ทุกครั้งที่ฉันนั้นเห็นภาพเธอ วันคืนเก่าๆ ก็กลับมาเสมอ
มีแต่เธอที่จะไม่กลับมาแล้ว
หากพูดถึงศิลปินไทยที่มีเสียงเป็นเอกลักษณ์มากที่สุด หนึ่งในนั้นที่อยู่ในใจใครหลายคน ย่อมเป็น โจ้—อัมรินทร์ เหลืองบริบูรณ์ อดีตนักร้องนำวง PAUSE ผู้ที่เคยได้รับคำยกย่องว่าเป็น ‘นักร้องเสียงมหัศจรรย์’ ของวงการเพลงไทย
จากวันนั้นถึงวันนี้ เพลงที่เขาร้องยังคงถูกเปิดตามสถานีวิทยุ ร้านอาหาร หรือแม้แต่ในห้องนอนผ่านลำโพงคอมพิวเตอร์ เพลงต่างๆ ที่โจ้เคยร้องยังอยู่ในความทรงจำของเราอย่างแนบแน่น และคงไม่เกินตัวไปนัก ถ้าจะพูดว่า เพียงแค่อินโทรของเพลงอย่าง ความลับ ข้อความ ที่ว่าง หรือ รักเธอทั้งหมดของหัวใจขึ้น เราก็สามารถร้องตามเสียงของเขาต่อได้ไปถึงจนจบเพลง
เนื่องในโอกาสครบรอบ 17 ปีการจากไปของโจ้ เพื่อนสนิทมิตรสหายของเขา ได้ออกมาระลึกถึงศิลปินผู้นี้เหมือนเช่นเดิมที่เกิดขึ้นแทบทุกปี ในปีนี้ นอ—นรเทพ มาแสง โพสต์เฟซบุ๊กถึงเพื่อนรักเอาไว้ว่า
“คิดถึงมึงตลอด ไม่เคยลืมนะ บางวันก็ฝันว่ามึงยังอยู่ มึงเสือกโผล่มาจากไหนไม่รู้ ดีใจแทบตาย ตื่นมาก็ เออ มันจะเป็นไปได้ไงวะ
“วงเราก็ดี ไปได้เรื่อยๆ เฟ้นมันก็ดีขึ้นทุกวัน กูพูดถึงมึงทุกเวทีเวลาแนะนำวง ว่าขอเสียงให้มึงด้วย มึงไม่ได้ลาออก ไม่ได้ถูกไล่ออกจากวง แต่มึงมาร้องเพลงไม่ได้ เฟ้นมาร้องแทน และมึงยังอยู่กับเรา มึงยังอยู่วงพอส ส่วนกู มึงจะอยู่ในความทรงจำเสมอนะ โชคดีนะมึง หลับให้สบาย นอ เพื่อนมึง” ถ้อยคำง่ายๆ ที่เล่าออกมาอย่างจริงใจของนอ ทำให้เราน้ำตาตามคลอไปกับความทรงจำและการคิดถึงศิลปินผู้จากไป เมื่อปี 2559 นอก็เคยแต่งเพลงพิเศษขึ้นมาให้กับโจ้แล้ว ในชื่อเพลงว่า ‘หลับตาแล้วฝัน’
ส่วน บอส—นิรุธ เดชบุญ มือกลองของวง เขียนความทรงจำลงในเฟซบุ๊กว่า
20 ก.พ. เวียนมาทุกปี ความเศร้าค่อยๆ คลายไป แต่ความคิดถึงยังคงอยู่ ความหลังมันติดแน่นในความทรงจำ ความรู้สึกดีๆ ไม่เคยเปลี่ยน
วง PAUSE เปิดตัวอย่างเป็นทางการเมื่อปี 2539 เป็นการรวมตัวของศิลปินรุ่นใหม่ 4 คน ได้แก่
โจ้—อัมรินทร์ เหลืองบริบูรณ์ ร้องนำ
เอ—พลกฤษณ์ วิริยานุภาพ กีตาร์
บอส—นิรุธ เดชบุญ กลอง
นอ—นรเทพ มาแสง เบส
PAUSE เป็นวงดนตรีสังกัดเบเกอรี่มิวสิค ออกอัลบั้มแรกอย่างเป็นทางการเมื่อปี 2539 กับอัลบั้มชื่อว่า ‘Push (Me) Again’ โดยมีเพลง ‘ที่ว่าง’ เป็นเพลงที่หลายคนยังคงจดจำเสียงของโจ้ได้ถึงวันนี้
