https://news.thaipbs.or.th/content/302861
https://www.bbc.com/thai/thailand-56564707