การคุมกำเนิดไม่ใช่หน้าที่ของเพศใดเพศหนึ่ง และนอกจากถุงยางหรือการทำหมันแล้ว ล่าสุดนักวิทยาศาสตร์ในสหรัฐได้ทดลองยาคุมกำเนิดกับหนูเพศผู้ และปรากฎว่ามีประสิทธิภาพสูงถึง 99% ที่สำคัญ ไม่ส่งผลเสียระยะยาวต่อระบบสืบพันธุ์และความแข็งแรงของอสุจิ
นักวิจัยจากมหาวิทยาลัยมินิโซตา ในสหรัฐฯ ได้แถลงการค้นพบในงาน American Chemical Society Spring 2022 ในเมืองซานดิอาโก โดยนักวิจัยได้ทดลองให้ยาแก่หนูเพศชายเป็นเวลา 4 สัปดาห์ และพบว่าจำนวนสเปิร์มในร่างกายของหนูลดลงอย่างมาก แต่ภายหลังหยุดให้ยาและผ่านไป 4-6 สัปดาห์ พบว่าหนูเพศชายตัวดังกล่าวสามารถกลับมาผสมพันธุ์และทำให้เพศเมียตั้งครรภ์ได้อีกครั้ง
แต่คำถามสำคัญคือ มันจะได้ผลในคนเช่นเดียวกับในหนูไหม? กุลดาห์ จอร์จ หัวหน้าทีมวิจัยระบุว่า การทดลองครั้งนี้สำเร็จอย่างสูง และไม่พบอาการข้างเคียงในหนูที่เข้ารับการทดลอง อย่างไรก็ตาม เขายอมรับว่ายังต้องมีการศึกษาเพิ่มเติมสำหรับคน และพวกเขามีแผนจะเริ่มทดลองในคนต่อไปในปลายปีนี้
“แน่นอน พวกเราต้องระมัดระวังในการวิเคราะห์ข้อมูลวิจัยนี้ เพราะเราทดลองในหนู ไม่ใช่คน แต่ไม่ว่าอย่างไร ผลการวิจัยนี้เป็นสัญญาณที่ดีมากๆ” จอร์จกล่าว
นี่ไม่ใช่ความพยายามวิจัยยาคุมในเพศชายครั้งแรก ในทศวรรษ 1990 องค์กรอนามัยโลก หรือ WHO เคยศึกษาว่าการควบคุมสารเทสโทสเทอโรน มีส่วนในการลดจำนวนสเปริมและคุมกำเนิดไหม ก่อนพบว่าการเพิ่มสารดังกล่าวมีส่วนควบคุมจำนวนสเปริม แต่มีผลข้างเคียงทำให้น้ำหนักตัวเพิ่มขึ้น, สิว, ระคายตัว รวมถึงทำให้อารมณ์ฉุนเฉียว ขณะที่งานวิจัยนี้ถูกวิจารณ์ว่าอยู่บนพื้นฐานความไม่เท่าเทียม เพราะยาคุมกำเนิดในเพศหญิงก็มีโอกาสสร้างภาวะหลอดเลือดอุดตันเช่นกัน
ในปัจจุบัน เพศชายมีวิธีการคุมกำเนิด 2 วิธี หนึ่งคือ ทำหมันด้วยการตัดหลอดอสุจิ และสอง ถุงยาง ซึ่งข้อมูลจากองค์กรควบคุมโรคติดต่อสหรัฐฯ หรือ CDC ประเมินว่า การใช้ถุงยางก็มีโอกาสเสี่ยงฉีกขาดหรือรั่วสูงถึง 13%
ถึงแม้ทีมนักวิจัยจะมองว่าการทดลองครั้งนี้คือมุดหมายสำคัญ ในการคุมกำเนิดเพศชาย แต่ ดร.มิเชล ไอเซนเบิร์ก ศาสตร์ตราจารย์ด้านระบบปัสสาวะ มหาวิทยาลัยแสตนฟอร์ด กลับมองในแง่ร้าย เขากล่าวว่า “ถ้ายาทุกตัวที่ทดลองกับหนูมันได้ผล ป่านนี้มะเร็งคงรักษาได้ไปแล้ว”
อ้างอิง:
https://www.nytimes.com/2022/03/25/well/male-birth-control-pills.html
https://www.vice.com/en/article/jgm4m8/male-birth-control-pill