ในช่วงกลางศตวรรษที่ 20 หรือราว 70 ปีก่อน เมืองไฮแลนด์ที่ตั้งอยู่ทางตะวันออกของปาปัวนิวกินี ถูกครอบงําด้วยโรคลึกลับ ที่ทําให้ทั้งหมู่บ้านกลายเป็นพื้นที่ที่ปราศจากผู้หญิง ทว่าปริศนานี้กลับถูกคลี่คลายแล้ว
ด้วยการวิเคราะห์ทางพันธุกรรมที่ช่วยให้ความกระจ่างของการแพร่ระบาดว่า สาเหตุที่แท้จริงเกิดจาก Mortuary Feasting หรือ พิธีกรรมการบริโภคเนื้อของสมาชิกในครอบครัวที่เสียชีวิต เพราะเชื่อที่ว่าจะทำให้ผู้เสียชีวิตไปยังโลกหลังความตายได้อย่างราบรื่น นอกจากนี้ ยังเป็นการแสดงความเคารพ และเชื่อมจิตวิญญาณระหว่างโลกทั้งสองโลกเข้าด้วยกัน
ซึ่งชนเผ่าฟอร์ (Fore) ผู้ที่ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดมากที่สุด ต่างเรียกโรคอันน่ากลัวนี้ว่า คูรู (kuru) ซึ่งแปลตรงๆ ว่า ตัวสั่น เนื่องจากผู้ที่ติดเชื้อจะสูญเสียการควบคุมทางร่างกายและระบบประสาทอย่างรุนแรง ก่อนที่จะถึงแก่ความตาย
ทั้งนี้ ชนเผ่าดังกล่าวค่อนข้างโดดเดี่ยวจากโลกภายนอก แต่เมื่อการแพร่ระบาดยิ่งเลวร้ายขึ้นเรื่อยๆ ทำให้ในช่วงปี 1950 นักวิจัยจากทั่วโลกหันมาให้ความสนใจ และพยายามทําความเข้าใจกับสถานการณ์ที่เกิดขึ้น
ในตอนแรกนักวิจัยตั้งสมมติฐานว่าอาจเป็นโรคทางพันธุกรรม จนกระทั่งค้นพบว่าแท้จริงแล้วโรค kuru นั้นมีต้นตอมาจากประเพณีกินร่างของญาติที่เสียชีวิต ดังนั้น kuru ถือเป็นโรคทางระบบประสาท ที่เกิดจากการเปลี่ยนแปลงรูปร่างของโปรตีนพรีออนปกติของร่างกาย
อย่างไรก็ดี คําอธิบายที่เป็นไปได้มากที่สุดถึงจุดเริ่มต้นของการแพร่กระจายคือ อาจจะมีผู้เสียชีวิตจากโรคที่เกี่ยวข้องกับพรีออน เช่น โรคสมองฝ่อ (CJD) ซึ่งชุมชนบริโภคเนื้อเยื่อที่ติดเชื้อดังกล่าว จนเกิดการระบาดร่วมหลายสิบปี
แล้วทำไมผู้หญิงและเด็กถึงได้รับผลกระทบมากที่สุด?
เพราะคนกลุ่มนี้จะเริ่มบริโภค ‘สมอง’ ของผู้เสียชีวิตก่อน ซึ่งเป็นส่วนที่โปรตีนพรีออนสะสมอยู่มากที่สุด ส่งผลให้ผู้หญิงและเด็กมักจะล้มป่วยและเสียชีวิตบ่อยครั้งที่สุด จึงเป็นที่มาว่าทำไมเมืองนี้ในอดีตถึงแทบจะไม่มีผู้หญิงอยู่เลย
อ้างอิงจาก