มาถึงตอนนี้แล้ว มีความเป็นไปได้สูงมากว่าการเลือกตั้งในวันที่ 24 ก.พ. 62 อาจจะไม่เกิดขึ้น เพราะจะถูกย้ายออกไปเป็นวันอื่นแทนตามการให้คำชี้แจงของรัฐบาล
หลายวันมานี้จึงมีกระแสเรียกร้องมากมายในโซเชียลมีเดีย เช่น การเกิดขึ้นของ hashtag #เลื่อนแม่มึงสิ แบบกระหน่ำรัวๆ คัดค้านการเลื่อนเลือกตั้งออกไปจากวันที่ 24 ก.พ. ตามที่เคยคาดการณ์กันเอาไว้
อีกหนึ่งกระแสที่น่าสนใจไม่น้อยคือ #ทวงคืนวันสอบ ที่นักเรียนไทยต้องการให้รัฐบาลหรือผู้มีส่วนเกี่ยวข้อง ตัดสินใจเลื่อนวันสอบ GAT/PAT ให้กลับมาเป็นช่วงเวลาเดิม (ระหว่าง 23-26 ก.พ. 2562) เพื่อคืนช่วงเวลาเตรียมตัวสอบ 1 สัปดาห์ที่เคยหายไปเพราะต้องหลีกทางให้การเลือกตั้งกลับคืนมา
“ทาง สทศ. ได้เลื่อนวันสอบขึ้น 1 อาทิตย์เพราะคาดว่าจะเกิดการเลือกตั้งในวันดังกล่าว แต่หากวันเลือกตั้งได้เลื่อนต่อไป ขอให้ทาง สทศ. ช่วยพิจารณาวันสอบเลื่อนกลับไปเป็นวันที่ 24 กุมภาพันธ์ 2562 ดังเดิม ให้ความยุติธรรมแก่เด็กนักเรียนด้วยครับ อย่างน้อยก็จะได้วันเตรียมตัวการสอบเพิ่มอีก 7 วัน”
ข้อความข้างบนคือคำเรียกร้องบนแคมเปญ ‘เปลี่ยนแปลงวันสอบ GAT-PAT หากเลื่อนเลือกตั้ง’ ที่เกิดขึ้นในเว็บไซต์ change.org
สรุปการเปลี่ยนแปลงวันสอบ GAT/PAT ได้ว่า
วันสอบเดิม : 23-26 ก.พ. 2562 (ชนเลือกตั้ง)
วันสอบใหม่ : 16-19 ก.พ. 2562 (หนีวันเลือกตั้ง)
ข้อเรียกร้อง : กลับไปสอบวันที่ 23-26 ก.พ. 2562 (น่าจะไม่ชนเลือกตั้งแล้ว)
ฟังเสียงนักเรียนทวงคืน 1 สัปดาห์ก่อนสอบที่หายไป
ถ้าเข้าไปสำรวจ #ทวงคืนวันสอบ ในทวิตเตอร์ เราจะพบนักเรียนไปจำนวนไม่น้อยเลยทีเดียว ที่สะท้อนถึงความสำคัญเรื่อง 1 สัปดาห์ก่อนการเตรียมสอบที่ควรจะได้รับกลับมา หลายคนเชื่อว่า ถึงแม้ผู้ใหญ่จะเห็นเป็นประเด็นเล็กๆ แต่นี่คือการสอบที่จะมีส่วนตัดสินในอนาคตทางการศึกษาของพวกเขาเลยนะ ทำไมเรื่องเหล่านี้ถึงจะไม่สำคัญล่ะ?
