นางเงือกผิวขาวซีด ตาสีฟ้า ผมแดง ผู้ช่างฝัน ไร้เดียงสา และยังเป็นเพื่อนกับสัตว์ทะเลมากมาย ผู้นามว่าแอเรียล กลายเป็นภาพจำ และที่ชื่นชอบของเด็กๆ หลายคนทั่วโลกมานานมากกว่า 30 ปีแล้ว
แต่เมื่อดิสนีย์ประกาศสร้าง The Little Mermaid ฉบับคนแสดง ก็หนีไม่พ้นข้อถกเถียงที่เกิดขึ้น เมื่อผู้ที่จะมารับแอเรียล เป็นชาวอเมริกัน-แอฟริกัน แทนที่จะเป็นสาวผมแดง ผิวขาว ตามฉบับดั้งเดิมของแอนิเมชัน
ประเด็นนักแสดงที่มารับบทแอเรียล เป็นกระแสมาตั้งแต่ปี 2019 และจะวนเวียนกลับมาทุกครั้งที่ดิสนีย์ปล่อยตัวอย่างภาพยนตร์เรื่องนี้ออกมา ซึ่งผู้คนมักจะออกมาแสดงความคิดเห็นเสมอทั้งชอบและไม่ชอบ
จึงไม่ใช่เรื่องที่คาดเดาไม่ได้ เพราะเมื่อไม่กี่วันก่อน (15 กุมภาพันธ์) ดิสนีย์เพิ่งปล่อยตัวอย่างที่ 2 ของ The Little Mermaid ออกมา ประเด็นเรื่องนี้ก็กลับมาอีกครั้ง The MATTER เลยขอสรุปประเด็นที่เกิดขึ้นมาให้อ่านกัน
1. เรื่องราวเริ่มต้นขึ้นตั้งแต่เดือนพฤษภาคม 2016 หลังมีรายงานออกมาว่า ดิสนีย์กำลังพัฒนา The Little Mermaid ฉบับคนแสดงที่ดัดแปลงมาจากฉบับแอนิเมชันปี 1989 หลังจากข่าวลือนี้เผยแพร่ออกมา ผู้คนก็ต่างเฝ้ารอและลุ้นว่าใครจะมารับบทเป็นตัวละครนำของเรื่องนี้บ้าง แต่ความสนใจล้วนถูกเทไปที่ตัวละครแอเรียลมากที่สุด อย่างไรก็ดี ข่าวลือเรื่องนี้หายเงียบไปนานหลายปี
2. ต่อมาในวันที่ 3 กรกฎาคม 2019 ทวิตเตอร์ของวอลต์ดิสนีย์สตูดิโอส์ (Walt Disney Studios) ประกาศว่า ฮัลลี เบลลีย์ (Halle Bailey) นักร้อง และนักแสดงชาวอเมริกัน-แอฟริกัน จะเป็นผู้มารับบทแอเรียลใน The Little Mermaid ฉบับคนแสดง และจะเริ่มถ่ายทำภาพยนตร์ในต้นปี 2020 ทันที
และในวันถัดมา (4 กรกฎาคม 2019) เบลลีย์โพสต์รูปแอเรียลผมดำ และสีผิวเข้ม พร้อมกับแคปชั่น “ความฝันที่เป็นจริง” ลงในทวิตเตอร์ และไอจีของเธอ ซึ่งมีผู้คนมาแสดงความยินดีกับเธออย่างท่วมท้นมากมาย อาทิ เซ็นเดยา, มารายห์ แครี, แฮลลี เบร์รี และ คริสซี ทีเกน รวมทั้งเหล่าแฟนๆ ของเธอ โดยพวกเขาระบุว่าเธอเหมาะสมกับบทบาทนี้ที่สุดแล้ว
3. แต่ในวันเดียวกันนั้นขณะที่ชาวอเมริกันกำลังเฉลิมฉลองวันประกาศอิสรภาพ ด้วยบาร์บีคิว ดอกไม้ไฟ แฮชแท็ก #NotMyAriel และ #NotMyMermaid ก็เริ่มติดเทรนด์บนทวิตเตอร์ หลังจากการประกาศของดิสนีย์ที่ให้เบลลีย์มารับเป็นเงือกสาวแอเรียล และการออกมาแสดงความดีใจของเบลลีย์เมื่อได้รับบทบาทนี้
