โซเชียลมีเดียทำให้เราเห็นโลกได้กว้างมากขึ้น ได้เรียนรู้เนื้อหาต่างๆ กันมากขึ้น แต่ในมุมนึง โซเชียลมีเดียก็เป็นช่องทางของการมีข้อมูลเท็จ หรือข้อมูลที่สร้างความเกลียดชังได้ ซึ่งเฟซบุ๊ก ก็เป็นช่องทางหนึ่งที่ถูกมองว่า มีเนื้อหาที่สร้างความเกลียดชัง และเหยียดเชื้อชาติต่างๆ ที่แม้ว่าเฟซบุ๊กจะพยายามปฏิเสธมาโดยตลอด แต่ข้อมูลจากองค์กรในอังกฤษก็เปิดเผยว่า เฟซบุ๊กสนับสนุนเนื้อหาที่ปฏิเสธเรื่องการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ (Holocaust denial)
การปฏิเสธการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ หรือ Holocaust denial คือการพยายามปฏิเสธว่าการฆ่าล้างชาวยิว ในช่วงสงครามโลก เป็นเรื่องที่ไม่เคยเกิดขึ้นจริง แต่เป็นเรื่องเท็จที่ถูกสร้างขึ้นโดยชาวยิว ซึ่งล่าสุดองค์กร Institute for Strategic Dialogue (ISD) ซึ่งเป็นองค์กรต่อต้านกลุ่มความรุนแรงในสหราชอาณาจักร พบว่าการพิมพ์คำว่า ‘การฆ่าล้างเผ่าพันธุ์’ ในฟังก์ชันการค้นหาของเฟซบุ๊ก จะเจอเพจการปฏิเสธการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ ที่แนะนำสำนักพิมพ์ที่ขายวรรณกรรมต่างๆ ที่เกี่ยวกับการปฏิเสธการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ ไปถึงเพจทีอุทิศให้กับเดวิด เออร์วิง (David Irving) นักเขียนที่ปฏิเสธการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ชาวอังกฤษ
ISD ยังค้นพบกลุ่มในเฟซบุ๊กอย่างน้อย 36 กลุ่มที่มีผู้ติดตามรวมกันกว่า 360,000 คน ที่อยู่ในกลุ่มที่ปฏิเสธการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ ทั้งนักวิจัยยังพบว่า เมื่อกดติดตามเพจเฟซบุ๊กเกี่ยวกับเนื้อหาที่ปฏิเสธการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ ก็จะเจอการแนะนำเพจอื่นๆ ที่คล้ายคลึงกันขึ้นมาด้วย
จาค็อบ เดวีย์ (Jacob Davey) ผู้จัดการฝ่ายอาวุโสของ ISD กล่าวว่า “การปฏิเสธการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์เป็นเครื่องมือโดยเจตนา ที่ใช้ในการทำให้ชาวยิวประสบความทุกข์ และเป็นเครื่องมือของคนที่เกลียดชังชาวยิวมาอย่างอย่างยาวนาน” ซึ่งเมื่อมีความตั้งใจทำสิ่งเหล่านี้ จึงควรถูกมองว่าเป็นการแสดงความเกลียดชัง ซึ่งทางองค์กรยังพบว่าเนื้อหาเหล่านี้เข้าถึงได้ง่ายผ่าน Twitter, Reddit และ YouTube ด้วย โดยมักใช้คำว่า holohoax (คำว่าฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ ผสมกับคำว่าหลอกลวง)
ขณะที่โฆษกของเฟซบุ๊กได้กล่าวว่า เฟซบุ๊กได้ลบโพสต์ใดๆ ที่พยายามยกย่อง หรือสนับสนุนการปฏิเสธการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ รวมถึงเนื้อหาที่ล้อเลียนเหยื่อในเหตุการณ์ และโพสต์ที่สร้างความเกลียดชัง หรือสนับสนุนการใช้ความรุนแรงกับชาวยิว ทั้งยังลบกลุ่ม หรือเพจเหล่านี้ออกจากการแนะนำด้วย ซึ่งเนื้อหาเหล่านี้ขัดต่อนโยบายของเฟซบุ๊ก โดยเฟซบุ๊กเองก็ได้ทบทวนนโยบายและพูดคุยกับองค์กรต่างๆ ทั่วโลกมาโดยตลอด
ย้อนไปเมื่อช่วงปลายเดือนกรกฎาคม เกิดแคมเปญ #NoDenyingIt ที่ผู้รอดชีวิตจากเหตุการณ์ฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ทั่วโลก เรียกร้องต่อ มาร์ก ซักเกอร์เบิร์ก CEO ของเฟซบุ๊ก ให้ลบเนื้อหาเกี่ยวกับการปฏิเสธการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ออกจากแพลตฟอร์ม โดยในตอนนั้นเฟซบุ๊กก็ระบุว่า จะนำเนื้อหาเหล่านี้ออก ในประเทศที่มีกฎหมายห้ามค้านว่าเหตุการณ์ฮอโลคอสต์เกิดขึ้น อย่างเยอรมนี ฝรั่งเศส หรือโปแลนด์ ขณะที่ประเทศอื่นๆ จะมีการจับตาอย่างใกล้ชิด ซึ่งหากละเมิดเส้นที่กำหนดก็จะลบออกด้วย
https://time.com/5873184/facebook-holocaust-denial-posts/
#Brief #TheMATTER