ถ้าไม่ใช่อเมริกันชน ก็จะเรียนที่มหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ดไม่ได้แล้ว?
ล่าสุด รัฐบาลทรัมป์ได้สั่งระงับการรับนักศึกษาต่างชาติของมหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด และให้นักศึกษาต่างชาติที่มีอยู่ย้ายสถาบันหรือเสียสถานะทางกฎหมาย โดยคำสั่งนี้มีผลทันที จากการเพิกถอนการรับรองโปรแกรม Student and Exchange Visitor ของฮาร์วาร์ด
การเพิกถอนการรับรองโปรแกรม Student and Exchange Visitor หมายความว่า ฮาร์วาร์ดจะถูกห้าม ไม่ให้มีชาวต่างชาติที่มีสถานะ F- หรือ J- ที่ไม่ใช่ผู้อพยพ ในการเรียนการสอนปีการศึกษา 2025-2026 ซึ่งไม่ได้นับเพียงแต่การรับเข้าใหม่เท่านั้น แต่รวมถึงนักศึกษาปัจจุบัน ที่จะต้องย้ายไปมหาวิทยาลัยอื่น เพื่อรักษา ‘สถานะไม่ใช่ผู้อพยพ’ ของตนด้วยเช่นกัน
ทำไมจู่ๆ ถึงมีประกาศเช่นนี้?
ก่อนหน้านี้ เมื่อวันที่ 11 เมษายน 2025 รัฐบาลทรัมป์ได้ส่งหนังสือถึง ม.ฮาร์วาร์ด ขู่ว่าจะระงับงบสนับสนุน โดยแม้ว่าที่ผ่านมารัฐบาลส่งงบประมาณมาช่วยสนับสนุนฮาร์วาร์ด แต่ในหลายปีมานี้ ฮาร์วาร์ดกลับทำหน้าที่ “ล้มเหลว” ทั้งด้านวิชาการและสิทธิพลเมือง จนรัฐบาลต้องยื่นข้อเสนอใหม่มาให้ฮาร์วาร์ดปรับปรุงตัวเอง
ข้อเสนอที่รัฐบาลต้องการให้ ม.ฮาร์วาร์ด ทำในขณะนั้น ได้แก่ ให้ปรับปรุงหลักสูตรการสอน (ที่รัฐอ้างว่า) สร้างอคติด้านต่างๆ รวมถึงต่อต้านชาวยิว, ยุติการว่างจ้างและรับนักศึกษาตามนโยบายที่ให้ความสำคัญเรื่อง สีผิว เชื้อชาติ ศาสนา เพศสภาพ สัญชาติ, ปรับปรุงกฎระเบียบนักศึกษาให้เข้มงวดยิ่งขึ้น เพื่อควบคุมการรวมกลุ่มของนักศึกษา และ ให้ยุติโปรแกรม DEI (Diversity, Equity, Inclusion)
แต่ อลัน เอ็ม การ์เบอร์ (Alan Michael Garber) อธิการบดี ม.ฮาร์วาร์ด ก็ได้ออกแถลงการณ์ตอบโต้โดยยืนยันว่าฮาร์วาร์ดจะไปปฏิบัติตามคำสั่งของรัฐบาลทรัมป์
การตัดสินใจของรัฐบาลทรัมป์ครั้งนี้ อาจส่งผลกระทบต่อนักศึกษาต่างชาติเกือบ 6,800 คน ซึ่งคิดเป็น 27% ของนักศึกษาทั้งหมดของ ม.ฮาร์วาร์ด
ซาราห์ ดาวิส (Sarah Davis) นักศึกษาปริญญาโทชาวออสเตรเลียที่ ม.ฮาร์วาร์ด กล่าวว่า ข่าวนี้ออกมาเพียง 5 วันก่อนที่หลายๆ คนจะสำเร็จการศึกษา ทำให้เกิดความรู้สึกไม่แน่นอน ว่าจะอยู่ในสหรัฐฯ และทำงานต่อไปได้หรือไม่
และ ลีโอ เกอร์เดน (Leo Gerdén) นักศึกษาปริญญาตรีอายุ 22 ปีจากสวีเดนกล่าวว่า นักศึกษาต่างชาติกำลังถูกใช้เป็นเบี้ยในเกมโป๊กเกอร์ระหว่างทำเนียบขาวกับฮาร์วาร์ด“ อันเป็นเรื่องที่ “ไร้มนุษยธรรมอย่างเหลือเชื่อ”
ฮาร์วาร์ดได้ออกมาตอบโต้ ระบุว่า กระทำของรัฐบาล ไม่ชอบด้วยกฎหมาย และส่งผลกระทบอย่างร้ายแรงต่อชุมชนและภารกิจทางวิชาการของมหาวิทยาลัย
โฆษกของฮาร์วาร์ดเน้นย้ำถึงคุณค่าของนักศึกษาต่างชาติที่มีต่อมหาวิทยาลัยและประเทศชาติ
ผู้เชี่ยวชาญและนักศึกษาต่างชาติได้แสดงความกังวลอย่างมาก โดยมองว่าการตัดสินใจนี้ บั่นทอนความรู้ระหว่างประเทศ และ ทำให้อเมริกาอ่อนแอลง อาจส่งผลให้นักศึกษาต่างชาติที่เก่งที่สุดหันไปสมัครเรียนในประเทศอื่นแทน มหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ดกำลังพิจารณาใช้มาตรการทางกฎหมายเพื่อต่อต้านคำสั่งนี้ โดยอ้างว่า เป็นการละเมิดสิทธิ์ตามรัฐธรรมนูญและเกินขอบเขตอำนาจของรัฐบาล
โฆษกของ ม.ฮาร์วาร์ด กล่าวถึงประเด็นนี้ว่า “เรามุ่งมั่นอย่างเต็มที่ที่จะรักษาความสามารถของ ม.ฮาร์วาร์ด ในการเป็นเจ้าภาพนักศึกษา และนักวิชาการต่างชาติของเรา ซึ่งมาจากกว่า 140 ประเทศ และสร้างคุณค่าให้แก่มหาวิทยาลัย – และประเทศนี้ – อย่างมหาศาล”
จากจดหมายแจ้งเรื่องนี้ ได้ระบุว่า ม.ฮาร์วาร์ดมีเวลา 72 ชั่วโมงในการปฏิบัติตามรายการข้อเรียกร้อง เพื่อโอกาสที่จะได้กู้คืนความสามารถในการรับนักศึกษาเหล่านี้
ข้อเรียกร้อง รวมถึงการจัดหาบันทึกวินัยทั้งหมดสำหรับนักศึกษาที่ไม่ใช่ผู้อพยพที่ลงทะเบียนเรียนที่ฮาร์วาร์ดในช่วง 5 ปีที่ผ่านมา รวมถึงหารให้ ม.ฮาร์วาร์ดส่งมอบบันทึกอิเล็กทรอนิกส์ วิดีโอ หรือเสียงของกิจกรรมที่ผิดกฎหมาย และอันตรายหรือรุนแรง ที่ก่อโดยนักศึกษาที่ไม่ใช่ผู้อพยพในวิทยาเขตมาอีกด้วย
อ้างอิงจาก