โดยในแฮชแท็ก แฟนๆ ของดิสนีย์ต่างแสดงความไม่พอใจที่เบลลีย์ได้รับบทเป็นแอเรียล ทั้งยังขู่ว่าจะคว่ำบาตรภาพยนตร์เรื่องนี้ เพราะดิสนีย์ทำลายความทรงจำในวัยเด็กของพวกเขา และยังเป็นการไม่เคารพต้นฉบับเดิมซึ่งมีต้นกำเนิดมาจากนิทานพื้นบ้านสแกนดิเนเวียที่แอเรียลมีภาพจำเป็นผู้หญิงผิวขาวซีด ตาสีฟ้า ผมสีแดง
ตัวอย่างการแสดงความคิดเห็นของผู้คน “เราในฐานะผู้หญิงผิวขาว ที่เติบโตมากับ The Little Mermaid ต้องการแอเรียลผิวขาวที่ตรงตามต้นฉบับ ดิสนีย์ทำผิดมหันต์ที่ให้ ฮัลลี เบลลีย์ มารับบทนี้ เพราะท้ายที่สุดแล้วเรื่องนี้จะกลายเป็นผลงานขยะ” หรือ “ขอบคุณมากที่ทำลายเจ้าหญิงคนโปรดของฉัน เธอสวยนะ แต่เธอไม่เหมือนแอเรียลเลยสักนิด”
4. หลังจากการถกเถียงที่เกิดขึ้นในโลกอินเทอร์เน็ต ผู้กำกับ ร็อบ มาร์แชล (Rob Marshall) ได้ออกมาตอบโต้กับประเด็นที่เกิดขึ้น โดยเขาระบุว่า หลังจากการค้นหานักแสดงมากมายสำหรับภาพยนตร์รีเมค
“เป็นที่ชัดเจนอย่างมากว่าเบลลีย์เป็นการผสมผสานที่หาได้ยากระหว่างจิตวิญญาณ จิตใจ ความเยาว์วัย ความไร้เดียงสา บวกกับเสียงร้องเพลงที่ไพเราะของเธอ ซึ่งล้วนเป็นคุณสมบัติที่แท้จริงในการรับบทตัวละครดิสนีย์อันเป็นสัญลักษณ์นี้”
5. ทางดิสนีย์ยังไม่เคยออกมาตอบโต้กับกระแสการต่อต้านเบลลีย์ที่เกิดขึ้น แต่ Freeform ซึ่งเป็นบริษัทเครือข่ายทีวีของดิสนีย์ ออกแถลงการณ์เพื่อปกป้องการตัดสินใจของดิสนีย์ในการเลือกเบลลีย์มารับบทนี้ โดยพวกเขาโพสต์ลงในอินสตราแกรมในหัวข้อที่ว่า ‘จดหมายเปิดผนึกถึงคนที่น่าสงสาร และดวงวิญญาณที่โชคร้าย’
เนื้อหาในจดหมายมีเนื้อความว่า ในขณะที่ ฮันส์ คริสเตียน แอนเดอร์เซน (Hans Christian Andersen) ผู้เขียนดั้งเดิมชาวเดนมาร์กของเทพนิยายนี้เคยระบุว่า “แอเรียล…คือนางเงือก และเป็นตัวละครในนิยาย และถึงแม้ว่าแอเรียลจะเป็นชาวเดนมาร์ก แต่นางเงือกเดนมาร์กก็สามารถมีผิวสีดำได้ เพราะคนเดนมาร์กก็สามารถเป็นคนผิวดำได้เช่นกัน”
