วันนี้ (22 ก.ค. 65) ชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอีเอส) ลุกขึ้นชี้แจงถึงประเด็นการใช้งานสปายแวร์ ‘เพกาซัส’ อีกครั้ง ว่า สิ่งที่ตนได้ชี้แจงไปตั้งแต่วันแรกของการอภิปรายไม่ไว้วางใจ (19 ก.ค. 65) นั้นถูกบิดเบือน เขาไม่ได้จะบอกว่ามีในประเทศไทย เพียงแต่บอกว่าศึกษาและรู้ว่ามีระบบนี้อยู่เท่านั้น
“ผมไม่ได้พูดว่ามีนะ ผมพูดว่าแค่ศึกษาอยู่และรู้ว่ามีระบบนี้ ถูกใช้ในเรื่องความมั่นคงและเรื่องยาเสพติด จับก่อการร้าย แอบฟังคนค้ายาเสพติด อันนี้มันมี แต่ผมไม่ได้บอกว่ามันมีในเมืองไทยนะครับ ผมไม่ได้พูดว่ามีในระบบราชการ” ชัยวุฒิ ชี้แจง
ชัยวุฒิ กล่าวชี้แจงต่อว่า “ผมพูดว่ามี เคยเห็นเคยได้ยินอยู่ และยืนยันว่าในกระทรวงผมไม่ได้มี ไม่ได้ทำ ในส่วนรัฐบาลทำก็ไม่มีเพราะอำนาจตามกฎหมายไม่มี แต่พวกคนบางกลุ่มก็บิดเบือนหาว่าผมยอมรับว่ามี ซึ่งในความหมายของผมคือ ผมรู้ว่ามันมี มีใช้อยู่ในประเทศ ก็มีจริงมีขายอยู่ แต่ไม่ได้มีในประเทศไทย”
ทั้งนี้ เขาทิ้งท้ายไว้ด้วยว่าอย่าบิดเบือนสิ่งที่เขาพูด ให้ทำสิ่งที่มีประโยชน์ดีกว่า “ก็อย่าบิดเบือนให้เกิดความสับสนเลย ไปพูดเรื่องที่มันสร้างสรรค์และเกิดประโยชน์ดีกว่า” ชัยวุฒิระบุ
ที่ต้องมาชี้แจงว่าตนถูกบิดเบือนคำชี้แจง ก็เพราะในวันแรกของการอภิปรายไม่ไว้วางใจ (19 ก.ค. 65) ชัยวุฒิได้ตอบข้ออภิปรายถึงประเด็นการใช้งานสปายแวร์ ‘เพกาซัส’ ในการสอดแนมประชาชน ไว้ว่า “เท่าที่ผมทราบ มันจะเป็นงานด้านความมั่นคงหรือด้านยาเสพติด ถ้าต้องไปจับคนร้ายยาเสพติด ท่านก็ต้องดักฟังว่าเขาจะส่งยาที่ไหนอะไรอย่างนี้นะครับ ผมเข้าใจว่ามีการใช้ลักษณะแบบนี้ แต่มันลิมิตมาก มันต้องเป็นเรื่องที่เกี่ยวกับคดีพิเศษ คดีสำคัญ ที่ต้องดักฟังพวกค้ายาเสพติด ผมก็ได้ยินว่ามี”
และในวันนั้น เขาย้ำด้วยว่า หน่วยงานของตนไม่ได้ดูแลเรื่องนี้ เพราะในอำนาจของรัฐบาล ตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ฯ ซึ่งเป็นอำนาจของกระทรวงดีอีเอส หรือในการบริหารเรื่องความมั่นคงทางไซเบอร์ (cyber security) กระทรวงฯ ก็ไม่ได้มีอำนาจทำเรื่องนี้ ขณะเดียวกัน ก็ทราบว่ายังมีอำนาจส่วนอื่นๆ ที่สามารถกระทำได้
สปายแวร์ ‘เพกาซัส’ คือสปายแวร์ที่ถูกใช้เจาะเพื่อสอดแนมความเคลื่อนไหวผ่านโทรศัพท์ และเพิ่งถูกเปิดเผยโดย iLaw, DigitalReach และ The Citizen Lab เมื่อวันที่ 18 ก.ค. 65 ที่ผ่านมาว่า มีประชาชนไทยอย่างน้อย 30 รายถูกเจาะด้วยเพกาซัส และเขาเหล่านั้นคือ นักกิจกรรม Ngo และนักวิชาการที่มักมีบทบาทในการชุมนุม
อ้างอิงจาก
‘ชัยวุฒิ’ รับ มีการใช้สปายแวร์จริง แต่เป็นเรื่องความมั่นคง-ยาเสพติด กระทรวงดีอีเอสไม่ได้เป็นคนทำ