ช่วงโรคระบาดนับเป็นความท้าทายแก่หลายอุตสาหกรรมที่ต้องปรับตัวให้อยู่รอด หนึ่งในนั้นคืออุตสาหกรรม ‘ไวน์’ ที่ต้องย้ายมาทำการตลาดออนไลน์ และหาวิธีต่างๆ เพื่อจูงใจผู้บริโภคมากขึ้นในช่วงล็อกดาวน์ แต่ถึงอย่างนั้น อุตสาหกรรมไวน์กลับไม่ได้สาหัสอย่างที่คิด เนื่องจากโรคระบาดได้ขับเคลื่อนให้เกิดการบริโภคไวน์ โดยเฉพาะในผู้บริโภคกลุ่ม ‘มิลเลนเนียล’
ราเชล วูดส์ (Rachel Woods) ปรึกษาของโรงบ่มไวน์ Wine Nerd กล่าวว่า “สิ่งหนึ่งที่ฉันได้ยินซ้ำแล้วซ้ำเล่าจากเพื่อนๆ คือความรู้เกี่ยวกับไวน์ จนกระทั่งต้องกักตัวอยู่ที่บ้าน ทำให้เราไม่มีเวลาหรือวิธีที่จะได้ความรู้เกี่ยวกับไวน์เพิ่มเติมในแบบที่เราสบายใจ
“แต่ตอนนี้มีอีเวนต์เกี่ยวกับการชิมไวน์แบบ virtual เพิ่มขึ้น ซึ่งเล่าเรื่องราวเบื้องหลังของผู้ผลิตและกระบวนการที่นำไปสู่การเติบโตและการผลิตไวน์ ในรูปแบบออนไลน์ที่เราสามารถเข้าถึงได้ และทำให้คนหนุ่มสาวเกิดการมีส่วนร่วมมากขึ้น”
นอกจากนี้ ผู้บริโภคกลุ่มมิลเลนเนียลยังเป็นกลุ่มที่สามารถใช้เครื่องมือสื่อสารทางดิจิทัลได้เป็นอย่างดี และเป็นกลุ่มผู้บริโภคที่มีพฤติกรรมที่แคร์ภาพลักษณ์ของตัวเอง เป็นนักสะสม และนักแบ่งปัน ทำให้พวกเขาลงทุนซื้อไวน์ชั้นดีตามปีเกิด เพื่อเป็นของขวัญให้กับคนสำคัญ และนี่ก็คืออีกหนึ่งการตลาดที่อุตสาหกรรมไวน์เล็งเห็น
ดังนั้น เมื่อการย้ายกิจกรรมทางการตลาดมาอยู่บนโลกออนไลน์นั้น ได้ผลจนสามารถทำให้ชาวมิลเลนเนียลกลายเป็นกลุ่มผู้บริโภคหลักได้ นอกจากนี้ วูดส์ยังเสริมว่า การทำให้วัฒนธรรมไวน์เป็นเรื่องที่เข้าถึงได้ และสามารถแบ่งปันต่อไปได้หลังการระบาดจบลง จะทำให้เกิดการเติบโตขึ้นเรื่อยๆ ในอุตสาหกรรมไวน์
กลับมาที่ประเทศไทย การบริโภคไวน์พรีเมียม โดยเฉพาะจากประเทศออสเตรเลีย ยังคงเติบโตอย่างต่อเนื่องในช่วงที่ผ่านมา ข้อมูลจากผลการรายงานของ IWSR สถาบันเก็บข้อมูลและวิเคราะห์ตลาดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ระดับโลกในปี ค.ศ.2020 แสดงให้เห็นว่า ไวน์จากประเทศออสเตรเลียถูกนำเข้ามาจัดจำหน่ายเป็นจำนวนมากที่สุดในประเทศไทย
โดยประเทศไทยถูกจัดว่าเป็นประเทศที่มีมูลค่าการใช้จ่ายรวมในกลุ่มอาหารและเครื่องดื่มที่สูงที่สุดในภูมิภาคอาเซียน ในขณะเดียวกัน กรุงเทพมหานครเองก็มีการเติบโตของการรับประทานอาหารแบบไฟน์ไดนิง (fine-dining) ส่งผลให้ความนิยมในการดื่มไวน์เกรดพรีเมียมพุ่งสูงขึ้นอย่างรวดเร็วด้วยเช่นกัน และจากผลสำรวจเมื่อไม่นานนี้ ยังชี้ให้เห็นว่า แม้จะมีความท้าทายจากการแพร่ระบาดของ COVID-19 แต่กิจกรรมทางการตลาดของเครื่องดื่มแอลกอฮอล์กลับประสบความสำเร็จอย่างมากในโลกออนไลน์
