พาดหัวข่าวนี้ คือสรุปประเด็นจากผลการศึกษาสถานการณ์และความต้องการของลูกหนี้รายย่อยที่ได้รับผลกระทบจากโควิด-19 ของแนวร่วมการเงินที่เป็นธรรมประเทศไทย (Fair Finance Thailand) โดยใช้แบบสอบถามออนไลน์เก็บข้อมูลตั้งแต่ 23 เม.ย.-21 พ.ค.2564 ที่แม้จะมีผู้ร่วมตอบแบบสอบถามเพียง 275 คน แต่ก็ให้ข้อมูลบางอย่างที่น่าสนใจเกี่ยวกับสถานการณ์ของคนมีหนี้ท่ามกลางวิกฤตโควิด-19
ข้อมูลน่าสนใจในผลการศึกษานี้
- ลูกหนี้ 240 คนที่เปิดเผยข้อมูลเกี่ยวกับรายได้ของตนเอง ซึ่งมีตั้งแต่คนว่างงาน เกษตรกร นักเรียน/นักศึกษา ฟรีแลนซ์ พนักงานบริษัท ข้าราชการ/พนักงานรัฐวิสาหกิจ ไปจนถึงเจ้าของกิจการ ให้ข้อมูลว่า ก่อนโควิด-19 จะมีค่าเฉลี่ยรายได้ต่อเดือน 116,050 บาท แต่ภายหลังโควิด-19 กลับมีรายได้เฉลี่ยต่อเดือนลดลง เหลือเพียง 44,889 บาท หายไปเฉลี่ย 29.7% หรือเกือบ 1 ใน 3 ของรายได้เดิม
- อาชีพที่ได้รับผลกระทบจากโควิด-19 สูงสุดคือกลุ่มคนว่างงาน โดยรายได้ลดลงเฉลี่ยถึง 76.0% ส่วนอาชีพที่ได้รับผลกระทบน้อยที่สุด คือข้าราชการ/พนักงานรัฐวิสากิจ ที่รายได้ลดลงเฉลี่ยเพียง 3.7%
- ลูกหนี้ 244 คนที่เปิดเผยข้อมูลลักษณะของภาระหนี้ พบว่า 68.9% มีเจ้าหนี้ 1-3 ราย ที่เหลือมีเจ้าหนี้ 4 รายขึ้นไป โดยลักษณะเจ้าหนี้จะแบ่งเป็น 3 กลุ่ม ธนาคารพาณิชย์/สถาบันการเงินเฉพาะกิจของรัฐ เจ้าหนี้ที่ไม่ใช่สถาบันการเงิน และเจ้าหนี้นอกระบบ
- เมื่อแยกตามประเภทสินเชื่อ พบว่าหนี้ส่วนใหญ่เป็นสินเชื่อบัตรเครดิต 29.6% สินเชื่อส่วนบุคคล 23.4% สินเชื่อบ้าน 21.1% และบัตรกดเงินสด 11.3%
- ผู้ให้ข้อมูล 131 คน ซึ่งเปิดเผยข้อมูลการเปลี่ยนแปลงสัดส่วนหนี้ต่อรายได้ต่อเดือน (Debt Service Ratio: DSR) เฉลี่ยเปรียบเทียบก่อนและหลังการระบาดโควิด-19 นั้น พบว่า คนทุกกลุ่มอาชีพมีหนี้เพิ่มขึ้นทั้งสิ้น โดยเพิ่มขึ้นมากที่สุด ได้แก่ คนว่างงาน สัดส่วนหนี้เพิ่มขึ้น 543.2% เกษตรกร 400.0% และผู้ประกอบธุรกิจส่วนตัว 155.8%
- ตั้งหลักให้เห็นภาพอีกครั้ง ผลการสำรวจพบว่าลูกหนี้รายย่อยมีรายได้ลดลงเฉลี่ยร้อยละ 29.7 หรือเกือบ 1 ใน 3 ของรายได้เดิม แต่อัตราส่วนหนี้ต่อรายได้ต่อเดือน (DSR) ที่มีสูงอยู่แล้วกลับเพิ่มขึ้น 2.5 เท่า จากร้อยละ 56.9 เป็นร้อยละ 147.8
“คำถามต่อเนื่องคือ ภายใต้สถานการณ์เช่นนี้ ลูกหนี้รายย่อยจะหาทางออกอย่างไร ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ทำอะไรได้บ้าง และที่สุดคือรัฐจะหามาตรการแบบไหนเพื่อทำให้ทุกฝ่ายรอดจากวิกฤติอย่างเป็นธรรมและยั่งยืน” คือคำถามที่ตั้งไว้ในผลการศึกษานี้
โดย Fair Finance Thailand มีข้อเสนอ 6 ประการ เพื่อแก้ปัญหาให้ลูกหนี้อย่างยั่งยืน คือ
- ธปท. ควรมีการสำรวจความคิดเห็นของลูกหนี้ เพื่อปรับปรุงมาตรการให้ตรงจุดมากขึ้น และแก้ไขอุปสรรคของลูกหนี้ที่เข้าไม่ถึงมาตรการบรรเทาภาระหนี้
- รัฐบาลต้องมีการเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบอย่างตรงจุด ด้วยการชดเชยรายได้ที่หายไปเพราะผลกระทบจากมาตรการของรัฐ เช่น ล็อกดาวน์สั่งปิดร้านอาหาร ฯลฯ
- พิจารณายกเลิกเพดานอัตราดอกเบี้ยทุกชนิด โดยเน้นกำกับดูแลการให้บริการที่เป็นธรรม (market conduct)
- จัดตั้งกลไกไกล่เกลี่ยข้อพิพาทนอกศาล (Alternative Dispute Resolution: ADRs)
- ผลักดันกฎหมายล้มละลายโดยสมัครใจสำหรับบุคคลธรรมดา
- ออกวงเงินเครดิตสำหรับผู้มีรายได้น้อย เพื่อแก้ปัญหาระยะสั้น และจัดตั้งทะเบียนหลักประกันแห่งชาติ (National Collateral Registry) สำหรับแก้ปัญหาระยะยาว
นี่คือข้อมูลผลกระทบของวิกฤตโควิด-19 ต่อกระเป๋าเงินของคนทั่วๆ ไป ทั้งเรื่องรายได้และหนี้สิน ที่หวังว่าจะทำให้ภาครัฐต้องปรับปรุงตัวเพื่อแก้ไขปัญหาสำคัญนี้ต่อไป
#Brief #TheMATTER