เมื่อวานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด (ป.ป.ส.) มีการแถลงข่าวการจับกุมยาเสพติดที่แม้ไม่ใช่จำนวนมาก แต่กลับน่าสนใจ เพราะมันเป็นครั้งแรกที่ทาง ป.ป.ส. สามารถยึด ‘เฟนทานิล (Fentanyl)’ ผิดกฎหมายได้เป็นครั้งแรกในประเทศไทย
คำแถลงของ วิชัย ไชยมงคล เลขาฯ ป.ป.ส. กล่าวว่าเฟนทานิลเป็นยาเสพติดประเภท 2 ตามบัญชียาเสพติดของไทย ที่สำคัญมันมี “ความรุนแรงกว่าเฮโรฮีน 50 เท่า และมากกว่ามอร์ฟีน 100 เท่า” พร้อมย้ำว่า “ถ้าพลาดไปสัมผัสทำให้เฟนทานิลสามารถซึมเข้าร่างกาย อันตรายถึงขั้นเสียชีวิตได้เลย”
คำถามน่าสนใจคือ ยาเสพติดชื่อไม่คุ้นหูนี้คืออะไร มันถูกใช้อย่างไรในต่างประเทศ และเพียงสัมผัสทำให้เสียชีวิตได้เลยจริงไหม
#อะไรคือเฟนทานิล
เฟนทานิลถูกบรรจุอยู่ในบัญชียาเสพติดประเภท 2 ของไทย หรือเป็นยาประเภทที่ต้องมีใบอนุญาตใช้และจำหน่าย เฟนทานิลเป็นยากลุ่มโอปิออยด์ (Opioid) หรือกลุ่มที่มีส่วนผสมของฝิ่น มีฤทธิ์ระงับอาการเจ็บปวดขั้นรุนแรง แพทย์มักจ่ายให้แก่ผู้ที่เข้ารับการผ่าตัดใหญ่, มีอาการปวดเรื้อรัง หรือผู้ที่เป็นโรคมะเร็ง
กฎหมายยาเสพติดไทยกำหนดโทษไว้ว่า ผู้ที่ผลิต นำเข้า ส่งออก จำหน่าย หรือครอบครองเฟนทานิลโดยไม่ได้รับอนุญาต มีโทษจำคุกไม่เกิน 10 ปี และปรับไม่เกิน 1,000,000 บาท
#เฟนทานิลถูกใช้อย่างไร
บุคลากรสาธารณสุขนั้นใช้เฟนทานิลมาเป็นเวลานานแล้ว แต่กลุ่มผู้ค้ายาเสพติดก็รู้จักมันมานานพอกัน มีรายงานว่ามีการผสมเฟนทานิลในยาเสพติดครั้งแรกในปี 1979 และในปัจจุบันมักพบใน เฮโรอีน หรือถูกใช้เป็นหนึ่งในส่วนผสมมั่วๆ เข้ากับยาชนิดอื่น และถูกขายตามข้างถนน (ยามั่วๆ พวกนี้แรงมาก)
แม้คนไทยอาจไม่คุ้นหูนัก แต่ในสหรัฐฯ เฟนทานิลกำลังระบาดอย่างรุนแรง โดยข้อมูลจาก ตม. สหรัฐฯ ชี้ว่า ในปี 2019 พวกเขายึดเฟนทานิลได้ 1,270 กก. แต่ในปี 2021 กลับยึดได้เพิ่มขึ้น 4 เท่า เป็น 5,080 กก. และแค่เดือนกันยายนปี 2022 ก็ยึดมาได้แล้ว 4,808 กก. สวนทางกับยอดการยึดเฮโรอีนที่ลดลงถึง 4 เท่าเทียบกับปี 2019
รายงานชี้ว่าแหล่งผลิตเฟนทานิลขนาดใหญ่อยู่ในประเทศจีน, เม็กซิโก และอินเดีย ก่อนส่งเข้ามาในสหรัฐฯ ในรูปแบบของยาเม็ดหรือผง ด้านเว็บไซต์ Insight Crime เผยแพร่วิธีการลักลอบนำเข้าเฟนทานิลผ่านชายแดนเม็กซิโก-สหรัฐฯ ผ่านบทสัมภาษณ์ผู้หญิงรายหนึ่ง เธอเล่าว่ามันเป็นวิธีที่แสนง่ายดาย คือเธอจะใส่เฟนทานิลไว้ในถุงก่อนเหน็บมันไว้ใต้พุงที่เป็นชั้นของเธอ (เธอเป็นคนอ้วน) ก่อนเดินข้ามชายแดนมาเรื่อยๆ เธอเผยว่ากลุ่มพ่อค้ายาข้ามชาติในเม็กซิโกนิยมจ้างผู้หญิงอ้วนให้ขนยาด้วยวิธีนี้ และในปีที่แล้ว เธอคนเดียวขนเฟนทานิลผิดกฎหมายเข้าสหรัฐฯ มากถึง 450,000 เม็ด
