บอริส จอห์นสัน นำพรรคอนุรักษ์นิยม ชนะการเลือกตั้ง ครองเสียงข้างมากในรัฐสภา และรักษาตำแหน่งนายกฯ ของอังกฤษไว้ได้ โดยชัยชนะของเขาเป็นสิ่งที่รับประกันได้ว่า สหราชอาณาจักรจะออกจากสหภาพยุโรป ในปลายเดือนมกราคม ตามที่เขาได้สัญญาไว้ในช่วงการหาเสียง ตามแคปเปญ ‘Get Brexit Done’
โดยตอนนี้ จากการนับคะแนนอย่างไม่เป็นทางการ พรรคอนุรักษ์นิยม ได้เก้าอี้ในสภาไปแล้ว มากกว่า 350 ที่นั่ง มากกว่าเดิมที่พรรคมีอยู่ 317 ที่นั่ง ทำให้กลายเป็นเสียงข้างมากในสภาไปได้ ในขณะที่พรรคแรงงาน ได้เสียงเป็นอันดับ 2 คือ ประมาณ 200 ที่นั่ง ซึ่งถือว่าลดลงกว่าเดิมมาก จากที่เคยมีถึง 262 ที่นั่งในการเลือกตั้งครั้งก่อน ในขณะเดียวกันหัวหน้าพรรคเสรีนิยม โจ สวินสัน ก็ได้สูญเสียที่นั่งของพรรคในการเลือกตั้งครั้งนี้ไปเช่นกัน โดยในตอนนี้ พรรคได้ไปเพียง 10 ที่นั่งเท่านั้น
การครองเสียงข้างมากของพรรคอนุรักษ์นิยม ทำให้จอห์นสัน จะสามารถดำเนินการแผน Brexit ได้อย่างที่ตั้งใจไว้ โดยมีการวิเคราะห์ว่า เพราะการนำแคมเปญเรื่องการออกจาก EU มาหาเสียง ทำให้ประชาชนที่เบื่อหน่ายกับสถานการณ์ Brexit ที่หาทางออกไม่ได้มานาน โหวตให้พรรคอนุรักษ์นิยมด้วย โดยผลการเลือกตั้งนี้ เป็นไปตามที่ exit poll ประมาณการณ์ไว้ว่า จอห์นสันจะชนะอย่างถล่มทลาย
ทั้งการเลือกตั้งครั้งนี้ ถือเป็นชัยชนะครั้งยิ่งใหญ่ของพรรคอนุรักษ์นิยม ที่ไม่เคยได้ที่นั่งมากขนาดนี้มาก่อนตั้งแต่ชัยชนะของ มากาเร็ต แทรชเชอร์ ในปี 1987 ซึ่งหลังการเลือกตั้งเอง จอห์นสันก็ได้กล่าวถึงชัยชนะในครั้งนี้ว่า “ดูเหมือนว่ารัฐบาลอนุรักษ์แห่งชาติ จะได้รับมอบอำนาจใหม่ให้ดำเนินการ Brexit”
ในขณะที่ความพ่ายแพ้ของพรรคแรงงาน ทำให้เจเรมี คอร์บิน หัวหน้าพรรค ประกาศแผนการของเขาที่จะลาออกจากตำแหน่งผู้นำพรรค โดยเขากล่าวว่า “ผมจะไม่เป็นผู้นำพรรคในการรณรงค์เลือกตั้งทั่วไปในอนาคต และจะหารือกับพรรคเพื่อให้แน่ใจว่า กระบวนการในตอนนี้ที่จะสะท้อนผลการเลือกตั้ง และนโยบายของพรรคจะดำเนินการต่อไป”
ซึ่งนอกจากคอร์บินแล้ว หลังสูญเสียที่นั่งในสภา สวินสัน หัวหน้าพรรคเสรีนิยมเอง ก็ได้ประกาศลาออกจากตำแหน่งหัวหน้าพรรคแล้วเช่นกัน โดยสถิติการเลือกตั้งในครั้งนี้ พบว่า มีผู้ออกมาใช้สิทธิ 67.17% น้อยลงกว่าการเลือกตั้งปี 2017 จำนวน 1.49%
อ้างอิงจาก
https://www.vox.com/world/2019/12/12/20999535/boris-johnson-uk-election-results-brexit
#Brief #TheMATTER