ค่านิยมเรื่องพรหมจรรย์ นอกจากสังคมไทย ก็ยังมีอีกหลายๆ ประเทศที่ต้องรับมือกับปัญหาที่เกิดจากค่านิยมนี้ โดยเฉพาะเมื่อมีกระบวนการทางการแพทย์อย่าง ‘การผ่าตัดซ่อมแซมเยื่อพรหมจรรย์’ เข้ามาเกี่ยวข้อง ที่สร้างความเสียหายให้กับผู้หญิงทั้งในทางร่างกายและจิตใจ ซึ่งเรื่องนี้ก็เป็นอีกปัญหาหนึ่งที่รัฐบาลอังกฤษพยายามจะแก้ไข
การแบนการผ่าตัดซ่อมแซมเยื่อพรหมจรรย์ หรือที่เรียกว่า ‘hymenoplasty’ รวมทั้งการตรวจพิสูจน์พรหมจรรย์ทางการแพทย์ เป็นนโยบายของรัฐบาลอังกฤษที่ประกาศมาก่อนหน้านี้ และในขณะนี้ ร่างกฎหมายแบน 2 อย่างนี้ ที่จะเพิ่มเติมเข้าไปใน พ.ร.บ. สุขภาพและการดูแล (Health and Care Bill) ก็ได้รับการเสนอเข้าสู่สภาเรียบร้อยแล้ว
ภายใต้กฎหมายใหม่ การผ่าตัดใดๆ ก็ตามที่จะสร้างเยื่อพรหมจรรย์ขึ้นมาใหม่ ถือว่ามีความผิด ไม่ว่าจะได้รับการยินยอมโดยผู้ป่วยหรือไม่ก็ตาม ซึ่งจะมีโทษจำคุกสูงสุดถึง 5 ปี ในอังกฤษและเวลส์
การผ่าตัดซ่อมแซมพรหมจรรย์ ปัจจุบันสามารถทำได้ในคลินิกและโรงพยาบาลเอกชนหลายแห่งในอังกฤษ และอาจจะมีค่าใช้จ่ายสูงถึง 3,000 ปอนด์ หรือราวๆ 133,000 บาท กระบวนการนี้จะเป็นการสร้างเนื้อเยื่อเลียนแบบเยื่อพรหมจรรย์ขึ้นมาใหม่ เสมือนเป็นการ ‘ซ่อมแซม’ เยื่อเดิมที่ฉีกขาดไป
กระบวนการซ่อมแซมเยื่อพรหมจรรย์นี้ รวมทั้งการตรวจพรหมจรรย์ เป็นที่วิพากษ์วิจารณ์โดยผู้เชี่ยวชาญทางการแพทย์หลายฝ่าย ในประเด็นนี้ องค์การอนามัยโลก (WHO) ก็เคยออกมาเตือนว่า อันที่จริง เยื่อพรหมจรรย์ก็ไม่ได้เป็นสิ่งบ่งชี้ว่าเคยมีเพศสัมพันธ์มาแล้วได้เสียทีเดียว
ที่ผ่านมาในอังกฤษ มีความพยายามจากกลุ่มรณรงค์ และผู้เชี่ยวชาญทางการแพทย์ ที่จะกดดันให้กฎหมายห้ามการผ่าตัดประเภทนี้ หลังจากที่รัฐบาลประกาศจะออกกฎหมายห้ามการตรวจพรหมจรรย์มาก่อนหน้านี้แล้ว
จิลเลียน คีแกน รมช.สาธารณสุขของอังกฤษ ระบุว่า การผ่าตัดซ่อมแซมเยื่อพรหมจรรย์ หรือกระทั่งการตรวจพรหมจรรย์ ไม่ควรปล่อยให้มีอยู่ในสังคม โดยเธอจะทำงานร่วมกับรัฐบาลและองค์กรต่างๆ เพื่อจัดการกับปัญหาค่านิยมเรื่องพรหมจรรย์ และจะพยายามสร้างความเปลี่ยนแปลงในเรื่องนี้ต่อไป
อ้างอิงจาก
https://www.bbc.co.uk/news/uk-politics-59960177
https://www.bristolpost.co.uk/news/uk-world-news/virginity-checks-hymen-repair-surgery-6549904