แล้วทำไมเฟนทานิลถึงน่ากังวลนัก.. คำตอบอยู่ในคำแถลงของเลขาฯ ป.ป.ส. ที่ว่า เฟนทานิลมีฤทธิ์แรงกว่าเฮโรอีน 50 เท่าและมอร์ฟีน 100 เท่า
รายงานจากสหรัฐฯ เกี่ยวกับแนวโน้มภาวะโอเวอร์โดสยาเสพติดพบว่า ตั้งแต่เดือน พฤษภาคม ปี 2020 จนถึงเดืนเมษายน ปี 2021 มีผู้เสียชีวิตจากภาวะโอเวอร์โดสมากกว่า 100,000 ราย และ 64% ของจำนวนผู้เสียชีวิตมีสาเหตุจากเฟนทานิลและสารที่มีโครงสร้างเคมีใกล้กับเฟนาทีล
สาเหตุหนึ่งคือ ผู้ใช้ยาเสพติดจึงไม่รู้ว่ายาที่ตัวเองใช้อยู่มีส่วนผสมของเฟนทานิล ดังนั้น มันทำให้พวกเขาเกิดอาการโอเวอร์โดสโดยไม่รู้ตัว ทั้งที่ใช้ยาเสพติดในปริมาณที่เท่ากับที่เคยใช้ หรือมากกว่าที่ใช้เล็กน้อย
#สัมผัสแล้วตายจริงไหม
แม้เฟนทานิลจะมีความรุนแรงถึงแก่ชีวิตจริง แต่ประโยคที่ ป.ป.ส. กล่าวว่า “ถ้าพลาดไปสัมผัสทำให้เฟนทานิลสามารถซึมเข้าร่างกาย อันตรายถึงขั้นเสียชีวิตได้เลย” เป็นชุดข้อมูลที่น่าสนใจว่าถูกต้องแค่ไหน
ในปี 2016 ป.ป.ส. สหรัฐฯ ได้เผยแพร่ชุดข้อมูลที่คล้ายกันนี้เช่นกัน โดยระบุว่า “เฟนทานิลเพียงปริมาณเล็กน้อย ไม่ว่าผ่านการกลืนหรือทางผิวหนัง มันสามารถฆ่าคุณได้เลย” (พูดคล้ายกันเลยเนอะ) ก่อนที่ข้อความดังกล่าวจะถูกหลายฝ่ายแย้ง และ ป.ป.ส. สหรัฐฯ ค่อยลบข้อความดังกล่าวออกไป
“คุณไม่มีทางโอเวอร์โดสหรือมีอาการเพียงเพราะอยู่ใกล้หรือสัมผัสเฟนทานิล” ดร.ซาลาร์ เวกแมน ผู้อำนวยการด้านการการแพทย์จากศูนย์บำบัดการใช้ยาเสพติดในบอสตันกล่าว เพราะถ้าสัมผัสแล้วมีโอกาสเสียชีวิต คนในระบบสาธารณสุขไม่ว่าแพทย์, พยาบาล, นักเทคนิค คงโอเวอร์โดสจากเฟนทานิลกันหมดแล้ว
นอกจากนี้ ยังมีงานวิจัยจากมหาวิทยาลัยเคมบริดจ์ ที่ได้ทดลองเอามืออังเฟนทานิลและยืนยันผลการวิจัยว่า “มีความเสี่ยงน้อยมากที่จะดูดซึมเฟนทานิลผ่านการใกล้ชิดในระยะสั้น” รวมถึงแถลงการณ์จากมหาวิทยาลัยแพทย์ของสหรัฐฯ ที่ยืนยันว่า การสัมผัสเฟนทานิล “เป็นไปได้น้อยมาก” ที่จะเกิดการโอเวอร์โดส และเสริมว่าถึงเป็นไปได้ก็มีโอกาสกำจัดมันออกทันอยู่ดี