นอกจากนี้ พวกเขายังเสริมว่า “คนผิวดำเป็นชาวเดนมาร์กได้ และด้วยเหตุนี้ ชาวเงือก (Merfolk) ก็สามารถมีผมสีแดงตามพันธุกรรมได้เช่นกัน” และ “แต่พวกคุณก็อาจจะยังไม่สามารถปล่อยผ่านความคิดที่ว่า ฮัลลี เบลลีย์ผู้น่าทึ่ง และมีพรสวรรค์ ได้รับบทแอเรียล ..เพราะแค่เธอดูไม่เหมือนในการ์ตูน”
6. อย่างไรก็ดี ประเด็นการถกเถียงในเรื่องนี้ได้เงียบหายไป แต่เมื่อวันที่ 10 กันยายน 2022 ทางดิสนีย์ปล่อยตัวอย่างแรกของ The Little Mermaid ที่งาน D23 Expo ซึ่งในตัวอย่างภาพยนตร์ เราจะเห็นเบลลีย์ หรือแอเรียล กำลังแวกว่ายน้ำอยู่ใต้ทะเลด้วยผมสีแดงยาวสวย พร้อมกับร้องเพลง Part of Your World ที่เป็นเพลงไอคอนนิคของแอเรียล แต่วิดิโอตัวอย่างดังกล่าวได้รับการกดไม่ชอบมากกว่าหนึ่งล้านครั้งบนยูทูป
7. ผู้กำกับ ร็อบ มาร์แชล ให้สัมภาษณ์กับสื่อในงานเดียวกันว่าทำไมเขาถึงเลือกเบลลีย์ให้รับบทนี้ “ผมจำได้ว่าเคยเห็นเธอที่งานประกาศรางวัลแกรมมี่ เลยลองชวนเธอให้มาแคสบทแอเรียล และเมื่อเธอร้องเพลง Part Of Your World ผมก็น้ำตาไหลทันที และคิดว่า เธอช่างล้ำลึก สะเทือนอารมณ์ และงดงามเหลือเกิน เบลลีย์ตั้งคานไว้สูงมาก และไม่มีใครเคยข้ามคานนั้นไปได้”
นอกจากนี้ โจดี้ เบนสัน (Jodi Benson) ผู้พากย์เสียงแอเรียลฉบับแอนิเมชันปี 1989 ซึ่งเป็นหนึ่งในหลายๆ คนที่ออกมาสนับสนุนเบลลีย์ในบทบาทนี้ “ฉันคิดว่าจิตวิญญาณของตัวละคร คือสิ่งที่สำคัญจริงๆ สำคัญกว่ารูปลักษณ์ภายนอก ถ้าฉันร้องเพลง Part of Your World ตอนนี้ วิธีที่คุณตีความเพลงอาจจะเปลี่ยนไป เพราะการตัดสินที่รูปลักษณ์ภายนอก เนื่องจากฉันแก่แล้ว” เบนสันกล่าว
8. อย่างไรก็ตาม การปรากฎตัวของเบลลีย์ในบทบาทแอเรียล ได้สร้างความประทับใจให้กับเด็กสาวผิวดำจำนวนมาก โดยผู้ปกครองของเด็กเหล่านี้ ต่างแบ่งปันปฏิกิริยาของเด็กๆ เมื่อรับชมตัวอย่างเรื่องนี้เป็นครั้งแรก ซึ่งแต่ละคลิปถูกรับชมหลายล้านครั้ง
ตัวอย่างคำพูดของเด็กๆ หลังพบว่าแอเรียลมีผิวสีดำ “ฉันคิดว่าเธอมีผิวสีเข้มเหมือนหนู! เธอน่ารักมากๆ” เด็กผู้หญิงพูดด้วยน้ำเสียงดีใจ และ “เธอสวยมาก และเธอก็เป็นคนผิวดำ” เด็กผู้ชายสองคนกล่าว
9. ทั้งนี้ เบลลีย์ก็ออกมาให้สัมภาษณ์ที่งาน D23 Expo ต่อการรับบทแอเรียลว่า “มันคือประสบการณ์ที่สวยงาม” พร้อมกับอธิบายว่าทำไมผู้ชมถึงชื่นชอบแอเรียล
