เฉิงตู หนึ่งในเมืองใหญ่ของประเทศจีน สั่งล็อกดาวน์ประชากรหลายสิบล้านคน เป็นเวลา 4 วัน พร้อมกับที่ทางการจะตรวจหาเชื้อในประชาชนที่อาศัยอยู่ในเมืองทั้งหมดด้วย
การล็อกดาว์นนี้เริ่มตั้งแต่วันพฤหัสบดีที่ 1 กันยายน เวลา 18.00 น. ไปจนถึงวันอาทิตย์ที่ 4 กันยายน พร้อมกับที่นี้ทางการยังจะตรวจหาเชื้อผู้มีชื่ออาศัยในเมืองทั้งหมด
ตามประกาศของทางการระบุว่า “ด้วยสถานการการควบคุมโรคไม่ปกติ มีความซับซ้อน และอันตราย จึงจำเป็นอย่างยิ่งต้องควบคุมการระบาดอย่างเข้มงวดเฉียบขาด และรับประกันสุขภาพของพลเรือนทั้งหมด”
ยอดผู้ติดเชื้อในเมืองเฉิงตู เมื่อวันที่ 1 กันยายนนี้ อยู่ที่ 157 คน ในจำนวนนี้ มีคนไม่มีอาการ 51 คน แต่ตามมาตรการล็อกดาว์นของเฉิงตูคือ สั่งให้ประชาชนอยู่ในบ้านพักหรือเคหสถานตามระเบียบของทางการ ห้ามเดินทางออกจากเมือง หากไม่มีเหตุจำเป็นอย่างถึงที่สุด
นอกจากนี้ ทางการยังประกาศให้สมาชิกในบ้านแต่ละหลัง หลังละ 1 คน ออกมาซื้ออาหารและข้าวของเครื่องใช้ที่จำเป็น โดยบุคคลนั้นจะต้องมีผลตรวจเป็นลบ ภายใน 24 ชั่วโมงก่อนหน้า
ขณะที่ พนักงานบางส่วนก็ถูกขอให้ทำงานจากที่บ้าน และขอเรียกร้องให้ประชาชนไม่ออกจากเมืองเว้นแต่จำเป็น ส่วนผู้อยู่อาศัยที่ต้องออกจากบริเวณที่อยู่อาศัยเพื่อเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลหรือความต้องการพิเศษอื่นๆ ต้องได้รับการอนุมัติจากเจ้าหน้าที่ในบริเวณใกล้เคียง
เฉิงตูเป็นเมืองที่ใหญ่ที่สุดที่ถูกล็อกดาวน์มา นับตั้งแต่ที่เมื่อช่วงต้นปีที่ผ่านมา เซี่ยงไฮ้ก็สั่งล็อกดาว์นเมืองไป 2 เดือน ซึ่งสำหรับเฉิงตูนี้ยังไม่แน่ชัดว่าจะทางการจะยกเลิกการล็อกดาวน์ หลังจากดำเนินโครงการทดสอบจนแล้วเสร็จในวันที่ 4 กันยายนนี้หรือไม่
ยิ่งกว่านั้น เฉิงตู ซึ่งเป็นเมืองหลวงของมณฑลเสฉวน อันเป็นมณฑทลที่เผชิญกับปัญหาความแห้งแล้งและคลื่นความร้อนที่รุนแรงจนทำลายแหล่งจ่ายพลังงานของภูมิภาค ถือเป็นอีกปัจจัยที่เพิ่มแรกกดดันให้กับประชาชนในเมืองแห่งนี้
การล็อกดาวน์เฉิงตู ยิ่งสะท้อนให้เห็นถึงนโยบาย ‘ZERO COVID-19’ ที่ถูกนำมาปฏิบัติใช้ในการควบคุมโรค COVID-19 ตามเมืองต่างๆ แม้ว่านโยบายนี้จะส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจของจีนและเศรษฐกิจโลกเป็นอย่างหนักก็ตาม