อย่างไรก็ตาม ชุดข้อมูลดังกล่าวได้สร้างสิ่งที่นักวิจัยเรียกว่าอาการ “ผวาเฟนทานิล” เพราะมันถูกแชร์ไปไปในเฟซบุ๊กมากกว่า 450,000 ครั้ง เข้าถึงยูสเซอร์มากกว่า 70,000,000 แอคเคาท์ และสื่อเองก็ยังผลิตเป็นบทความมากกว่า 551 ชิ้น จากการเก็บข้อมูลของสถาบันสุขภาพแห่งชาติสหรัฐฯ (NIHS)
หรือแปลได้ว่าถ้ามันเป็นข้อมูลที่ผิด มันได้สร้างความเข้าใจผิดอย่างใหญ่หลวง และเป็นการให้ข้อมูลที่ผิดพลาดครั้งใหญ่ทั้งจากสื่อมวลชนและภาครัฐสหรัฐฯ
“ความกลัวอาจทำให้การช่วยเหลือ (ผู้ใช้ยาเสพติด) ช้าเกินไป หรืออาจให้ผลลัพธ์ที่แย่กว่านั้น” เวกแมนย้ำผ่านเว็บไซต์ Today
#ไทยควรกังวลแค่ไหน
ตามรายงานของ ป.ป.ส. ในปี 2021 ยาชนิดหลักที่แพร่หลายในไทยยังเป็นยาบ้า, ไอซ์, กัญชา และเฮโรอีน ตามลำดับ โดยยาบ้ายังคงครองจำนวนผู้ติดยาเสพติดมากถึง 75% เทียบกับลำดับสองที่ไอซ์ 8.6% เท่านั้น จึงพูดได้ว่า ‘ยาบ้า’ ยังคงเป็นยาเสพติดที่ไทยยังต้องรับมือเป็นหลัก
แต่ยังน่ากังวลอยู่ไม่น้อย เพราะยอดการจับเฮโรอีนในปี 2020 เทียบกับปี 2021 พบว่ามีการเพิ่มขึ้น 77% และเพิ่มขึ้นกว่า 10 ปีที่แล้วถึงเกือบ 30 เท่าตัว ซึ่งตรงนี้มองได้สองมุม คือทางการไทยมีข้อมูลการลำเลียงยาเสพติดที่ดีขึ้น หรือจำนวนพ่อค้ายาเสพติดทั่วโลกเพิ่มขึ้น
ไม่มีใครรู้ว่ากลุ่มพ่อค้ายาเสพติดกำลังวางแผนมาเก็ตติ้งอย่างไร และเฟนทานิลอาจแทรกซึมเข้ามาในสังคมไทยแล้วก็เป็นไปได้ และยิ่งไทยเอง ประเทศที่มีตำแหน่งที่ตั้งเป็นจุดศูนย์กลางของการขนส่งในภูมิภาอาเซียนพอดี จึงเป็นไปได้ว่าในอนาคต ไทยจะกลายเป็นหนึ่งจุดที่พ่อค้ายานำเฟนทานิลเข้ามาตีตลาด หรือกลายเป็นศูนย์กลางขนส่งก็ได้
เป็นโจทย์ของรัฐบาล ภาครัฐ และทั้งสังคมว่า เราจะรับมือกับปัญหายาเสพติดที่เป็นภัยคุกคามสังคมไทยมาเป็นเวลานานอย่างไร ด้วยวิธีไหน และด้วยมุมมองแบบไหน
อ้างอิง:
https://www.bangkokbiznews.com/news/1026965
https://mnfda.fda.moph.go.th/narcotic/?p=4848
https://insightcrime.org/news/fentanyl-drives-us-opioid-market/
https://www.vice.com/en/article/93bb88/why-so-much-fentanyl-is-being-seized-at-the-border
https://www.cbp.gov/newsroom/stats/drug-seizure-statistics
https://www.ncbi.nlm.nih.gov/pmc/articles/PMC7492952/
https://www.oncb.go.th/DocLib/ผลการปราบปรามยาเสพติดทั่วประเทศ%20ปี%202564.pdf