“เราทุกคนล้วนมีความรู้สึกต้องการสิ่งที่ดีกว่าสำหรับตัวเอง และฉันคิดว่าจุดแข็งในตัวแอเรียล คือการที่เธอทำตามความฝัน เธอทำตามอย่างที่เธอต้องการ ..และฉันชื่นชมความแข็งแกร่งของเธอ ฉันเลยพยายามที่จะแสดงบทนี้ให้ดีที่สุด”
เธอยังเสริมว่าภาพยนตร์เรื่องนี้นำ ‘เรื่องราวใหม่’ มาสู่ The Little Mermaid ที่ไม่ใช่แค่เรื่อง ‘การตกหลุมรัก หรือความต้องการผู้ชาย แต่มันเกี่ยวข้องกับสิ่งที่แอเรียลมองเห็นสิ่งต่างๆ สำหรับอนาคตของตัวเธอเอง และความหลงใหลของเธอ”
10. ประเด็นเรื่องนี้ก็ได้รับการถกเถียงเรื่อยมา และเมื่อวันที่ 15 กุมภาพันธ์ ดิสนีย์ก็ปล่อยตัวอย่างของ The Little Mermaid ออกมาอีกครั้ง และการถกเถียงเรื่องนักแสดงผิวดำก็กลับมาร้อนระอุอีกครั้ง
เพราะในตัวอย่างนี้เราจะเห็นเรื่องราวของเรื่องนี้มากขึ้น ทั้งการที่แอเรียลพบรักกับเจ้าชายอีริค การปรากฎตัวของเออร์ซูลา ผู้เป็นตัวร้ายของเรื่อง ซึ่งการแสดงความคิดเห็นของผู้คนส่วนใหญ่ก็ยังไม่เห็นด้วยที่แอเรียลเป็นคนดำ และหลายคนคิดว่าอาจจะไม่สนับสนุนภาพยนตร์เรื่องนี้ เพราะดิสนีย์ได้ลบภาพจำในวัยเด็กของพวกเขา แต่ก็มีหลายคนๆ เช่นกันที่รอคอยที่จะรับชมภาพยนตร์เรื่องนี้อยู่
11. ถึงอย่างนั้น ก็มีบางความคิดเห็นที่วิพากษ์วิจารณ์อย่างรุนแรงจนทำให้ผู้คนในโลกอินเทอร์เน็ตต่างแสดงความกังวลต่ามกังวลต่อประเด็นการเหยียดชาติพันธุ์และสีผิวที่เกิดขึ้นในสังคม อาทิ “แนะนำหนังใหม่ บทแปลกมาก นางเหงือกโดนจับตัวขายไปเป็นทาส เก็บฝ้ายในมิสซิสซิปปี้…”
ทำให้ผู้คนออกมาตอบโต้ต่อโพสต์นี้ว่า “อันนี้มันไม่ใช่แค่เรื่องของนักแสดงไม่เหมาะ แต่มันคือการเหยียดหน้าตา เชื้อชาติ…” และ “เข้าใจคนที่บอกว่ามันไม่ตรงภาพจำนะ แต่คนที่ไม่โอเคแค่เพราะสีผิวหรือหน้าตาเขาอ่ะ ทั้งเอาไปทำมีม ไปรีทัชหน้าตาเขา บอกว่าเขาควรจะเล่นอันนี้ๆ มากกว่า มันคือการเหยียด”
นอกจากนี้ยังมีความคิดเห็นอื่นๆ อีกมากมายที่เข้าข่ายการเหยียดผิวและชาติพันธุ์ อย่างเช่น แอเรียลอยู่ในน้ำลึกแน่ๆ เลยเพราะเธอมีรูปร่างแปลก หรือใต้น้ำไม่มีไฟเลยหรอ ทำไมมืดจัง
ยิ่งกว่านั้น ความคิดเห็นในลักษณะนี้ยังเกิดขึ้นในทั่วโลก อย่างเช่น “แอเรียลและอีริคดูเป็นความรักระหว่างเจ้าของสวนทางใต้ของสหรัฐฯ กับทาสในศตวรรษที่ 19 เลย” หรือ “อยากได้นางเงือกที่ดูไม่เหมือนกับทาสเก็บฝ้าย”
