การรุกรานยูเครนโดยรัสเซีย ส่งผลให้บริษัทตะวันตกจำนวนมากทยอยถอนตัวจากรัสเซีย เมื่อสัปดาห์ก่อนแมคโดนัลด์เพิ่งจะประกาศถอนกิจการจากรัสเซีย ก่อนสตาร์บัคส์ ร้านกาแฟแบรนด์ดังระดับโลก จะตามหลังมาติดๆ
“สตาร์บัคส์ตัดสินใจแล้วว่าจะถอนตัวจากประเทศรัสเซีย และจะไม่พบแบรนด์เราในตลาดอีกต่อไป” คือข้อความส่วนหนึ่งจากแถลงการณ์ของสตาร์บัคส์ ที่เพิ่งประกาศเมื่อวันที่ 23 พ.ค. ที่ผ่านมา
โดยพนักงานชาวรัสเซียประมาณ 2,000 คน จะได้รับค่าแรงเป็นระยะเวลา 6 เดือน และสตาร์บัคส์ระบุว่าจะสนับสนุนให้พนักงานเหล่านี้หางานใหม่
จริงๆ แล้ว สตาร์บัคส์ประกาศหยุดส่งผลิตภัณฑ์ของแบรนด์ไปรัสเซีย และหยุดการดำเนินกิจการในรัสเซียชั่วคราวตั้งแต่ 8 มี.ค. ที่ผ่านมา หลังออกมาประณามการรุกรานยูเครนว่าไร้เหตุผลและอยุติธรรมเพียงไม่กี่วัน
สตาร์บัคส์เปิดในที่รัสเซียครั้งแรกเมื่อปี 2550 และให้บริการมาแล้ว 15 ปี โดยมี 130 สาขาทั่วประเทศ อย่างไรก็ดี รายได้จากธุรกิจในรัสเซียถือเป็นสัดส่วนน้อยกว่า 1% ของรายได้ประจำปีของบริษัท และทางสตาร์บัคส์ก็ไม่ได้ออกมาให้รายละเอียดถึงผลกระทบทางการเงินจากการถอนตัวครั้งนี้
นอกจากนี้ เควิน จอห์นสัน (Kevin Johnson) อดีตซีอีโอระบุไว้ว่า จะบริจาคค่าลิขสิทธิ์ใดๆ ที่ได้จากการดำเนินกิจการในรัสเซียให้แก่องค์กรด้านมนุษยธรรมเพื่อช่วยเหลือยูเครน และได้บริจาคเงินเพื่อช่วยเหลือยูเครนจำนวน 500,000 ดอลลาร์ โดยบริจาคให้องค์กรกาชาด และ เวิล์ด เซ็นทรัล คิทเช่น ซึ่งเป็นองค์กรไม่แสวงหากำไรที่ช่วยเหลือด้านอาหารในช่วงภัยพิบัติ
สตาร์บัคส์ในรัสเซียไม่ได้ถูกบริหารจัดการโดยสำนักงานใหญ่สตาร์บัคส์ แต่อัลชายา กรุ๊ป (Alshaya Group) คือบริษัทที่ได้รับอนุญาตให้เป็นเจ้าของและบริหารกิจการสตาร์บัคส์ในรัสเซีย โดยทางอัลชายา กรุ๊ป เผยว่าการตัดสินใจถอนตัวนี้เป็นประกาศจากทางสตาร์บัคส์ แต่ยังไม่เปิดเผยว่าจะขายร้านทิ้ง หรือเปิดภายใต้แบรนด์ใหม่
นายกเทศมนตรีกรุงมอสโกเคยคาดการณ์ไว้ว่า ประชาชนประมาณ 200,000 คนในเมือง กำลังเสี่ยงที่จะตกงาน หลังบริษัทตะวันตกจำนวนมากเริ่มทยอยถอนตัวออกจากตลาดรัสเซีย
อ้างอิงจาก
https://stories.starbucks.com/press/2022/update-to-starbucks-partners-on-our-business-in-russia/
https://edition.cnn.com/2022/05/23/business-food/starbucks-russia/index.html
https://www.bbc.com/news/business-61555306