Microsoft ประกาศเข้าซื้อยักษ์ใหญ่วิดีโอเกม Activision Blizzard ผู้ผลิตและจัดจำหน่ายวิดีโอเกมชื่อดังอย่าง Call of Duty, World of Warcraft และ Diablo ในมูลค่าสูงถึง 68.7 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ หรือราวๆ 2.2 ล้านล้านบาท
การซื้อขายครั้งนี้ ถ้าผ่านขั้นตอนทุกอย่างเสร็จสมบูรณ์ จะทำให้ Microsoft กลายเป็นบริษัทเกมที่ใหญ่ที่สุดเป็นอันดับ 3 ของโลกนับจากรายได้ เป็นรองแค่ Tencent และ Sony โดยดีลครั้งนี้จะครอบคลุมถึงสิทธิในการเป็นเจ้าของแฟรนไชส์เกมชื่อดังต่างๆ ของสตูดิโอ Activision, Blizzard และ King รวมถึงทัวร์นาเมนต์การแข่งขันอีสปอร์ตอย่าง Major League Gaming ด้วย
การเข้าซื้อ Activision Blizzard สะท้อนให้เห็นการแข่งขันของอุตสาหกรรมเกมที่กำลังเข้มข้นขึ้น ซึ่งแรงจูงใจประการหนึ่งในการเข้าซื้อครั้งนี้ The New York Times วิเคราะห์ว่า มีเพื่อสะสม exclusive content ให้เข้ามาอยู่ในแพลตฟอร์ม Xbox ของ Microsoft มากขึ้น แต่ในขณะเดียวกัน ฟิล สเปนเซอร์ ผู้บริหารธุรกิจเกมของ Microsoft ก็บอกว่า เป้าหมายตอนนี้จะทำให้ผู้เล่นเข้าถึง content ให้ได้มากที่สุดมากกว่า
แรงจูงใจอีกอย่างหนึ่งของ Microsoft ก็คือ เพื่อให้ Activision Blizzard เป็นผู้นำการพัฒนาแพลตฟอร์ม metaverse ที่จะมีในอนาคต ซึ่งสเปนเซอร์ก็มองว่า ไม่ว่า metaverse จะออกมาเป็นอย่างไร แต่วิดีโอเกมก็จะเป็นด่านหน้าที่สำคัญในการสร้างและพัฒนา metaverse ขึ้นมา
ดีลของ Microsoft ครั้งนี้ เกิดขึ้นเพียงไม่กี่เดือนหลังจากที่ Activision Blizzard โดนวิพากษ์วิจารณ์หนักเรื่องการล่วงละเมิดทางเพศ เมื่อเดือนพฤศจิกายน 2021 ที่ผ่านมา พนักงานของ Activision Blizzard หลายร้อยคนได้กดดันเรียกร้องให้ บ็อบบี โคทิก ลาออกจากตำแหน่ง CEO ของบริษัท และล่าสุด เมื่อวันที่ 17 ม.ค. มีรายงานว่า Activision Blizzard ได้ไล่พนักงานออกไปถึง 37 คน เพื่อแก้ไขปัญหาการล่วงละเมิดทางเพศ
สุดท้ายนี้ ก็ยังไม่แน่ไม่นอนว่าการซื้อขายจะไปสิ้นสุดอย่างไร เพราะยังคงต้องเข้าสู่กระบวนการตรวจสอบตามกฎข้อบังคับต่อไป โดยเฉพาะเมื่อเป็นการซื้อขายที่จะส่งผลให้ลดการแข่งขันในตลาดสหรัฐฯ นักการเมืองทั้งจากพรรคเดโมแครตและรีพับลิกันก็จะจับตาเป็นพิเศษ แต่ Microsoft ก็คาดว่า น่าจะปิดดีลได้เสร็จสิ้นทั้งหมดภายในปี 2023
อ้างอิงจาก
https://www.nytimes.com/2022/01/18/business/microsoft-activision-blizzard.html
https://edition.cnn.com/2021/11/16/tech/activision-blizzard-board-bobby-kotick/index.html