จำความเครียดจากการเตรียมสอบเข้ามหาวิทยาลัยได้ไหม แล้วเคยโกรธเคืองกับระบบการศึกษาที่ไม่เป็นธรรมหรือเปล่า?
เด็กคืออนาคตของชาติ แต่ทำไมการศึกษาไทยถึงทิ้งให้พวกเขาเดียวดาย .. เมื่อนักเรียนร่วมกันเรียกร้องให้เลื่อนการสอบเข้ามหาวิทยาลัยอันเป็นวาระสำคัญในชีวิต หลังแพลนทุกอย่างในชีวิตพังทลายเพราะการระบาดของ COVID-19 แต่ผู้จัดสอบทั้งหลายกลับยืนยันที่จะใช้กำหนดการเดิม
ตลอดช่วงต้นปีที่ผ่านมามีข้อเสนอจากนักเรียนทั้งหลายให้ผู้จัดสอบไม่ว่าจะเป็นกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) สถาบันทดสอบทางการศึกษาแห่งชาติ (สทศ.) ที่ประชุมอธิการบดีแห่งประเทศไทย (ทปอ.) และสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) ให้เลื่อนกำหนดการจัดสอบออกไปอีกหน่อยเพราะการเลื่อนเวลาเปิดเทอมทำให้เวลาเรียนกระชั้นชิดเกินไปจนช่วงสอบติดกันไปหมด
The MATTER ขอชวนทุกคนมาลองดูตารางสอบของเด็ก 64 เพื่อให้เข้าใจถึงสิ่งที่พวกเขาต้องเผชิญ เมื่อการสอบแต่ละวิชา แต่ละประเภทที่ปกติแล้วต้องอยู่ห่างกันเป็นเดือนๆ เพื่อให้นักเรียนได้มีเวลาพักและเตรียมตัว กลับอยู่ติดกันในรอบสัปดาห์จนเรียกได้ว่าแทบไม่มีเวลาพักหรืออ่านหนังสือเพิ่มเติมเลย
การสอบที่ติดกันนี้มีตั้งแต่สอบ GAT/PAT ในช่วงวันที่ 20-23 มีนาคม สอบ O-NET ในวันที่ 27 และ 29 มีนาคม สอบวิชาสามัญ ในวันที่ 3-4 เมษายน สอบวิชาเฉพาะ กสพท. ในวันที่ 10 มีนาคม ทั้งยังมีการสอบวิชาเฉพาะของแต่ละมหาวิทยาลัยแยกออกไปอีก และการสอบปิดภาคเรียนของแต่ละโรงเรียนที่บางแห่ง ก็คาบเกี่ยวช่วงสอบเข้ามหาวิทยาลัยไปด้วย
นอกจากนี้การสอบแต่ละประเภทก็มีลักษณะต่างกันออกไป จึงไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะอ่านสอบแค่วิชาเดียว แล้วสามารถนำไปใช้กับทุกรูปแบบการสอบได้
เท่ากับว่าเหล่าเด็ก 64 ต้องสอบกันอย่างมากที่สุดกว่า 30 วิชาในรอบ 20 กว่าวัน
ที่ผ่านมานักเรียนได้เสนอให้ผู้มีอำนาจในการจัดสอบเลื่อนกำหนดการสอบบางประเภทออกไป แต่ทางผู้จัดสอบต่างยืนยันตามกำหนดการเดิมโดยแถลงการณ์จาก ศธ. ทปอ. กสพท และสทศ. ได้ออกแถลงการณ์ร่วมกันในวันที่ 7 มีนาคมว่า “การเลื่อนสอบต้องมองภาพรวมทั้งหมด และผลกระทบที่จะเกิดขึ้นเป็นลูกโซ่”
ทาง ทปอ.ชี้แจงว่า ได้แจ้งกำหนดการสอบล่วงหน้าไปถึง 7 เดือนแล้ว แต่จากการระบาดระลอกสอง เมื่อช่วงปลายปีถึงต้นปีที่ผ่านมา ทำให้หลายโรงเรียนย้ายไปสอนออนไลน์อีกครั้ง พร้อมภาระงานที่เพิ่มมากขึ้น เหล่านักเรียนจึงต้องออกมาเรียกร้องกัน
ถึงอย่างนั้น ก็มีนักเรียนอีกจำนวนหนึ่งที่ไม่ต้องการให้เลื่อนการสอบ เพราะได้เตรียมกำหนดการตัวเองไปเรียบร้อยแล้ว ซึ่งประเด็นนี้ก็ถูกวิพากษ์วิจารณ์ว่า เป็นผลมาจากการที่ผู้จัดสอบไม่รีบเลื่อนกำหนดการณ์ออกไปตั้งแต่แรก ทำให้หลายคนไม่สามารถปรับเปลี่ยนตารางได้ทัน
ขณะที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เคยกล่าวถึงข้อเรียกร้องของการเลื่อนสอบเอาไว้ว่า ถึงจะปิดโรงเรียนถ้าทุกคนอ่านหนังสือก็พอจะทำได้แม้ว่าจะไม่ได้ไปโรงเรียนถ้าทุกคนขวนขวายก็น่าจะได้พอสมควร ข้อสอบมันไม่น่าจะยากเกินไปนัก พร้อมระบุว่า ยอมรับว่ามีปัญหาอยู่บ้างแต่ต้องฟังเสียงของคนส่วนใหญ่ด้วย
อย่างไรก็ดีหลายคนยังคงหวังและเรียกร้องให้ผู้จัดสอบพิจารณาการเลื่อนสอบอีกครั้งโดยกลุ่มนักเรียนเลวได้ทำเว็บไซต์เพื่อให้นักเรียนที่ได้รับผลกระทบจากกำหนดการสอบนี้มาลงชื่อสนับสนุนการเลื่อนสอบ [ร่วมลงชื่อในเว็บไซต์นี้: https://badstudent.co] เพื่อจะนำไปฟ้องศาลปกครอง เพื่อเรียกร้องให้เลื่อนการสอบออกไป
ท้ายที่สุดแล้ว นอกจากการเลื่อนการสอบแล้ว อีกหนึ่งสิ่งสำคัญที่ผู้ใหญ่ต้องตระหนักกันจากประเด็นนี้ก็คือ เราจะสามารถช่วยเหลือเด็กๆ อันเป็นอนาคตของชาติตามที่พูดกันไว้ได้อย่างไรบ้าง แล้วระบบการสอบที่เป็นอยู่นี้ สามารถปรับเปลี่ยนได้แค่ไหน เพื่อให้การศึกษาไทยไม่ทอดทิ้งเด็กคนไหนไว้ข้างหลังอย่างแท้จริง