แม้ว่า Met Gala ปี 2024 จะจบลงไปแล้ว แต่เราขอเล่าที่มาที่ไป และชวนดูว่าทำไมงานดังกล่าวถึงเป็นกระแสแทบจะทุกปี ในคืนวันจันทร์ (7 พฤษภาคม) ตามเวลาท้องถิ่น ที่ผ่านมา คนดังมากมายที่แต่งตัวด้วยชุดอู้ฟู่ ต่างรวมตัวกันที่ขั้นบันไดของพิพิธภัณฑ์ศิลปะเมโทรโพลิแทนในนิวยอร์ก เพื่อแฟชั่นพรมแดงที่ใหญ่ที่สุดแห่งปี
เล่าก่อนว่า งานกาล่าซึ่งตรงกับวันจันทร์แรกของเดือนพฤษภาคม เป็นการเฉลิมฉลองนิทรรศการสําคัญของ แอนนา วินทัวร์ (Anna Wintour) บรรณาธิการของ Vogue อย่างไรก็ตาม ธีมในปีนี้ของงานมีชื่อว่า Sleeping Beauties: Reawakening Fashion ดังนั้น แขกภายในงานจะแต่งกายด้วยลักษณะ ‘Garden of Time’ ตามเรื่องสั้นปี 1962 โดย เจ.จี. บัลลาร์ด (J.G. Ballard) ที่เรื่องราวจะพรรณนาถึงดอกไม้และเวลา
อย่างไรก็ตาม Met Gala ก่อตั้งขึ้นครั้งแรกในปี 1948 ซึ่งในช่วงแรกยังเป็นงานเล็กๆ ที่มีคนเฉพาะกลุ่มเท่านั้นที่เข้าร่วม ทว่าหลังจากนั้นเกิดการวางกลยุทธ์ใหม่ ด้วยการสร้างสายสัมพันธ์กับฮอลลีวูดเพื่อทําให้ Met Gala เป็นปรากฏการณ์วัฒนธรรมป๊อป (Pop Culture) ที่สืบเนื่องจนถึงปัจจุบัน
ทั้งนี้ หลายคนยกความดีความชอบให้แก่ แอนนา วินทัวร์ ที่เข้ารับตำแหน่งดูแล Met Gala เมื่อปี 1999 ด้วยเหตุผลที่ว่า เธอเข้าใจความพิเศษของงานอย่างถ่องแท้ เพราะเธอสามารถเข้าใจว่าแฟชั่นและคนมีชื่อเสียงมีความสัมพันธ์กันอย่างไร ซึ่งวินทัวร์สามารถดึงจุดเด่นของทั้งสองอย่างออกมาได้อย่างดี
นอกจากนี้ โซเชียลมีเดียยังเป็นแรงผลักดันสำคัญที่ทำให้งานพรมแดงดังกล่าว ยิ่งดึงดูดความสนใจจากผู้คนมากขึ้นไปอีก จนงาน Met Gala ถูกยกย่องว่าเป็นพื้นที่ในการสร้างภาพลักษณ์สำหรับคนมีชื่อเสียงจากทุกวงการ ทั้งซูเปอร์โมเดล ดีไซเนอร์ นักแสดง และศิลปิน
ฉะนั้น จึงไม่แปลกที่สังคมให้ความสนใจกับ Met Gala เป็นอย่างมาก อาจด้วยเหตุผลที่ว่ารอลุ้นคนที่พวกเขาชื่นชอบจะปรากฏตัวด้วยชุดอะไร หรืองานดังกล่าวให้ความรู้สึกเหมือนกำลังจินตนาการอยู่ เพราะเป็นสิ่งที่คนส่วนใหญ่ไม่สามารถเข้าถึง ทั้งการแต่งกายด้วยชุดเวอร์วัง ผมเผ้าสุดอลังการ โพสท่าต่อหน้ากล้องนับร้อยตัว ต่างกับโลกความเป็นจริงโดยสิ้นเชิง
อ้างอิงจาก