ทำงาน 5 วันเหนื่อยล้า ได้พักแค่ 2 วัน งานบ้านก็ต้องทำ ยังไม่ทันได้หายเหนื่อย ก็เตรียมตัวรับวันจันทร์อีกแล้ว แต่สำหรับบริษัทบางแห่ง ได้มีการทดลองปรับเปลี่ยนเวลาการทำงาน ให้ทำงานเพียงแค่ 4 วัน และพบว่าพนักงานมีการทำงานที่มีประสิทธิภาพ และดีมากขึ้น
บริษัท Perpetual Guardian ในประเทศนิวซีแลนด์ได้ทดลองลดเวลาการทำงานของพนักงาน 240 คน จาก 5 วัน เป็น 4 วันเป็นเวลา 2 เดือน แต่ให้เงินเดือนเท่ากับการทำงาน 5 วัน ซึ่งหลังครบการทดลองแล้วบริษัทพบว่า ประสบความสำเร็จ เพราะพนักงานทุกคนมีการทำงานที่มีประสิทธิภาพดีขึ้น มีความเครียดน้อยลง สามารถจัดการสมดุลชีวิต (work-life balance) ได้มากขึ้น
Andrew Barnes CEO ของบริษัทนี้ คิดไอเดียนี้ขึ้นเพื่อต้องการให้พนักงานของเขามีสมดุลชีวิตที่ดีขึ้น โฟกัสถึงงานเวลาอยู่ในออฟฟิศ และในเวลางาน และจัดการชีวิตในเวลาที่ได้วันหยุดเพิ่มเติม ซึ่งเขาให้สัมภาษณ์ว่า “มันเป็นทฤษฎีบางอย่างที่ผมคิดว่าอยากจะลอง เพราะผมต้องการสร้างสภาพแวดล้อมที่ดีให้กับทีมของผม”
จากการทดสอบพนักงาน หลังการทดลองให้ทำงาน 5 วัน พบว่า พนักงานรู้สึกมีความสุขกับชีวิตมากขึ้นกว่าก่อนช่วงการทดลองลดการทำงาน และจากช่วงปลายปีก่อน มีพนักงานเพียง 54% ที่รู้สึกว่าสามารถจัดการสมดุลชีวิตได้ ตอนนี้เพิ่มขึ้นมาถึง 78% ทั้งความเครียดของพนักงานยังลดลง 7% กระตุ้นความมุ่งมั่น และเสริมสร้างพลังในการทำงานได้ดีขึ้นถึง 5% รวมถึงพนักงานยังมีส่วนร่วมกับงานเพิ่มขึ้นถึง 20% ด้วย
Jarrod Haar แห่งมหาวิทยาลัยเทคโนโลยี Auckland ผู้ร่วมดำเนินการทดลองนี้ ระบุว่าปัจจัยที่ทำให้การทดลองนี้ประสบความสำเร็จเพราะว่า พนักงานได้รับอิสระในการออกวิธีการจัดการทำงานใหม่ๆ ที่ใช้เวลา 4 วันต่อสัปดาห์ ให้การทำงานมีประสิทธิภาพมากขึ้น นี่จึงเป็นเหมือนวิธีการปฏิวัติวิธีการทำงาน
หลังการทดลองประสบความสำเร็จ Barnes บอกว่าเค้าอาจจะนำผลการทดสอบนี้ ไปพูดคุย เจรจากับบอร์ดบริหารว่าการทำงาน 4 วันต่อสัปดาห์มีผลดีอย่างไร และอาจจะปรับใช้กับบริษัทในระยะยาวด้วย
อ้างอิงจาก
https://www.theguardian.com/world/2018/jul/19/work-less-get-more-new-zealand-firms-four-day-week-an-unmitigated-success
https://money.cnn.com/2018/07/19/news/economy/new-zealand-four-day-work-week-perpetual-guardian/index.html?utm_term=link&utm_medium=social&utm_content=2018-07-19T12%3A34%3A04&utm_source=twCNNi
#Brief #TheMATTER