กองทัพของบูร์กินาฟาโซแถลงผ่านโทรทัศน์ ยึดอำนาจรัฐบาลพลเรือนของประธานาธิบดี รอช กาโบเร เมื่อวันจันทร์ที่ 24 ม.ค. ตามเวลาท้องถิ่น หลังจากที่ได้จับกุมตัว ปธน. เอาไว้แล้ว พร้อมกับฉีกรัฐธรรมนูญ ยุบสภา และปิดพรมแดนประเทศ
แถลงการณ์ยึดอำนาจนี้ ซึ่งออกในนามของ ‘คณะผู้รักชาติเพื่อการพิทักษ์และฟื้นฟู’ (Patriotic Movement for Safeguard and Restoration หรือ MPSR) อ้างถึงสถานการณ์ด้านความมั่นคงที่สุ่มเสี่ยงภายในประเทศ และระบุว่า ปธน.กาโบเร ขาดความสามารถในการรับมือกับสถานการณ์และสร้างความปรองดอง
คณะ MPSR ประกาศจะคืนรัฐธรรมนูญให้กับประเทศภายในเวลาอีกไม่นาน หลังจากมีการหารือกับหลายๆ ภาคส่วนในประเทศแล้ว และเปิดเผยว่า จะมีการบังคับใช้เคอร์ฟิวในเวลากลางคืนต่อไป
การรัฐประหารครั้งนี้เกิดขึ้นหลังจากสถานการณ์วุ่นวายภายในประเทศในช่วงวันที่ผ่านมา มีการรายงานเหตุยิงปืนบริเวณค่ายทหาร ขณะที่ผู้ชุมนุมหลักพันคนออกมาประท้วงบนถนนเพื่อเรียกร้องให้ประธานาธิบดีลาออก ซึ่งในขณะนี้ก็ยังไม่ทราบชะตาของ ปธน.กาโบเร
การรัฐประหารครั้งนี้ นับเป็นครั้งที่ 8 ของบูร์กินาฟาโซ เป็นสถิติที่มากที่สุดในแอฟริกา และยังสะท้อนความหมิ่นเหม่ทางการเมืองในทวีป เพราะการยึดอำนาจครั้งนี้ ถือเป็นครั้งที่ 3 ในแอฟริกาตะวันตกในระยะเวลาเพียง 8 เดือน ต่อจากการรัฐประหารในกินีและมาลีเมื่อปีที่ผ่านมา
อ้างอิงจาก
https://www.aljazeera.com/news/2022/1/24/burkina-faso-army-says-it-has-deposed-president-kabore
https://www.axios.com/burkina-faso-coup-global-trend-ab64f57a-d12a-45e5-ba86-5b2a028d6102.html