“การฉ้อโกงครั้งนี้ถือเป็นครั้งยิ่งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์อเมริกา”
วันนี้ (3 พฤศจิกายน) มีการเปิดเผยว่า แซม แบงแมน-ฟรายด์ (Sam Bankman-Fried) อภิมหาเศรษฐีพันล้านวัย 31 ปี ถูกศาลนิวยอร์กตัดสินว่า มีความผิดข้อหาฉ้อโกงและฟอกเงิน คาดเขาอาจต้องเผชิญโทษจำคุกหลายสิบปี
เล่าก่อนว่า เอฟทีเอ็กซ์ (FTX) เป็นแพลตฟอร์มสำหรับเทรดคริปโต (Crypto) ที่ถูกก่อตั้งโดยเขา เมื่อปี 2019 ซึ่ง FTX ถูกจัดว่าเป็นบริษัทที่ยิ่งใหญ่และน่าเชื่อถือเป็นอันดับต้นๆ ของโลก
ทว่าเมื่อวันที่ 11 พฤศจิกายน 2022 อาณาจักรนี้ก็ล่มสลายลง และ ราชันคริปโตก็ถูกจับกุมในเวลาใกล้ๆ กัน
เนื่องจากถูกกล่าวหาว่า เขาโกหกนักลงทุนและผู้ปล่อยสินเชื่อ รวมถึงขโมยเงินหลายพันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ จากบริษัท จน FTX ต้องล่มสลายลง และลูกค้าจำนวนมากไม่สามารถเข้าไปถอนเงินทุนออกมาได้ ดังนั้นเขาจึงถูกแจ้งข้อหารวมทั้งสิ้น 7 ข้อหา
อย่างไรก็ดี หลังจากที่ แบงแมน-ฟรายด์ รับรู้ถึงคำตัดสิน เขามีอาการเครียดอย่างเห็นได้ชัด แต่เขายังปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา แต่ยอมรับว่าเขาทำผิดพลาดจริง
“เขากระทำการฉ้อโกงทางการเงินครั้งใหญ่ที่สุดครั้งหนึ่งในประวัติศาสตร์อเมริกา เพราะมันมีมูลค่าหลายพันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ จนเขากลายเป็นราชันแห่งคริปโต” เดเมียน วิลเลียมส์ (Damian Williams) อัยการสหรัฐฯ กล่าว
ทางด้านทนายความของ แบงแมน-ฟรายด์ ให้สัมภาษณ์ว่า “เราเคารพการตัดสินของคณะลูกขุน แต่เราผิดหวังกับผลลัพธ์ที่ได้” มาร์ก โคเฮน (Mark Cohen) ระบุ ไม่เพียงเท่านั้น เขายังกล่าวว่า “แบงแมน-ฟรายด์ พร้อมที่จะสู้คดีต่อไป” ซึ่งวันพิจารณาคดีครั้งถัดไปคือ วันที่ 28 มีนาคม 2024
ทั้งนี้ หลายคนตระหนักว่า เขาไม่น่ารอดพ้นจากความผิดนี้ไปได้ตั้งแต่แรกๆ แล้ว เพราะอดีตเพื่อนสนิท เพื่อนร่วมงานใกล้ชิด 3 คน รวมถึงอดีตแฟนสาว ต่างสารภาพยอมรับผิด และตกลงจะขึ้นให้การถึงความผิดของเขา เพื่อแลกกับการลดโทษ
อ้างอิงจาก