พะยูนมาเรียมตาย เพราะกินเศษพลาสติกเข้าไป ทำให้คนไทยตื่นตัวการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมมากขึ้น แต่ชะตากรรมของน้องอาจเป็นแค่ยอดภูเขาน้ำแข็งของผลกระทบสิ่งที่มนุษย์กระทำต่อธรรมชาติ
กองทุนสัตว์ป่าโลกสากล หรือ WWF เพิ่งเปิดรายการสิ่งแวดล้อมโลก หรือ The Living Planet Index ประจำปี ค.ศ.2020 ที่จัดทำร่วมกับสมาคมสัตว์วิทยาแห่งลอนดอน ซึ่งให้ข้อมูลน่าสนใจว่า ช่วง 50 ปีหลัง (ระหว่างปี ค.ศ.1970 – ปัจจุบัน) จำนวนสัตว์ป่าลดลงถึงกว่าสองในสาม
รายงานนี้ของ WWF มี 2 เวอร์ชั่น คือฉบับเต็ม 83 หน้า และฉบับย่อ 25 หน้า แต่ให้ข้อมูลหลักๆ ตรงกันว่า สัตว์ป่า ทั้งสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนม สัตว์ปีก สัตว์สะเทิ้นน้ำสะเทิ้นบก สัตว์เลื้อยคลาน และปลา มีจำนวนลดลงเฉลี่ย 68% – ซึ่งเป็นตัวเลขที่วิกฤต และแสดงให้เห็นชัดเจนว่า กิจกรรมของมนุษย์กระทบต่อธรรมชาติ
สาเหตุที่ทำให้จำนวนสัตว์ลดลงมากที่สุด มีอยู่ 2 ปัจจัย 1.การใช้ประโยชน์พื้นที่ผิดประเภท และ 2.การค้าขายสัตว์ป่า
การเปิดเผยรายงานฉบับนี้ของ WWF มีขึ้นก่อนการประชุมสภาผู้นำองค์การสหประชาชาติครั้งที่ 75 ซึ่งผู้นำแต่ละชาติและผู้เชี่ยวชาญจะมาพูดคุยกันถึงผลสัมฤทธิ์ในการปฏิบัติตามเป้าหมายของการพัฒนาอย่างยั่งยืน (SDGs) ของสหประชาชาติ และสนธิสัญญาปารีส (Paris Agreement)
“นี่คือความหวังที่เราจะได้เห็นธรรมชาติที่สมบูรณ์ถูกส่งต่อให้กับคนรุ่นต่อไป บรรดาผู้นำของโลกต้องช่วยกันส่งเสริมการทำงานอนุรักษ์ ลดทอนปัญหาการตัดไม้ทำลายป่าที่เป็นต้นกำเนิดของปัญหามากมายบนโลก” มาร์โก แลมเบอร์ตินี้ ผู้อำนวยการ WWF กล่าว
– อ่านสรุปรายงาน (ภาษาไทย): https://www.wwf.or.th/our_news/publication/news/?uNewsID=364764&
– อ่านรายงานฉบับย่อ: https://f.hubspotusercontent20.net/hubfs/4783129/LPR/PDFs/ENGLISH-SUMMARY.pdf
– อ่านรายงานฉบับเต็ม: https://f.hubspotusercontent20.net/hubfs/4783129/LPR/PDFs/ENGLISH-FULL.pdf
#Brief #TheMATTER