เมื่อการดื่มเหล้าน้อยเกินไปกลายเป็นปัญหาระดับชาติ หลังหน่วยงานจัดเก็บภาษีแห่งชาติญี่ปุ่น (National Tax Agency หรือ NTA) พบว่า คนรุ่นใหม่ดื่มแอลกอฮอล์กันน้อยลง จนกระทบกับการเก็บภาษีที่ลดน้อยตามลงไป
จนทำให้ NTA ต้องหันมาเปิดแคมเปญขอรับไอเดียวิธีกระตุ้นการบริโภค ภายใต้ชื่อว่า ‘Sake Viva!’ หรือ ‘สาเกจงเจริญ!’ โดยจะเปิดช่องให้ประชาชนอายุ 20-39 ปี สามารถเสนอวิธีกระตุ้นการขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ทุกประเภท ทั้งเหล้า เบียร์ ไวน์ สาเก และโชจู
แคมเปญนี้จะเปิดรับไอเดียไปเรื่อยๆ จนถึงวันที่ 9 ก.ย. 2565 สิ่งที่ NTA อยากได้ คือ ‘ผลิตภัณฑ์และการออกแบบใหม่ๆ’ การรณรงค์ให้ดื่มมากขึ้นในครัวเรือน การทำแบรนดิ้ง โปรโมชั่น หรือแม้กระทั่งวิธีกระตุ้นการขายด้วย AI หรือเมตาเวิร์ส โดยที่ไอเดียที่ชนะเลิศจะได้รับการสนับสนุนให้เกิดขึ้นจริงในเชิงพาณิชย์
สำหรับที่มาที่ไป NTA บอกว่า ที่ผ่านมา คนดื่มแอลกอฮอล์มีจำนวนลดน้อยถอยลง สาเหตุมาจากพฤติกรรมที่เปลี่ยนไปหลังการระบาดของ COVID-19 ประกอบกับประชากรสูงอายุและอัตราการเกิดที่ลดลง ถ้าเทียบการบริโภคแอลกอฮอล์ในปี 2563 กับปี 2538 ก็พบว่า ปริมาณเฉลี่ยต่อคนลดลงจาก 100 ลิตร เป็น 75 ลิตรเลยทีเดียว
“เมื่อมีการทำงานจากบ้านนานขึ้นเรื่อยๆ ในช่วงวิกฤต COVID-19 หลายคนก็ตั้งคำถามว่าจะต้องดื่มต่อไปเพื่อพัฒนาความสัมพันธ์กับเพื่อนร่วมงานอีกหรือไม่ ถ้า ‘นิวนอร์มอล’ นี้หยั่งรากลึก ก็จะยิ่งส่งผลกระทบต่อการเก็บภาษี” เจ้าหน้าที่จาก NTA เคยให้สัมภาษณ์กับสื่อ
และแน่นอนว่า ภาษีที่เก็บได้ก็น้อยลงจริงๆ ข้อมูลจากหนังสือพิมพ์ The Japan Times ระบุว่า ในปี 2523 ภาษีจากแอลกอฮอล์เคยคิดเป็น 5% ของภาษีทั้งหมด แต่ในปี 2563 กลับเหลือแค่ 1.7% ซึ่งในปีนั้น NTA ยังบอกว่า เก็บภาษีจากแอลกอฮอล์ได้น้อยลง 1.1 แสนล้านเยน ถ้าเทียบกับปีก่อนหน้านั้นอีกด้วย
อ้างอิงจาก
https://www.bbc.com/news/world-asia-62585809