แม้สหรัฐฯ จะฉีดวัคซีน COVId-19 อย่างน้อย 1 เข็มให้แก่ประชาชนเกือบ 60% ของประเทศแล้ว แต่สถานการณ์ระบาดของสายพันธุ์เดลตายังคงน่าห่วง โดยเอกสารล่าสุดของกรมควบคุมโรคสหรัฐฯ หรือ CDC รายงานว่า สายพันธุ์เดลตาอาจมีอัตราแพร่เชื้อต่อไปได้ 5-9 ราย และผู้ที่ได้รับวัคซีนครบแล้วก็อาจแพร่เชื้อให้ผู้อื่นได้อยู่
รายงานของ CDC ซึ่งเก็บตัวอย่างผู้ติดเชื้อ COVID-19 ที่อยู่ในรัฐแมสซาชูเซตส์จำนวน 469 รายในเดือนกรกฎาคมพบว่า 79% ติดเชื้อและแสดงอาการ (จำนวนนี้ 346 ราย หรือ 74% ได้รับวัคซีนครบสองโดย) และที่สำคัญคือพวกเขาพบว่าจำนวนไวรัส (viral load) ในร่างกายของผู้ที่ได้รับวัคซีนครบสองเข็ม 127 รายเท่ากับผู้ที่ยังไม่ได้รับวัคซีนและผู้ที่ไม่แจ้งข้อมูล 84 ราย
เอกสารภายในของ CDC สหรัฐฯ ชี้ว่า COVID-19 สายพันธุ์เดลตาสามารถแพร่เชื้อได้เท่ากับโรคอีสุกอีใสหรือผู้ติดเชื้อ 1 รายแพร่เชื้อต่อไปได้ 5-9 ราย ขณะที่ผู้ติดเชื้อก่อนหน้านี้ถูกประเมินว่าสามารถแพร่ต่อไปได้ 2-3 รายเท่านั้น
งานวิจัยของจีนให้ข้อมูลไปในทิศทางเดียวกัน โดยจากการทดลองในแล็บพวกเขาพบว่าสายพันธุ์เดลตาสามารถแพร่เชื้อได้เก่งขึ้นถึง 1,000 เท่าเทียบกับไวรัสสายพันธุ์ดั้งเดิมที่พบที่แรกในเมืองอู่ฮั่น
ในรายงานฉบับดังกล่าวของ CDC มีข้อความเขียนว่า “ยกระดับการสื่อสารเรื่องไวรัสทะลุภูมิคุ้มกันจากวัคซีน (vaccine breakthrough) และประสิทธิภาพของวัคซีน” ขณะที่ทางด้าน Rochelle Walensky ผอ. CDC สหรัฐฯ ให้สัมภาษณ์กับสำนักข่าว CNN เมื่อวันพฤหัสที่ผ่านมาว่า “มันคือหนึ่งในไวรัสที่แพร่เชื้อได้เก่งที่สุดเท่าที่เรารู้จักมา เท่าๆ กับโรคอีสุกอีใสหรือโรคหัดเลยทีเดียว”
อย่างไรก็ตาม รายงานของ CDC ยังชี้ว่า การได้รับวัคซีน COVID-19 ช่วยลดอาการป่วยหนักและเสียชีวิตได้อย่างน้อย 10 เท่าและสามารถลดโอกาสติดเชื้อได้ถึง 3 เท่า โดย CDC อ้างงานวิจัยในรัฐแมสซาชูเซตส์ข้างต้น (เก็บข้อมูล 469 ราย) ซึ่งไม่มีผู้ติดเชื้อคนใดเสียชีวิต และมี 5 รายที่ต้องเข้ารับการรักษาตัวในโรงพยาบาล โดยจากผู้ที่ต้องเข้ารับการรักษาตัวในโรงพยาบาล หนึ่งรายที่ยังไม่ได้รับวัคซีนและสองรายที่ได้รับวัคซีนแล้ว ทั้งหมดมีโรคประจำตัว
เมื่อวันที่ 30 ก.ค.ที่ผ่านมา โจ ไบเดน ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ได้กระตุ้นให้คนเข้ารับวัคซีน โดยเรียกร้องให้หน่วยงานระดับรัฐมอบเงิน 100 ดอลลาร์ให้ผู้ที่เข้ามารับวัคซีน COVID-19 รวมถึงออกระเบียบใหม่แก่เจ้าหน้าที่ของรัฐบาลกลางว่า ผู้ที่ยังไม่ได้รับวัคซีนต้องเข้ารับการตรวจหาไวรัสอย่างน้อยสัปดาห์ละหนึ่งครั้ง ห้ามเดินทางท่องเที่ยว และทุกคนต้องใส่หน้ากากอนามัยถึงจะมาทำงานได้
เมื่อวันที่ 27 ก.ค.ที่ผ่านมา CDC ก็เพิ่งตัดสินใจยกเลิกแนวปฏิบัติเมื่อเดือนที่แล้ว และให้ประชาชนทุกคน ทั้งที่ได้รับและยังไม่ได้รับวัคซีน กลับมาสวมหน้ากากอนามัยในพื้นที่เสี่ยงต่อการระบาดเพื่อป้องกันการติดและแพร่เชื้อ COVID-19
อ้างอิง:
https://www.cnn.com/2021/07/30/health/breakthrough-infection-masks-cdc-provincetown-study/index.html
https://www.nytimes.com/2021/07/30/health/cdc-vaccinated-delta.html
https://www.reuters.com/world/us/biden-federal-worker-vaccination-push-affect-millions-2021-07-29/