อย่างไรก็ดี มีหลายคนที่มองว่า แอเรียลในเวอร์ชั่นของดิสนีย์ก็มีลักษณะเหมือนคนผมแดง ผิวขาวซีด (Ginger hair) ที่มักเผชิญอคติจากผู้คนอยู่เหมือนกัน ดังนั้นแล้ว การที่เปลี่ยนชาติพันธุ์ของนักแสดงก็เป็นการกีดกันคนผมแดงหรือเปล่า
12. ข้อถกเถียงเรื่องนักแสดงผิวดำต่อการรับบทแอเรียล ถือเป็นประเด็นที่ยังต้องติดตาม เพราะตามประวัติศาสตร์ภาพยนตร์ วงการฮอลลีวูดมักจะเลือกใช้นักแสดงผิวขาวมารับบทที่ไม่ใช่คนผิวขาวมาตลอด อย่างเช่น เจค จิลเลนฮาล” (Jake Gyllenhaal) นักแสดงชายผิวขาว ที่รับบทเป็นเป็นชาวอิหร่าน ในภาพยนตร์ Prince of Persia: The Sands of Time
และภาพยนตร์ The Lone Ranger ที่สร้างจากตัวละครที่เป็นตำนานของชาวอเมริกัน คือคาวบอย และคู่หูชาวอเมริกันพื้นเมือง โดย จอห์นนี เดปป์ (Johnny Depp) นักแสดงผิวขาวมารับบทเป็นชาวอเมริกันพื้นเมือง และยังมีภาพยนตร์อีกมากมายที่นำคนขาวมารับบทเป็นคนเชื้อชาติอื่น
ซึ่งเป็นการกีดกันนักแสดงเชื้อชาติอื่นๆ ที่มีความสามารถ และตรงกับบทได้แสดงความสามารถทางการแสดง จนเกิดคำว่า ‘การเลือกใช้เฉพาะนักแสดงผิวขาว (Whitewashing)’ ขึ้น ที่มีมานาน และหยั่งรากลึกมาจนถึงปัจจุบัน
13. อย่างไรก็ตาม เมื่อเข้าสู่ยุคที่ผู้คนเริ่มตระหนักถึงความเท่าเทียม และไม่แบ่งแยกเชื้อชาติมากขึ้น แนวคิดการคัดเลือกนักแสดงโดยไม่สนถึงรูปลักษณ์ หรือภาพจำของตัวละคร แต่มองกันด้วยความสามารถของนักแสดงเป็นหลัก (Color-blind Casting) ถูกนำมาใช้มากขึ้น
ซึ่งสืบเนื่องมาจากกระแส Black Lives Matter (BLM) ที่รณรงค์ต่อต้านความรุนแรง และคตินิยมทางเชื้อชาติต่อคนดำ ทำให้อุตสาหกรรมบันเทิงในสหรัฐจำเป็นต้องมีการปรับตัว
ทั้งการเพิ่มบทให้คนผิวดำในซีรีส์ และภาพยนตร์ ดังนั้น Colorblind-Casting จึงเปิดโอกาสให้ทุกคนได้แสดงความสามารถอย่างแท้จริง โดยไม่มีกำแพงทางด้านเชื้อชาติ รูปร่าง สีผิว หรือเพศมาขวางกั้น
กระแสการวิพากษ์วิจารณ์ในประเด็นดังกล่าว ก็จะยังเป็นที่ถกเถียงไปเรื่อยๆ ถึงแม้ว่า The Little Mermaid จะฉายในเดือนพฤษภาคมไปแล้ว ประเด็นของแอเรียลผิวดำ และคำถามว่า การนำนักแสดงสีผิว เชื้อชาติ เพศอื่น มารับบทที่ถือเป็นภาพจำของหลายๆ คน ถือเป็นสิ่งที่ควร และทำได้หรือไม่ ก็คงวนกลับมาอีกเสมอนับจากนี้
อ้างอิงจาก