ช่วงบ่ายของวันนี้ นักศึกษามหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ร่วมกับภาคประชาชนประมาณ 60 คนได้เข้ายื่นหนังสือที่ลงรายมือชื่อจำนวน 1,700 ชื่อถึงสภามหาวิทยาลัยเชียงใหม่, คณะกรรมาธิการการศึกษา และคณะกรรมาธิการการกฎหมายเพื่อเรียกร้องให้ถอดถอน นิเวศน์ นันทจิต อธิการบดีมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ และอัศวิณีย์ หวานจริง คณบดีคณะวิจิตรศิลป์ หลังมีกรณีปิดกั้นการใช้พิ้นที่หอศิลป์ของมหาวิทยาลัย
ระหว่างกิจกรรมมีการจุดเทียน แล้วเขียนชื่อของคณบดีคณะวิจิตรศิลป์, อธิการบดีมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ รวมถึง เกษม วัฒนชัย นายกสภามหาวิทยาลัยเชียงใหม่ลงไปบนพื้น แล้วมีการกล่าวข้อเรียกร้อง 3 ข้อ
ข้อแรก แต่งตั้งคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริงเพื่อพิจารณาถอดถอนคณะผู้บริหารจากกรณีข้างต้น โดยกรรมการสอบสวนจะต้องเป็นกลาง ไม่มีผลประโยชน์ร่วมต่อทั้งสองฝ่าย ทั้งนี้ นักศึกษาและประชาชนทั่วไปจะต้องได้รับสิทธิ์คัดค้านคำสั่งแต่งตั้งกรรมการสอบสวนภายในระยะเวลาที่ถูกกำหนดอย่างเป็นธรรม
ข้อสอง สร้างข้อกำหนดสำหรับการคัดเลือกคณะผู้บริหารมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ชุดต่อไป โดยต้องผ่านการเลือกตั้งของทุกภาคส่วนอย่างแท้จริง ไม่ว่านักศึกษา คณาจารย์ หรือเจ้าหน้าที่ ทั้งนี้ จะต้องดำเนินการให้เสร็จสิ้นก่อนการคัดเลือกคณะผู้บริหารชุดถัดไป
ข้อสาม ตรวจสอบประเด็นปัญหาอื่น ซึ่งเกี่ยวข้องกับคณะผู้บริหารที่แนบมาพร้อมหนังสือฉบับนี้ และออกนโยบายตรวจสอบมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ในทุกภาคส่วนต่อไป เพื่อรับประกันความปลอดภัยจากการแสดงความคิดเห็น การดำเนินการของนักศึกษา อาจารย์ ตลอดจนบุคลากรในทุกรูปแบบ และพิทักษ์ไว้ซึ่งเสรีภาพทางวิชาการแห่งมหาวิทยาลัยเชียงใหม่
เหตุการณ์ล็อคหอศิลป์เมื่อช่วงอาทิตย์ที่ผ่านมาไม่ใช่ความขัดแย้งครั้งแรกระหว่างผู้บริหารและนักศึกษา เพราะช่วงต้นปีที่ผ่านมา ทางผู้บริหารมหาวิทยาลัยก็เคยพยายามให้คนเอางานศิลปะของนักศึกษาไปทิ้งมาแล้ว
อภิสิทธิ์ วะลับ นักศึกษาภาควิชา Media Art and Design คณะวิจิตรศิลป์ กล่าวถึงประเด็นการเลือกผู้บริหารมหาวิทยาลัยว่า เขาเห็นปัญหาที่ว่าผู้บริหารขาดความเชื่อมโยงกับนักศึกษามานานแล้ว รวมถึงกระบวนการตั้งคณะกรรมการสอบสวนก็ขาดความโปร่งใส เขากล่าวว่า “เขาแต่งตั้งคนที่เป็นพวกเขาเองมาตรวจสอบตัวเขาเอง ซึงมันขาดความสุจริต ความโปร่งใส”
อภิสิทธิ์กล่าวถึงปัญหาะระหว่างคณบดีและนักศึกษาที่เรื้อรังมานานตั้งแต่ต้นปี “ถ้าใครได้ติดตามคือช่วงต้นปีก็มีเหตุการณ์การรื้อถอนงานของนักศึกษา หรือเอางานของนักศึกษาไปทิ้ง คณบดีคนนี้มีกิริยาและการวางตัวที่ไม่เหมาะสม เราต้องการให้คุณมาตรวจสอบหน่อยว่าตอนนี้เราเดือดร้อนมากๆ แล้ว”
นักข่าวของ The MATTER เคยพูดคุยกับอภิสิทธิ์เช่นกัน และเขาก็ให้ความเห็นถึงสถานการณ์ไร้เสรีภาพทางวิชาการในรั้วมหาวิทยาลัยเมืองล้านนาแห่งนี้ว่า “เราเสียใจมากๆ เพราะเรามาเรียนมหา’ลัยนี้ เราค่อนข้างจะศรัทธาคุณภาพของมหาลัย และมหา’ลัยเคลมเรื่องสิทธิความเท่าเทียมกัน เคารพในหลักวิชาการของมหาลัย แต่เหมือนเขาเขียนสิ่งสวยหรูเอาไว้ในวิสัยทัศน์ แต่สิ่งที่เขากระทำกับเรามันสวนทางกับสิ่งที่เขาบอก”
ทั้งนี้ หัวหน้าสำนักงานสภามหาวิทยาลัยได้ลงมารับหนังสือแทนนายกสภามหาวิทยาลัยเชียงใหม่ พร้อมยืนยันว่าจะนำเรื่องชี้แจงกับนายกสภาฯ
กลุ่มนักศึกษายังได้เข้ายื่นหนังสือกับ ทัศนีย์ บูรณุปกรณ์ ส.ส.เชียงใหม่ พรรคเพื่อไทย และ เพชรรัตน์ ใหม่ชมภู จากพรรคก้าวไกล เพื่อส่งต่อไปยังประธานกรรมาธิการการกฎหมาย การยุติธรรม และสิทธิมนุษยชน ซึ่งยืนยันว่าจะนำเรื่องร้องเรียนดังกล่าวเข้าสู่ กมธ. ในวันที่ 1 พ.ย. นี้
สำหรับรายชื่อบุคคลเข้าร่วมถอดถอนผู้บริหารทั้ง 2 คนทั้งรวมแล้วประมาณ 1,700 รายชื่อ ประกอบด้วย คณาจารย์ประมาณ 10 คน ผู้มีตำแหน่งในองค์การนักศึกษาปีนี้และปีก่อนๆ 34 คน นักศึกษาปัจจุบัน 1,027 คน ศิษย์เก่า 379 คน ประชาชน 278 คน และมีเจ้าหน้าที่มหาวิทยาลัยอีก 5 คน โดยในหนังสือได้ระบุว่าต้องมีความคืบหน้าที่ชัดเจนภายในวันที่ 31 ต.ค.
อ่านบทความ “ทวงคืนหอศิลป์และเสรีภาพคุยกับ นศ.วิจิตรศิลป์ มช. เมื่อมหาลัยไม่ใช่ที่ปลอดภัยในการแสดงออก” ได้ที่:
https://thematter.co/social/media-arts-exhibition-chiangmai-uni/158131