ด้วยความที่ในบางสังคมไวน์ถือเป็นหนึ่งสัญลักษณ์ที่แสดงออกถึงความสำเร็จทางสถานะทางสังคมและเศรษฐกิจ และเป็นตัวบ่งชี้ความสุขุมในการใช้ชีวิต นอกจากนี้ ไวน์ออสเตรเลียยังเป็นที่รู้จักในฐานะไวน์ที่มีคุณภาพและราคาสมเหตุสมผล ทำให้กลุ่มผู้บริโภค โดยเฉพาะมิลเลนเนียล ยินดีที่จะจับจ่ายเงินจำนวนมากไปกับการบริโภคไวน์พรีเมียม
ถึงแม้ปีที่ผ่านมาจะเป็นปีที่ท้าทายสำหรับอุตสาหกรรมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ เนื่องจากมาตรการปิดหน้าร้านค้าปลีก แต่อัตราการบริโภคไวน์ออสเตรเลียยังคงเติบโตขึ้นเรื่อยๆ Treasury Wine Estated (TWE) บริษัทไวน์พรีเมียมที่จดทะเบียนบนตลาดหลักทรัพย์ออสเตรเลียที่ใหญ่ที่สุดในโลก พบว่า ในรอบ 12 เดือนที่ผ่านมา การดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์พรีเมียมที่บ้านกลายเป็นที่นิยมมากขึ้น จากการล็อกดาวน์และการกักตัว แสดงให้เห็นว่าการดื่มไวน์ ไม่จำเป็นต้องจำกัดว่าจะต้องดื่มในโอกาสพิเศษเท่านั้น
โยดีเซน มูตูซามี (Yodissen Mootoosamy) ผู้จัดการทั่วไปด้านฝ่ายขายระหว่างประเทศของ Penfolds ไวน์พรีเมียมจากออสเตรเลีย กล่าวว่า “แม้จะพบความท้าทายในปีที่ผ่านมา แต่ Penfolds สามารถกลับมาฟื้นตัวได้ และยังสามารถสร้างยอดขายจากเทศกาลลดราคาในปี ค.ศ.2020 มากขึ้นกว่า 82 เปอร์เซ็นต์ เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปี ค.ศ.2019
“โดยสิ่งที่ Penfolds ทำควบคู่ไปด้วยก็คือ การเพิ่มความต้องการในการบริโภคไวน์ โดยการให้ความรู้กับผู้บริโภคในเรื่องรสชาติ ลำดับขั้นในการดื่ม ความหลากหลายของไวน์ ต้นกำเนิดของไวน์ รวมไปถึงกิจกรรมที่มักทำร่วมกับการดื่มไวน์ เช่น อาหารที่ควรนำมาดื่มคู่กับไวน์ชนิดต่างๆ”
วัฒนธรรมการดื่มไวน์ของผู้บริโภคกลุ่มใหม่ จึงไม่ได้ต้องการเพียงแค่ไวน์ที่ราคาดีหรือเข้าถึงได้เท่านั้น แต่ยังต้องการความรู้และรายละเอียดเกี่ยวกับไวน์ด้วย ซึ่งการสร้างการรับรู้ให้กับไวน์ในแง่ของสุนทรียศาสตร์นี้เอง ก็จะช่วยกระตุ้นให้การบริโภคไวน์เพิ่มสูงขึ้นในกลุ่มผู้บริโภคที่อายุลดลงมาเรื่อยๆ ด้วยเช่นกัน
ขอบคุณข้อมูลจาก Penfolds
อ้างอิงข้อมูลจาก