สถานทูตสหรัฐฯ ประจำประเทศไทยได้แถลงการณ์ถึงกรณีเตรียมบริจาควัคซีน 1 ล้านโดสให้แก่ทางการไทย โดย นิโคล ฟ็อกซ์ โฆษกสถานทูตสหรัฐฯ ประจำประเทศไทยชี้ว่า
ตามที่สหรัฐได้ประกาศเมื่อเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมาว่าจะมีการบริจาควัคซีน COVID-19 ให้แก่ไทยนั้น ขณะนี้ทางสหรัฐฯ กำลังติดต่อกับบริษัทที่เกี่ยวข้องในเรื่องสถานะของข้อตกลงทางกฎหมายของบริษัทกับประเทศไทย ตลอดจนการอนุมัติด้านระเบียบข้อบังคับ
และในสัปดาห์หน้า ทางสหรัฐฯ หวังว่าจะมีการประชุมสองฝ่ายเพื่อดำเนินการในประเด็นด้านกฎหมาย การดำเนินการขนส่ง และระเบียบข้อบังคับที่จำเป็นต่อการเคลื่อนย้ายวัคซีนเหล่านี้ ซึ่งประเด็นหัวข้อเหล่านี้จะคล้ายคลึงกับประเด็นที่ต้องดำเนินการสำหรับการบริจาควัคซีน 1.5 ล้านโดสก่อนหน้านี้
ทั้งนี้ เพื่อให้การจัดส่งวัคซีนมีความปลอดภัยและมีประสิทธิภาพ สหรัฐฯ บริษัทผู้ผลิตวัคซีน และประเทศผู้รับ (ไทย) จะต้องดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องกับการดำเนินการขนส่ง อันได้แก่
– ข้อตกลงทางกฎหมายและระเบียบข้อบังคับที่จำเป็นต่าง ๆ
-หน่วยงานด้านการแพทย์ที่ประสานงานกันเพื่อให้แน่ใจว่ามีการแลกเปลี่ยนข้อมูลด้านความปลอดภัยและระเบียบข้อบังคับต่างๆ
– ทีมขนส่งเพื่อให้แน่ใจว่าวัคซีนมีการจัดเก็บในอุณหภูมิที่เหมาะสม ป้องกันการแตกหักเสียหาย และผ่านศุลกากรโดยทันที
เราตั้งตารอที่จะได้รับการจัดส่งวัคซีนล็อตที่ 2 มายังประเทศไทยโดยเร็วที่สุด
ทั้งนี้ เมื่อวันที่ 23 กันยายนที่ผ่านมา สุดารัตน์ เกยุราพันธ์ ได้โพสต์เฟซบุ๊กหลังเข้าพบ แทมมี ดักเวิร์ธ ส.ว.รัฐอิลลินอยส์ จากพรรคเดโมแครตของสหรัฐฯ ว่า ทางการสหรัฐฯ พร้อมจะส่งวัคซีนมาให้แก่ไทย แต่ติดที่รัฐบาลไทยยังไม่ส่งเอกสารที่จะเป็นตอบกลับมา
ทางด้าน อนุทิน ชาญวีรกูล รัฐมนตรีสาธารณสุขออกมาโต้กระแสข่าวดังกล่าวว่า หลังจากประสานข้อมูลกับกระทรวงต่างประเทศ ทางการไทยยังไม่ได้รับเอกสารจากรัฐบาลสหรัฐฯ อนุทินกล่วว่า “จากการประสานข้อมูลกับ กต. ทราบว่าขณะนี้ยังไม่ได้รับเอกสารทางการทูตจากรัฐบาลสหรัฐ แจ้งเรื่องการสนับสนุนวัคซีนให้กับไทยเพิ่มเติม ดังนั้น ข่าวดังกล่าวจึงไม่เป็นความจริง”
ด้าน ธานี แสงรัตน์ อธิบดีกรมสารนิเทศและโฆษกกระทรวงการต่างประเทศ (กต.) ออกมายืนยันเช่นกันว่ากำลังติดตามการมอบวัคซีนกับรัฐบาลสหรัฐฯ ตลอดและล่าสุด สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงวอชิงตัน รายงานว่า ในขณะนี้ ฝ่ายสหรัฐฯ ยังอยู่ระหว่างดำเนินการภายใน และยังไม่ได้กำหนดการส่งมอบวัคซีน หรือประสานงานด้านเอกสารกับหน่วยราชการไทยใด ๆ ทั้งสิ้น
อ้างอิง;
https://www.prachachat.net/politics/news-767209
https://www.bbc.com/thai/thailand-58660912