ประชาชนมีสิทธิย้ายประเทศ แต่ไม่มีสิทธิ์เคลื่อนย้ายชายแดนของประเทศอื่น ชาวนาเบลเยียมคนหนึ่งแอบเคลื่อนย้ายหินเสาหินเก่าแก่ที่เป็นเครื่องหมายแบ่งดินแดนระหว่างเบลเยียม และฝรั่งเศสออกไปไว้ที่อื่น เพียงเพราะมันตั้งขวางทางรถแทรกเตอร์
เหตุการณ์ดังกล่าวมาโป๊ะแตก หลังผู้รักในประวัติศาสตร์ท้องถิ่นคนหนึ่งออกไปเดินสำรวจป่า ก่อนเขาจะสังเกตุว่า เสาหินที่ถูกใช้เป็นเครื่องหมายแบ่งเขตแดน ตั้งแต่สมัยสนธิสัญญาคอร์ทไรค์ (Kortrijk)ในปี ค.ศ.1820 ถูกเคลื่อนย้ายออกไปตั้งไว้ในฝั่งฝรั่งเศส ห่างจากจุดเดิมราวๆ 2.29 เมตร และนั่นทำให้ประเทศฝรั่งเศสมีขนาดเล็กลง ขณะที่เบลเยียมใหญ่ขึ้น โดยไม่มีใครรู้
เหตุการณ์ที่ควรจะตึงเครียดกลับกลายเป็นเรื่องขบขัน เนื่องจากมีการคาดการณ์ว่าชาวนาคนนั้น ไม่ได้มีเจตนาจะก่อให้เกิดข้อพิพาทแต่อย่างใด เขาเพียงรู้สึกรำคาญเสาหินที่มาตั้งแกะกะขวางเส้นทางรถแทรกเตอร์ หรือไม่ก็ต้องการเพิ่มขนาดที่ดินของตัวเองเล็กน้อย จึงย้ายเสาออกไป โดยไม่รู้ว่าเส้นพรมแดนนี้ได้รับการระบุตำแหน่งทางภูมิศาสตร์อย่างแม่นยำตั้งแต่ปี ค.ศ.2019
เดวิด ลาโวซ์ (David Lavaux) นายกเทศมนตรีของหมู่บ้านเออควิลินเนส (Erquelinnes) ในเบลเยียม กล่าวว่า “การเปลี่ยนขนาดของประเทศ 2 ประเทศไม่ใช่ความคิดที่ดี แน่นอนฉันมีความสุขที่เห็นเมืองตัวเองใหญ่ขึ้น แต่นายกเทศมนตรีของฝรั่งเศสคงไม่คิดเช่นนั้น” เดวิดกล่าวพลางหัวเราะ
เจ้าหน้าที่ท้องถิ่นของเบลเยียมวางแผนที่จะติดต่อชาวนา เพื่อให้เขานำเสาหินไปคืนที่เดิม แต่ถ้าหากเขาไม่ปฏิบัติตาม เรื่องนี้อาจลงเอยที่กระทรวงการต่างประเทศ และชาวนาคนนั้นอาจถูกฟ้องร้องในคดีอาญา
ปัจจุบัน พรมแดนระหว่างฝรั่งเศสและเบลเยียม มีความยาวประมาณ 620 กิโลเมตร ก่อตั้งขึ้นอย่างเป็นทางการภายใต้สนธิสัญญาคอร์ทไรค์ ซึ่งลงนามในปี ค.ศ.1820 หลังจากที่นโปเลียนพ่ายแพ้ที่ยุทธการวอเตอร์ลู ส่วนเสาหินต้นนี้ คาดว่ามีอายุราวๆ 200 ปี เพราะน่าจะเกิดขึ้นในปี ค.ศ.1819 ซึ่งเป็นช่วงแรกที่มีการกำหนดเขตแดน
อ้างอิงจาก
https://www.bbc.com/news/world-europe-56978344…
https://www.cnet.com/…/belgian-farmer-accidentally…/