โจ้เคยเข้าร่วมงานประกวดดนตรี ‘โค้ก มิวสิค อวอร์ด’ ในปี 2536 ซึ่งเป็นเวทีแห่งความฝันของวัยรุ่นผู้รักดนตรีในยุคสมัยนั้น และทำให้เขาได้รับรางวัลชนะเลิศ ประเภทขับร้องเดี่ยว หลังจากที่โจ้เรียนจบจากมหาวิทยาลัย เขาก็ได้รับคัดเลือกให้เข้าร่วมโครงการ College Artist ซึ่งเป็นจุดสำคัญให้เขาได้ฟอร์มวงขึ้นกับเพื่อนและรุ่นน้อง รวมตัวกันไปแสดงดนตรีตามวาระต่างๆ โดยเฉพาะกับเวทีของ ‘ไพเรท เรดิโอ’ ที่ทำให้พวกเขาได้เซ็นสัญญาร่วมกับค่ายเพลงเบเกอรี่มิวสิค
ในช่วงแรกของการเปิดตัว PAUSE ได้ขึ้นเวทีร่วมกับศิลปินอย่าง อรอรีย์ และ วงซีเปีย ในเวทีคอนเสิร์ต เบเกอรี่ออนเดอะร็อค ที่ห้างมาบุญครอง
Pause ออกผลงานอีก 3 อัลบั้มกับเบเกอรี่ คืออัลบั้ม Evo & Nova (ปี 2541) Mild (2542) และ Rewind (2543) ส่วนโจ้ได้มีอัลบั้มเดี่ยว Simply Me ที่ทำงานร่วมกับ ธีร์ ไชยเดช ในปี 2543
เมื่อเวลาเดินทางมาถึงปี 2545 ก็ได้เกิดเหตุการณ์ที่โจ้ได้เสียชีวิตในช่วงกลางดึกของวันที่ 20 ก.พ. ในแมนชั่น ซอยสุขุมวิท 50 ข่าวนี้ได้สร้างความโศกเศร้าให้กับทั้งคนในวงการเพลง รวมถึงแฟนเพลงที่ไม่คาดคิดกับสิ่งที่เกิดขึ้น
ด้วยความรักในตัวตน และผลงาน ได้ทำให้การระลึกถึงโจ้ผ่านบทเพลงได้มีขึ้นจากผู้คนมากมายอยู่เรื่อยๆ หากนับกับแค่สิ่งที่เกิดขึ้นในช่วงไม่กี่ปีมานี้ ก็คือเมื่อโอกาสครบรอบ 14 ปีการจากไปของโจ้ ทาง ME Records ได้ปล่อยเอ็มวีเพลง ‘รักอยู่รอบกาย’ ในเวอร์ชั่นที่สมาชิกดั้งเดิมครบ 4 คน
“หากคำว่ารักคือคำที่แทนทุกสิ่งได้จริงอย่างที่มีความหมาย รักเอยเจ้าอยู่แห่งใด รักเอยจงอยู่รอบกาย ขอจงโอบกอดเราไว้ตลอดไป” เสียงของโจ้ได้ปรากฎในเพลงที่เขาเคยอัดทิ้งเอาไว้ก่อนเสียชีวิต
ในปี 2561 ค่าย LOVEiS+ ได้ปล่อยเพลง ‘Someday I’ll Meet You On The Other Side’ ที่ บอย โกสิยพงษ์ แต่งขึ้นมาหลังจากที่ได้รับทราบข่าวการเสียชีวิตของโจ้ โดยทำนองเพลงนี้ ได้ถูกนำไปใช้ในเพลง ‘ใคร’ ในอัลบั้ม Million Ways To Love – Part 1
ตลอดเวลามากกว่า 10 ปีที่โจ้จากไป เสียงเพลงและผลงานของเขา ยังติดแน่นอยู่ในใจของหลายคนมาเสมอ แม้แพลตฟอร์มในวงการเพลงเปลี่ยนไป จากการฟังผ่านตลับเทป สู่ซีดี MP3 จนถึงยุคที่เราฟังเพลงกันผ่านการสตรีมมิ่งบนโลกดิจิทัล
หากแต่เสียงที่อ่อนหวานและอบอุ่นของเขา ยังคงเดินทางควบคู่มากับการเติบโตของพวกเราอยู่เสมอ
อ้างอิงจาก
https://www.thairath.co.th/content/1500601
https://www.thairath.co.th/content/329132
https://www.posttoday.com/ent/news/417613