วันนี้ (11 กรกฎาคม) มีรายงานว่า จินตนา ศรีสารคาม ผอ. โรงเรียนเตรียมอุดมศึกษาพัฒนาการ, ประธานกรรมการสถานศึกษา, กลุ่มผู้ปกครองและครู ยื่นหนังสือให้ ส.ว. หวังหาทางออกกรณี หยก— ธนลภย์ หลังโรงเรียนระบุว่าหยกทำให้เด็กกังวล-เรียนไม่รู้เรื่อง
จินตนา ยังระบุถึงสถานภาพของหยกตอนนี้อีกว่า หยกคือคนนอกที่เข้าไปเรียนในโรงเรียนโดยใส่ชุดไปรเวท และยังนั่งแยกจากเพื่อน ‘สร้างบรรยากาศที่ไม่เอื้อต่อการเรียนรู้ในชั้นเรียน’
“ขณะนี้บรรยากาศในโรงเรียนมีความถดถอย และมีความหวาดกลัว เพราะน้องหยกที่เข้าโรงเรียนมาได้ ได้ถ่ายคลิปในพื้นที่ไว้ และสนทนากับบุคคลภายนอกผ่านทางโทรศัพท์ตลอดเวลา ทำให้เพื่อนนักเรียนมีภาวะถดถอยด้านการเรียน มีความวิตก และหวาดกลัว ทั้งนี้ตัวแทนผู้ปกครองได้ส่งจดหมายถึงความชัดเจนในเรื่องแก้ปัญหา แต่ทางโรงเรียนพยายามช่วยเหลือแต่กลับไม่ได้รับความร่วมมือจากนักเรียน ซึ่งกรณีดังกล่าวถือว่านักเรียนภายในโรงเรียนนั้นถูกละเมิดสิทธิเช่นกัน” จินตนากล่าว
ประเด็นที่หยกมอบตัวไม่สำเร็จนั้น จินตนาก็ระบุว่าแม่ของหยกได้มาปรากฎตัวที่โรงเรียนตั้งแต่วันที่ 1 เมษายน แต่หยกมามอบตัวกับกลุ่มนักกิจกรรม ‘ทะลุวัง’ หลังจากที่ศาลปล่อยตัวในวันที่ 19 เมษายน ซี่งโรงเรียนก็ยืนยันไปแล้วว่าไม่สามารถรับมอบตัวได้ เพราะหยกมีแม่มาปรากฏตัวก่อนแล้ว ทั้งยังให้เวลาหยกในการพาแม่มาเพื่อมอบตัว แต่หยกก็ไม่สามารถพาแม่มามอบตัวได้ทันเวลา ทำให้หยกไม่มีสถานภาพการเป็นนักเรียน
จินตนายังระบุอีกว่า ทางโรงเรียนได้ติดต่อไปยังผู้ปกครองซึ่งเป็นมารดาและบิดา โดยครูประจำชั้น เดินทางไปถึง จ.ร้อยเอ็ด พบว่ามีแม่และน้าอยู่ในบ้านเพื่อขอให้ดำเนินการมอบตัวหยกตามระเบียบของโรงเรียน แต่ถูกปฏิเสธและไล่ให้กลับพร้อมบอกว่าไม่ต้องมายุ่งอีก
จินตนายังระบุถึงสาเหตุที่ต้องไปยื่นหนังสือกับทาง สมชาย แสวงการ ส.ว.ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการ (กมธ.) สิทธิมนุษยชน สิทธิเสรีภาพ และการคุ้มครองผู้บริโภค วุฒิสภา อีกว่าเนื่องจากโรงเรียนได้หารือกับกระทรวง พม. และหน่วยงานคุ้มครองสิทธิที่เกี่ยวข้องแล้ว แต่ยังไม่มีความคืบหน้าใดๆ
ซึ่งทาง ส.ว.สมชายก็ระบุว่าจะเร่งหารือกับส่วนที่เกี่ยวข้อง แต่อาจไม่ทันช่วงสอบ จึงขอเป็นกำลังใจให้เด็กช่วงสอบ พร้อมระบุว่าเข้าใจในสิทธิและเสรีภาพในตัวบุคคลของหยก แต่ต้องไม่ทะลุทะลวง
นอกจากนี้ ด้านครูและนักเรียนก็ยังระบุว่า กังวลเรื่องความปลอดภัย และกลัวว่าหยกจะเคลื่อนไหวช่วงใกล้สอบจนผู้อื่นเสียการเรียน
เช่นเดียวกับผู้ปกครองที่ระบุว่า กังวลเรื่องที่หยกเข้าไปในโรงเรียน เพราะมีข้อคำถามเกิดขึ้นและทางสมาคมฯ ต้องคอยชี้แจง เช่น “หยกไปเรียนที่อื่นหรือยัง” “ทำไมยังให้หยกเข้ามาในโรงเรียน”
อีกทั้งทางกลุ่มผู้ปกครองยังเห็นว่าหยกยังมีความคิด ‘ต่อต้าน’ และอาศัยอยู่กับ ‘กลุ่มนั้น’ และกังวลว่าหยกจะมีอนาคตเช่นไร
อย่างไรก็ตาม ทางโรงเรียนยืนยันว่าที่หยกเรียกร้องเรื่องระเบียบ ไม่สามารถรับไว้ได้ ‘เพราะกฎโรงเรียนนั้นแก้ไขไม่ได้’ ทั้งยังอ้างถึง พ.ร.บ.คุ้มครองเด็ก มาตรา 64 ระบุว่า “นักเรียนและนักศึกษาต้องประพฤติตนตามระเบียบของโรงเรียน หรือสถานศึกษาและตามที่กำหนดในกฎกระทรวง”