“เลื่อนปลายภาคมากลางเดือน ก.พ. ถ้าสมมติเลื่อน gat pat ไปวันเดิม ก็คือเวลาหนึ่งอาทิตย์นั้นสอบปลายภาคเสร็จแล้ว สามารถอ่านหนังสือทั้งวันทั้งคืนได้ 1 อาทิตย์เลยนะ คิดดูสิว่ามันมีค่าแค่ไหน” ผู้ใช้ทวิตเตอร์คนหนึ่งระบุ
ส่วนอีกคนอธิบายว่า
“เป็นเด็ก ม.6 คนหนึ่งที่ทุ่มเทกับการสอบเข้ามหาลัยมาก มันไม่ใช่แค่เผื่อตัวเองแต่หวังว่าสักวันเรียนจบไปจะเป็นคนที่มีคุณภาพในสังคมให้ได้ แต่เจอเรื่องอะไรแบบนี้คือบอกตรงๆ ว่าเสียความรู้สึกแค่เวลา 1 นาทีมันก็มีค่ามากแล้วนี่ 1 อาทิตย์อะสามารถเปลี่ยนคะแนนสอบเปลี่ยนชีวิตได้เลยนะ”
สอดคล้องกับความเห็นนี้ที่บอกว่า “ไม่มีเหตุผลที่วันสอบของ #dek62 ต้องเสียไปโดยไร้ประโยชน์ ถ้าเรียกร้องในเรื่องแบบนี้ไม่ได้ แล้วประเทศคุณว่าจะเหลืออะไรล่ะ? เรายังเป็นสิ่งสำคัญต่อประเทศคุณอยู่มั้ย เห็นใจเสียงของพวกเราบ้างเถอะ”
ขณะเดียวกัน ยังมีผู้ที่แสดงความเห็นว่า การเลื่อนออกไปยังกระทบกับเด็กมัธยมปลายในทุกระดับชั้นด้วยเหมือนกัน เนื่องจากโรงเรียนต้องรีบสอบให้จบหลักสูตรตามไทม์ไลน์การศึกษาที่เปลี่ยนไป
“ไม่ได้กระทบแค่ ม.6 ม.4 ม.5 ก็กระทบเพราะต้องเร่งเรียนเพื่อให้จบหลักสูตรแล้วให้พี่ ม.6 ไปสอบมหาลัย แล้วพวกคุณมาเลื่อนมาพูดกลับกลอกสับปรับแบบนี้ ไม่ได้เดือดร้อนแค่จุดเล็กๆ คนกลุ่มเดียว ไม่ได้กระทบแค่เด็กแต่กระทบหน่วยงานอีกหลายหน่วยงานโปรดรับผิดชอบวาจาของคุณ”
ผลกระทบการศึกษา จากปัญหาที่เด็กไม่ได้ก่อ
กลุ่มการศึกษาเพื่อความเป็นไท ออกข้อเรียกร้องคืนช่วงเวลาสอบที่หายไป 1 สัปดาห์ โดยมองว่า ที่ผ่านมาการเลื่อนเลือกตั้งออกไปมักเป็น ‘ข้ออ้าง’ มากกว่า ‘เหตุผล’ ที่สำคัญคือ ในคราวนี้มันมีเรื่องอนาคตการศึกษาของนักเรียนเป็นเดิมพันด้วย
“ครั้งนี้มันแตกต่างออกไป เพราะมันมีอนาคตของเด็กนักเรียนมัธยมปลายช่วงใกล้สอบมาเดิมพันด้วย ทำให้เด็กเกิดแรงบีบอัดในเวลาเตรียมตัวสอบที่น้อยลง เด็กสะสมความกดดันทวีคูณยิ่งขึ้น
“ผลกระทบที่เด็กๆ ไม่ได้ก่อมันควรแล้วหรอที่เด็กจะต้องร่วมรับผิดชอบกับคำพูดของผู้ใหญ่ ในประเทศที่หาความแน่นอนไม่ได้และมีแต่ข้ออ้าง? สมควรแล้วหรือที่เรื่องการศึกษาจะต้องหลีกทางให้กับที่ผลประโยชน์ทางการเมืองเรื่องเลื่อนเลือกตั้งเข้าๆ ออกๆ แบบนี้? เราควรกำหนดอนาคตของเราเองได้ เราควรเลือกอนาคตเองได้ และเราจะ #ทวงคืนวันสอบ เพราะมันคืออนาคตของพวกเรา”
ด้านนายกรัฐมนตรี มีความเห็นต่อเรื่องนี้ว่า อยากให้ ‘หลานๆ’ อดทนรออีกหน่อย รอให้ กกต.กำหนดวันเลือกตั้งให้ชัดเจนแล้วจะมีการวางแผนเรื่อง GAT/PAT ต่อไป
“ตอนนี้ผมเห็นว่ามีกระแสว่าหลานๆ นักเรียนอยากจะ #ทวงคืนวันสอบ ผมเข้าใจหลานๆ นะครับ แต่อย่างไรก็ตามอยากให้หลานๆ อดทนรออีกเล็กน้อย ให้ กกต.ได้กำหนดวันเลือกตั้งให้ชัดเจน เพื่อที่ ทปอ. จะได้สามารถวางแผนพิจารณาการเลื่อนวันสอบ GAT PAT ต่อไปครับ” นายกฯ ลงตู่ ระบุผ่านทวิตเตอร์ ความเห็นทำนองเดียวกันนี้ ยังมาจากรัฐมนตรีกระทรวงศึกษาธิการ นพ.ธีระเกียรติ เจริญเศรษฐศิลป์ ทุกอย่าวต้องรอ กกต. แต่ถ้าเลื่อนได้ก็น่าจะเป็นเรื่องที่ดี
สุดท้ายแล้วจึงดูเหมือนว่า สิ่งที่เด็กนักเรียนทำได้ในตอนนี้คือ ‘รอ’ ความชัดเจนจากผู้ใหญ่แต่เพียงอย่างเดียว ในขณะที่ช่วงเวลาการสอบ และการปิดภาคเรียนของมัธยมปลาย กำลังเขยิบใกล้เข้ามาเรื่อยๆ อยู่ทุกวินาที
อ้างอิงจาก
https://www.dailynews.co.th/politics/686149
https://mgronline.com/uptodate/detail/9620000001224
https://www.thairath.co.th/content/1462176